มู้ดแอนด์โทนสบายๆ ด้วยไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา
‘งานนี้เป็นงานของน้องสาวนุ่น ซึ่งจัดขึ้นที่บ้านที่นครนายกค่ะ เราตั้งใจจัดให้ออกมาดูอบอุ่น เพื่อให้แขกรู้สึกเป็นกันเอง แล้วด้วยความที่บ้านเราเป็นเรือนไทยโบราณอยู่แล้วแต่เดิม ใต้ถุนก็เป็นแบบโล่ง ไม่ได้ต่อเติมมาก มีแค่กระเบื้องที่ปูเสริมเข้าไปตั้งแต่สมัยตอนงานแต่งงานนุ่น พอถึงคราวนิ่ม (น้องสาวคุณนุ่น) คุณพ่อก็เลยขยับขยายพื้นที่เข้าไปอีก ประกอบกับคุณแม่ชอบปลูกต้นไม้ พื้นที่ตรงสวนเราเลยร่มรื่น มีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ซึ่งส่วนนี้เองที่ทำให้เราดึงทรัพยากรที่เรามีมาใช้จัดงานได้อย่างลงตัวและไม่สิ้นเปลือง’
คุณนุ่นเล่าให้เราฟังว่า การจัดงานครั้งนี้จะเชิญแขกเพียง 40-50 โต๊ะเท่านั้นค่ะ โดยปกติงานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ต่างจังหวัดจะเน้นกางเต้นท์ แต่นอกจากจะหมดยุคไปแล้ว คุณนุ่นยังบอกว่า การเช่าไปจากกรุงเทพก็ยังจะกินเวลานานมากขึ้นไปอีก เลยคิดที่จะจัดสรรพื้นที่ในบ้านของตัวเอง โดยคำนึงถึงจุดที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งก็คือเรื่องสภาพอากาศและแดด ที่อาจจะทำให้แขกไม่สบายเท่าที่ควร
‘ถ้าเป็นบ้านที่มีใต้ถุน เราจะเห็นภาพล่วงหน้าตั้งแต่แรกเลยว่า คนที่นั่งใต้ถุนยังไงก็จะร่ม คนที่นั่งเอ้าท์ดอร์ในสวนก็ยังสบายๆ เพราะมีต้นไม้ช่วยบังแดด แต่แขกบางส่วนที่จะนั่งตรงพื้นที่ที่อยู่ระหว่างสวนกับตัวบ้าน ตรงนี้เขาอาจจะร้อน นุ่นเลยใช้วิธีโยงผ้าเข้ากับต้นไม้และชายคาบ้าน ให้คลุมไว้ด้านบนทั้งหมด มิติก็จะมีทั้งแบบหย่อนบ้างตึงบ้าง บวกกับที่น้องสาวนุ่นชอบโทนน้ำเงิน เราเลยซื้อธงมาแต่งกัน ได้มู้ดแอนด์โทนเหมือนก้อนเมฆดี’
ของตกแต่งสไตล์ Rustic แท้จากชุมชน
ไม่ใช่แค่เพียงการนำของเข้าไปใช้กับพื้นที่ที่มีเท่านั้น แต่คุณนุ่นยังนำวัสดุที่คนในชุมชนคุ้นเคยกันดีมาประยุกต์ใช้ในงานแต่งงานอีกหลายอย่าง อย่างไม้ไผ่สูงๆ สิบกว่าลำ เธอก็นำมาใช้ค้ำเป็นโครงเสริมตรงต้นไม้ เพื่อช่วยให้ต้นไม้ที่สูงต่ำไม่เท่ากัน สามารถขึงผ้าเป็นแนวระนาบได้ดี
หรืออย่างตรงเวที คุณนุ่นก็ยังใช้ผ้ากระสอบที่ชาวบ้านใช้ใส่ข้าวมาตกแต่ง แขกที่มาส่วนใหญ่ก็จะเซอร์ไพรส์ ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะเปิดมิติใหม่ๆ ให้คนในชุมชนเห็นถึงวิธีการใช้งานของสิ่งที่มี มากกว่าฟังก์ชั่นเดิมๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน
‘ส่วนนึงที่นุ่นอยากจัดงานเล็กๆ เพราะคิดว่างานที่จัดกันเอง มันสามารถใส่ลูกเล่นลงไปได้มากกว่าด้วยค่ะ ยิ่งจัดที่บ้านก็ยิ่งเป็นกันเอง ไม่ใหญ่โตมากไปจนดูแลแขกไม่ไหว ทางเข้าและทางออกงานนุ่นก็จัดให้เป็นจุดเดียวกัน แบ็คดรอปกับจุดลงทะเบียนก็ใกล้กัน พ่อแม่กับบ่าวสาวก็จะได้ต้อนรับแขกในจุดเดียว
ยิ่งในต่างจังหวัดยังไม่ค่อยมีงานแนวนี้ เราเลยจัดเป็น Long table สำหรับแขก VIP ของพ่อแม่ที่จะขึ้นไปกล่าวอวยพร ผสมกับโต๊ะจีนปกติด้วย และตรงกลางโต๊ะก็ตกแต่งด้วยดอกไม้นิดหน่อย ได้ฟีลสวยงามตามท้องเรื่อง
คอนเซ็ปต์ของงานที่เราจัดกันจะเป็นแบบ Love Record น้องสาวนุ่นเขาออกแบบการ์ดเอง หน้าตาเป็นเหมือนแผ่นเสียงสมัยก่อน ตอนถ่ายพรีเวดดิ้งก็เอาซีดีเก่าไปเป็นพร็อพ เราก็เลยเอาสิ่งนี้มาตกแต่งหน้างานจริงด้วย เพื่อให้มันเชื่อมโยงถึงกัน แถมยังนำบางส่วนมาใช้สำหรับเขียนอวยพรลงบนแผ่นเสียง ของชำร่วยก็ตัดผ้าเองหมด ซื้อน้ำผึ้งจากดอยคำมาลังใหญ่ๆ แล้วมากรอกลงขวดเองทุกอย่าง รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ แม้แขกจะไม่ทราบ แต่ก็เป็นความภูมิใจของบ่าวสาวและคนเตรียมงานนะคะ’
ใส่กิมมิคเพื่อให้งานเป็นที่น่าจดจำ
และที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่าง เพื่อที่จะเติมเต็มการจัดงานให้ดูอบอุ่นสนุกสนานเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือการใส่กิมมิคสนุกๆ ลงไปในพิธีการค่ะ งานนี้คุณนุ่นได้ครีเอทวิธีการเสียใหม่ เปลี่ยนไปจับฉลากแทนการโยนดอกไม้
'โดยปกติการโยนดอกไม้ ก็จะสื่อเป็นนัยๆ ว่า คนที่ได้จะได้มีแฟนเป็นคนต่อไป งานนี้ทุกคนก็เลยเห็นพ้องต้องกัน ว่าจะให้เปลี่ยนเป็นคนที่มาเซ็นชื่อ เมื่อมาหย่อนซอง เราจะให้จับฉลากหมายเลขเก็บไว้ พอถึงช่วงโยนดอกไม้ ก็เปลี่ยนมาใช้วิธีจับหางบัตร ใครถูกเรียกก็จะได้พัดลม (Fan) ไป นอกจากจะได้โมเมนต์สนุกๆ น่าจดจำ ยังทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในงานจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อนเจ้าสาวอย่างเดียว’
ตบท้ายด้วยคำแนะนำของคุณนุ่น สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยากจะจัดงานที่บ้านโดยเฉพาะที่ต่างจังหวัด นอกจากจะต้องใส่ใจเรื่องการรันคิวงาน เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องเวลา(และแดด)แล้ว ยังต้องคำนึงถึงพื้นที่สำหรับรับรองแขก รวมไปถึงห้องน้ำและอ่างล้างมือที่เพียงพอด้วย
ส่วนอาหาร ถ้าอยากได้ลุคสวยๆ ตกแต่งได้เต็มที่ ก็น่าจะลองจัดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์หรือค็อกเทลดู รับรองได้ฟีลแบบฝรั่งเก๋ไม่ซ้ำใคร ถือเป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่น่าลอง!
Decoration : Shabby Chic Gardens
ต้องการติดต่อร้านค้า กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้ร้านค้าติดต่อกลับ คลิก ที่นี่