สยามสมาคม สถานที่แต่งงานในสวน ใจกลางกรุงเทพ
ความตั้งใจของเราคืออยากจัดงานแต่งงานในสวน มากกว่าในโรงแรม เพราะแขกมีจำนวนไม่มาก แค่ประมาณ 200 คน ช่วงแรกๆลองไปดูสถานที่แต่งงานอื่นมา 3-4 ที่ แต่มาลงตัวที่ สยามสมาคม (The Siam Society) เพราะตั้งใจจะจัดงานในวันธรรมดา (วันพฤหัส) และแขกที่มาเองก็น่าจะเดินทางสะดวก เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าอโศกด้วย (อันนี้ SabuyWedding ขอชื่นชมว่าเป็นการวางแผนที่ดีมากเลยค่ะ)
ในงานมี decoration เป็นริ้บบิ้นสวยๆ อันนี้ต้องบอกว่าบ่าวสาวไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ ร้านดอกไม้กับออกาไนซ์ช่วยกันวางแผนให้เองเลย เจ้าบ่าวเจ้าสาวแค่เลือกโทนสีเท่านั้น ทางพี่ร้านดอกไม้เคยจัดงานที่นี่บ่อย พอทราบจำนวนแขกเลยช่วยไกด์ให้ว่าควรเดินทางไหน เข้าออกทางไหนแล้วต้องมีอะไรวางตรงไหนบ้าง ต้องชมร้านดอกไม้กับ Catering ที่เราจ้างมา เนื่องจากเค้าเคย Co งานกันมาเป็นอย่างดี ทำให้มีการสื่อสารกันเองด้วย ทำให้ซุ้มอาหารกับการตกแต่งยิ่งเข้ากันมากขึ้นไปอีก
ความประทับใจในงาน
เนื่องจากทางบ้านคุณเจ้าบ่าวเป็นคนจีน พอเราบอกว่าจะจัดงานเลี้ยง cocktail ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็จะกังวลเรื่องอาหาร นึกภาพไม่ออกว่างานลักษณะนี้แขกที่มาร่วมจะอิ่มได้อย่างไร แต่ด้วยความที่ท่านใจดีและเปิดกว้าง ท่านก็ยอมให้เราจัดงานแบบที่เราอยากได้ จิ๋งจึงแก้ปัญหาด้วยการจัดที่นั่งให้เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ มีอาหารเสริฟมีคนดูแล ส่วนของเพื่อนๆเด็กๆ เป็นแบบ cocktail ในวันงานผู้ใหญ่ได้มาเห็นบรรยากาศน่ารักอบอุ่น ทุกคนได้ใกล้ชิดพูดคุยยิ้มแย้ม อาม่าของเจ้าบ่าวที่อายุ 80 ปีแล้วถึงกับออกปากชมว่างานสนุกมาก ช่วยเปิดโลกว่างานเลี้ยงโต๊ะจีนก็สนุกได้ ทำให้เราปลื้มและดีใจมากค่ะ เป็นงานที่ลงตัวระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่จริงๆ ค่ะ
ข้อแนะนำสำหรับว่าที่เจ้าสาว
1. เมื่อได้ฤกษ์มาให้รีบจองสถานที่ก่อนเลย เพราะเมืองไทยฤกษ์ที่ได้มาจะเหมือนๆกัน ยิ่งถ้าอยากจัดงานในสวนแบบนี้กทม.ก็จะมีอยู่ 4-5 ที่ ยิ่งแต่งเดือนฮิตๆ ช่วงปลายปีต้องรีบจอง อย่างตอนที่จิ๋งไปจอง ก็เริ่มเห็นบางวันมี waiting list แล้ว (คุณจิ๋งได้ฤกษ์ก่อนงาน 5-6 เดือน)
2. ช่างจัดดอกไม้หรือ catering ที่จะเลือกใช้ให้ ลองเลือกดูจากผลงานเค้าเยอะๆว่าชอบผลงานของใคร จากนั้นลองโทรหาแต่ละเจ้า ดูเวลาที่เค้าตอบดูความใส่ใจของเค้า อย่างร้านอาหารนี่เก็ถามไปหลายเจ้าแต่บางเจ้าโทรไม่ติด ตอบช้า ทุกส่วนมีผลกับการตัดสินใจของเราทั้งนั้น อย่างเจ้าที่เลือกใช้พอดีว่าโทรไปแล้วนอกจากตอบรับแล้วยังชวนเราไปดูงานที่เค้าจัดจริง วันที่ไปถึงเค้าก็เตรียมตัวอย่างอาหารใส่กล่องพร้อมช้อนส้อมแพคแยกเตรียมไว้ให้เราอย่างดี มันทำให้เราเห็นได้ถึงความใส่ใจ เลยตัดสินใจเลือกได้ไม่ต้องลังเล
3. ช่างภาพก็มีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศของงาน เพราะฉะนั้นการจองช่างภาพนอกจากชอบผลงานแล้ว จิ๋งคิดว่าการเลือกช่างภาพที่เราสนิทคุ้นเคย เค้าจะสามารถช่วยบิ้วให้บรรกาศของงานสนุกสนานมากขึ้นได้ด้วย
4. แนะนำให้ว่าที่เจ้าสาวพักผ่อนเยอะๆ เนื่องจากวันงานของจิ๋งเองมียกน้ำชาตอนตี 4 เพราะฉะนั้นตอนงานเลี้ยงเย็นประมาณ 3 ทุ่มก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว ถ้ายกน้ำชาเช้ามาแบบนี้บางทีเลือกจัดฉลองอีกวันก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเจ้าสาวจะได้สดชื่นขึ้น