ALL WHITE เท่านั้นที่เราต้องการ!
คู่เราอยากได้สถานที่แต่งงานที่รับกับงบประมาณ ดูไม่ทางการมาก ไม่โรงแรมจ๋าค่ะ เราเลือกใช้สถานที่ที่ CDC (Crystal Design Center) (คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์) โดยสีหลักที่เราใช้ในงานจะเป็นสีขาว 95% ของงานจะดูสะอาดตา โปร่ง โล่ง และเป็นระเบียบสุดๆ จะมีแซมสีแดงบ้างนิดหน่อยก็ตรงที่เป็นซุ้มเค้กในส่วนของดอกไม้ หรือ Dress Code เพื่อช่วยตัดเฉดสีของงานให้ออกมาดูสดใส ในขณะเดียวกันก็ยังตอบโจทย์ของเราที่ดูเป็นมินิมอล คือเรียบง่ายแต่ใสใจในรายละเอียดค่ะ
ใช้น้อยให้ได้มาก
แบ็คดรอปของเราโชคดีที่ได้ทีมตกแต่งมาช่วยเสริมไอเดียด้วยค่ะ จากที่ตั้งใจจะทำเป็นสีขาวธรรมดา แต่งด้วยพู่ต้นไม้สีเขียวด้านบน เขาก็ช่วยต่อขยายส่วนปีกเพิ่มให้อีก แล้วทำเป็นช่องให้ใส่เทียนเข้าไปได้ ดูโรแมนติกไปอีกแบบ แถมยังช่วยลวงสายตาให้พื้นที่ที่จำกัดดูเหมือนมีขนาด มีความกว้างเพิ่มขึ้นอีก
ตรงส่วนของแกลอรี่ เราอยากทำให้ออกมาเหมือนนิทรรศการศิลปะที่กำลังจัดแสดงภาพวาดอยู่ ซึ่งจุดนี้เราประยุกต์ใช้ฉากบนเวทีที่ CDC แถมมาให้ในแพคเกจโปรโมชั่น มาตั้งแสดงและปริ้นท์รูปอันใหญ่ๆ ประกอบลงไปแทนค่ะ จากทั้งหมด 4 อันที่เขาให้ในโควต้า เราก็แบ่งสองอันไปใช้กับรูปเดี่ยว ส่วนที่เหลือนำรูปมาต่อกันจนเหมือนเป็นโมเสกตัวอักษรชื่อบ่าวสาว เพื่อให้ในงานดูมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย
ในส่วนของพื้นเราปูเป็นสีขาวทั้งหมด แต่หลังจากปรึกษากันแล้ว ถ้าจะปูขาวทั้งพื้นทั้งเพดาน ขึ้นโครงทำเป็นอุโมงค์ อาจจะใช้งบประมาณมากกว่าที่เราตั้งใจไว้ เลยลดทอนลงมาให้เหลือแค่ส่วนพื้นกับส่วนด้านข้างก็พอ แถมยังประหยัดงบไปได้อีกหน่อย เพราะตรงพื้นเราเลือกปูแบบเฉพาะส่วน ช่วงรอยต่อระหว่างแต่ละจุดเราจะเว้นไว้ เพราะเป็นจุดที่คนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เน้นปูเฉพาะตรงแกลอรี่และแบ็คดรอป และใช้เงินส่วนที่เหลือกับการตกแต่งในส่วนอื่นๆ แทนค่ะ
พวกรูปที่เหลือที่เราเอาขึ้นกรอบโชว์ไม่หมด เราก็นำมาทำเป็นโฟโต้บุ๊คอีก และแทนที่จะไปจ้างร้านหรือ Wedding Studio ให้ทำให้ เราก็ทำกันเองทั้งหมด เซฟงบไปได้เกือบ 70% เลยค่ะ แค่ใช้โปรแกรมสำหรับจัดหน้าแล้วก็ขยันทำไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว ได้แบบที่เราถูกใจด้วยเพราะเราทำเองค่ะ
โมเม้นท์ที่แขกส่วนใหญ่น่าจะประทับใจในงาน เราคิดว่าอาจจะเป็นตอนที่เปิด MV แนะนำตัวบ่าวสาว และฉากขอแต่งงานให้ได้ชมกันค่ะ วันนั้นเรากลับไปที่มหาลัยด้วยกัน ระหว่างที่กำลังยืนอยู่ตรงสะพานกลางสระน้ำ เจ้าบ่าวก็จับมือเราขึ้นมา แล้วพูดเวิร์ดดิ้งที่ซึ้งมาก จังหวะนั้นมือไวโอลินที่เตรียมมา ก็บรรเลงเพลง Canon คลอไปด้วย แต่ตอนทำออกมาเป็น MV เราเปลี่ยนไปใช้เพลงคู่ชีวิตของ Cocktail แทน โดยดูดเสียงเดิมออกค่ะ จะได้เข้ากับภาพและเนื้อหาที่เราต้องการจะสื่อ เป็นอีกภาพความทรงจำที่ดีในช่วงเวลานึง ที่เราอยากจะแชร์ให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้สัมผัสถึงบรรยากาศนั้นร่วมกันค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
คุณเจ้าบ่าวอย่านิ่งนอนใจ แต่งงานทั้งที มาร่วมด้วยช่วยกัน! : บางทีคุณเจ้าบ่าวอาจจะคิดว่าตามใจเจ้าสาวไปเลยง่ายกว่า ยังไงเขาก็ตัดสินใจเป็นหลัก แต่ที่จริงวิธีคิดแบบนี้อาจจะทำให้คุณเจ้าสาวน้อยใจ หรือรู้สึกว่าคุณเจ้าบ่าวไม่ใส่ใจเอาได้ค่ะ ยังไงงานแต่งงานก็เป็นงานของคนสองคน สู้เสนอไอเดียร่วมกันดีกว่า ถึงเสนอไปซัก 10 แล้วจะได้ใช้แค่ 1 ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยซักอย่าง อย่าปล่อยให้เจ้าสาวต้องลุยงานอยู่คนเดียวค่ะ