จัดงานแต่งตอนเช้าที่บ้าน ประหยัดและสะดวกจริงหรือ?!

       
Photo : Impressshot

          เรามักได้ยินจากว่าที่บ่าวสาวเสมอว่า คิดว่าจะจัดงานแต่งเช้าที่บ้าน เพราะช่วยประหยัดงบได้มากกว่า เราเลยนำแง่มุมต่างๆ ในการเตรียมงานมาให้คู่บ่าวสาวได้ลองอ่านกัน ให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ดีขึ้นค่ะ

ก่อนวันแต่งงานต้องทำอะไรบ้าง?

1. เคลียร์บ้านและทำความสะอาด : เพราะบ้านเป็นที่อยู่อาศัย ไม่ใช่สถานที่สำหรับจัดพิธีหมั้นหรืองานแต่งงานโดยตรง สเต็ปแรกสุดจึงต้องเป็นการขนข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ (คำถามคือ ขนเสร็จแล้วจะเอาของไปไว้ตรงไหนด้วยค่ะ) ซึ่งก่อนหน้าเราก็ยังคงใช้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ในชีวิตปกติ ทำให้ไม่ได้สามารถเคลื่อนย้ายก่อนวันงานได้นานมาก ว่าง่ายๆ คือเราต้องทำคืนก่อนวันแต่งงานนั่นแหละ ทำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องกลายร่างเป็นแจ๋วชั่วคราวไปเลยค่ะ
2. จัดการกับส่วนนอกบ้านให้เรียบร้อย :  ในกรณีที่ในบ้านของเราไม่ได้ใหญ่มาก จำเป็นต้องใช้พื้นที่ด้านนอกด้วย เช่น ถ้าเป็นสวนก็ต้องทำให้ดูเรียบร้อยสะอาดตา รวมถึงการคำนึงถึงเรื่องสภาพอากาศ ถ้าร้อนก็ต้องเช่าพัดลมไอน้ำเพิ่ม และหาตำแหน่งที่วางที่เหมาะสม รวมถึงคิดแพลน B ในกรณีฝนตกแล้วต้องเคลื่อนย้ายแขกด้วยค่ะ
3. เช่าของเข้ามาเพิ่ม : ปกติถ้าเป็นโรงแรมหรือสถานที่รับจัดงานแต่ง จะมีเก้าอี้สำหรับแขกจำนวนมากอยู่แล้ว คำถามคือถ้าเป็นที่บ้านแล้วไม่มีจะทำยังไง คำตอบก็คือต้องเช่าเข้ามาเพิ่มนั่นเองค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ได้เสียแค่ค่าเช้าเก้าอี้ แต่ยังต้องเสียค่าขนส่ง แถมยังมีสิ่งอื่นๆ ให้ต้องเช่าเพิ่ม เช่น เต้นท์สำหรับคนนั่งทานอาหาร ไปๆ มาๆ จากที่ตอนแรกเมื่อเทียบกับโรงแรมแล้ว อาหารเหมือนจะถูกกว่า แต่พอรวมกับค่าเช่าอุปกรณ์และขนส่งหลายๆ อย่างก็แทบจะใกล้เคียงกันเลยค่ะ 
4. บอกเพื่อนบ้านเรื่องการจัดงาน : รวมไปถึงการแจ้งคนโดยรอบ ยามหน้าหมู่บ้าน ว่าจะเป็นวันที่มีคนเข้าออกบริเวณนั้นมากกว่าปกติ และต้องกั้นที่จอดรถไว้สำหรับแขก
5. แปลงร่างเป็นผู้จัดการทั่วไป : ถ้าไม่ได้มีทีมรันคิว เจ้าบ่าวเจ้าสาวเองจะต้องประสานงานกับทุกทีมที่จะเข้ามา เพราะของจะต้องมาลงคืนก่อนวันงานทุกอย่าง อาจจะต้องอยู่เซ็ตอัพเอง หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นคนคุมการเซ็ตอัพค่ะ

แล้ววันแต่งงานจริงล่ะ?

1. คำนึงเรื่องความเพียงพอของที่จอดรถ : รวมไปถึงห้องน้ำ ยิ่งถ้าแขกจำนวนมากและห้องน้ำมีน้อย จะไม่สะดวกต่อแขกที่ต้องต่อคิวรอ (รวมไปถึงเรื่องรองเท้า ที่จะมีมาถอดกองเต็มหน้าบ้าน ไม่เหมือนโรงแรมที่แขกเดินสวมรองเท้าเข้าภายในงานได้เลย)
2. รับมือกับความปรารถนาดีของญาติๆ : เพราะการจัดงานที่บ้าน ญาติๆ จะมีส่วนร่วมได้เยอะกว่าที่โรงแรมค่ะ ทุกคนปรารถนาดี แต่มีความเชื่อและประสบการณ์ที่ต่างกัน จึงอาจจะเกิดความสับสนในเรื่องของพิธีหมั้นได้ง่าย
3. อย่าลืมเรื่องทีมงานช่วยขนย้ายอุปกรณ์ด้วย : เพราะแต่ละช่วงพิธีหมั้นการวางเก้าอี้นั่งของผู้ใหญ่ไม่เหมือนกัน เช่น เก้าอี้ช่วงพิธีรับไหว้ไม่ได้จัดเซ็ตติ้งเหมือนตอนพิธีหมั้น ใครล่ะจะเป็นคนมาช่วยเราดูแลเคลื่อนย้าย?  

          นอกจากที่ว่ามานี้ พื้นที่ที่จำกัดของบ้าน ยังทำให้ช่างภาพทำงานลำบากด้วยค่ะ เวลาถ่ายจะติดมุม ติดแขก ถอยไปทางไหนก็ชนไปหมด หาจุดเหมาะๆ ได้ยาก ภาพอาจจะออกมาไม่สวย  (และโปรดนึกภาพว่าเคลียร์บ้านจัดงานเสร็จแล้ว จบงานก็ต้องเก็บบ้านด้วยน้า)
          โดยรวมแล้วการจัดงานหมั้นงานแต่งที่บ้าน จึงอาจมีค่าใช้จ่ายที่เรานึกไม่ถึงเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยค่ะ ประเมินดูแล้วค่าใช้จ่ายไม่ได้ต่างจากการจัดงานที่โรงแรมมาก แต่ระดับความเหนื่อยต่างกันมากจริงๆ

          ดังนั้นหากอยากประหยัด เราเชียร์ว่าโรงแรมบางที่ ค่าจัดงานหมั้นเริ่มแค่ 10,000 บาทเท่านั้นเองค่ะ มีของมาตรฐาน ดอกไม้ตกแต่งและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในพิธีพร้อม ถึงเวลามีคนจัดการ ที่จอดรถเพียงพอ หรือขยับขึ้นไปหน่อยเป็นสัก 25,000 ก็มีอาหารให้ทานแล้ว อร่อย สะดวก ไม่ต้องประสานงานเอง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้บ่าวสาวเตรียมงานได้ง่าย สุข สนุก ไปกับโมเม้นท์ ณ ขณะนั้นได้แบบไร้กังวลค่ะ