รีวิวงานแต่งกลางทุ่งนา สไตล์ Eco Rustic

จัดงานชิลล์ๆ วิวกลางแจ้ง
       สถานที่จัดงานแต่งงานของเราเป็นทุ่งนาของญาติเจ้าสาวครับ อยู่แถวมีนบุรี ยังมีความเป็นธรรมชาติครบสมบูรณ์อยู่ บวกกับความรู้สึกส่วนตัวของผมที่ว่าโลเคชั่นแบบนี้หายาก เลยตัดสินใจเลยว่าจะเอาที่นี่! เราบอกแขกล่วงหน้าไปว่างานจะจัดที่ทุ่งนา ธีมขาวเขียว เน้นแสงธรรมชาติ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง ก็มาเลยแล้วกัน แล้วเดี๋ยวจะรู้เอง!
        ช่วงเวลาระหว่างที่เราเตรียมงานตลอด 1 เดือน มีอะไรเกิดขึ้น (กับทุ่ง) เยอะมาก แต่ก็สรุปกันว่าเราจะยังใช้ที่นี่ต่อ เริ่มตั้งแต่ตอนแรกที่มาดู ทุ่งนาเป็นสีเขียวหมด สวยมาก พอผ่านไปประมาณ 10 วัน ฝนตก ต้นข้าวเริ่มตั้งท้องและล้ม ชาวนาต้องเกี่ยวข้าวเร็วกว่าที่คิดไว้ ดังนั้นก่อนจัดงาน 5 วัน ทุ่งก็กลายเป็นสีเหลือง และที่พีคที่สุดคือก่อนวันงาน 2 วัน เขาเผานากันด้วย! แต่เราก็สู้มาก ไม่เปลี่ยนโลเคชั่น ยิ่งเราเป็นช่างภาพก็พอมองออกว่าถ้าใช้เลนส์กว้าง ภาพน่าจะออกมาโอเค บางส่วนด้านหลังจะยังเบลอๆ เพราะฉะนั้นไม่น่าเป็นปัญหาอะไร

สภาพอากาศคือตัวแปรที่สำคัญที่สุด
        สำหรับการเตรียมงาน เนื่องจากวันที่เราไปดูทุ่งกันตอนแรกมีฝนตก เราเลยเตรียมสั่งเต๊นท์สีขาวมาประมาณ 5-6 ตัว ให้เข้ากับธีมงาน ตั้งห่างจากเวทีเกือบ 10 เมตร อย่างน้อยถ้าฝนตก แขกจะได้มีที่หลบฝน หรือถ้าไม่อยากตากแดดก็ยังพอหลบในที่ร่มได้ อาหารเน้นง่ายๆ ชิลล์ๆ งานเราจัดกลางแจ้ง อาหารต้องเผื่อร้อนเผื่อเย็นได้ประมาณ 2-3 ชม. โดยไม่เสีย สุดท้ายเลยเลือกซาลาเปา ดูวัยรุ่นก็กินได้ ผู้ใหญ่ก็กินดี
        แบ็คกราวน์ด้านหลังแน่นอนว่าเป็นวิวทุ่งนา โชคดีมีเพื่อนทำพร็อพอยู่ที่ Phenomena เขาเห็นว่าการตกแต่งยังโล่งไป เลยทำโบว์เป็นริ้วๆ มาผูก เวลาถ่ายจะได้มี Foreground/Background ขึ้นมาหน่อย ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาตรงความตั้งใจของเราที่อยากให้ทุกคนได้มาถ่ายรูปมากๆ  เพราะมาถึงก็เฮโลลุยทุ่งกันเลยครับ (หัวเราะ)

ง่ายๆ สไตล์เรา
        งานนี้เราพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาเป็นธรรมชาติ สบายๆ ตรงกับไลฟ์สไตล์บ่าวสาวที่สุด เราจัดการรวบรัดตัดตอนพิธีการให้กระชับ ไม่มีขันหมาก และเปลี่ยนจากการเชิญพระไปเป็นการใส่บาตรด้วยกัน 9 รูปแบบง่ายๆ  เสร็จแล้วก็มีพิธีเช้าสำหรับผู้ใหญ่ จบแล้วรีบมูฟมาตรงทุ่ง ใช้เวลารวมตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงจบงานประมาณบ่ายสองครับ
        ด้วยความที่เราเป็นคนถ่ายรูป และชิลล์ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นช่วงไหนทำอะไรก็จะให้แสงเป็นตัวกำหนดก่อน เช่น ช่วงนี้แสงยังไม่สวย แสงแข็ง เราก็จะบอกพิธีกรก่อนเลยว่าเรายังไม่สวมแหวน ผ่านไปสักพักมีเมฆก้อนใหญ่มาซ้อนกัน แดดรำไรกำลังดี ผมก็โอเค เริ่มพิธีการกัน! เพื่อนๆ ที่มาร่วมงานถึงช่วยถ่ายให้ฟรี แต่เพื่อความเพลย์เซฟ ผมก็มีจ้างมาเผื่อด้วย ครบทั้งกล้องหลัก กล้องแคนดิด และกล้องวิดีโอเลยครับ

แนะนำบ่าวสาว
จัดงานแนวนี้ ต้องคุยกับผู้ใหญ่ก่อนเป็นอย่างแรก : เพราะกว่าจะผ่านด้านนี้ไปได้ก็ใช้เวลานานสุดๆ เทคนิคของผมคือดื้อเงียบครับ บอกไปเลยตรงๆ ว่าอยากได้ที่นี่จริงๆ แล้วถ้าผู้ใหญ่ไฟเขียวให้ผ่าน บางอย่างที่ยอมเขาได้ก็ควรยอมด้วยนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวมีงอน!
ทำใจชิลล์ๆ เข้าไว้ : ไม่ต้องไปกลัวว่างานจะจัดไม่ทัน นู่นนี่นั่นจะทำไม่ได้ อย่างตัวผมเองเป็นช่างภาพ เห็นมาหลายงานจนรู้แล้วว่ายังไงก็ทัน ยังไงก็ทำได้ อย่างชุดเจ้าสาวนี่เราก็ตัดแก้กันมาเรื่อยๆ จนงานจะจัดวันอาทิตย์อยู่แล้ว วันศุกร์ยังแก้กันอยู่ เวทีเราทำวันเสาร์ 1 วันก็เสร็จ ไม่ต้องไปเครียดมากครับ
ทำงานของเราให้ออกมายูนีคที่สุด : ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน ต่อให้จัดงานในทุ่งเดียวกัน แต่รสนิยมไม่เหมือนกัน ตีมสี ชุด อาหาร หรือรายละเอียดทุกๆ อย่าง ก็ย่อมจะทำให้งานของแต่ละคนออกมาแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ
จัดงานในทุ่ง ถ้าไม่มีเวที บอกลาส้นสูงไปเลย : อย่างเจ้าสาวผมเนี่ยเขาใส่ converse สีขาวหุ้มข้อเลยครับ ตอนถ่ายรูปเขาก็ลงไปเดินตรงดิน ตรงทุ่งนาที่เผาแล้วได้ หรืออย่างแขก เราก็แจ้งเขาก่อนล่วงหน้าได้ว่าถ้าเป็นส้นสูงอาจจะไม่สะดวก เพราะมันจมดินหมด