รีวิวงานแต่งสุดเก๋ เปลี่ยนเวทีงานหมั้นเช้า ให้เป็น Backdrop งานฉลองเย็น @ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse

Bangkok Marriott Hotel The Surawongse สถานที่แต่งงานสไตล์โมเดิร์น จัดเสิร์ฟอาหารจีนแบบเป็นคอร์สได้

       โจทย์ในการหาสถานที่จัดงานแต่งงานของหนิงคือ มีแขก 120-160 คน ต้องการจัดเลี้ยงแบบ Sit down lunch เสิร์ฟอาหารจีนแบบเป็นคอร์ส โดยมีคีย์หลักคืออาหารต้องอร่อย ซึ่งมีคนแนะนำให้เรามาดูที่ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse (โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์) เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดจานเสิร์ฟอาหารจีนแบบเป็นคอร์สและมีห้องจัดงานที่ขนาดกำลังพอดีกับแขกของเราค่ะ

       หลังจากที่เข้าไปดูสถานที่เราก็แฮปปี้มาก สไตล์ห้องเป็นแบบที่ชอบเลยค่ะ การตกแต่งจะเป็นโทนขาวเทา มีลูกกรงตะแกรงเป็นไม้สีดำสวยงาม แล้วดีไซน์มีความโมเดิร์นสมัยใหม่ เพดานสูง พรมไม่เป็นลายพร้อยสีโดดเด่น แถมยังสามารถกั้นเป็นห้องเล็กได้ นอกจากนี้ยังมีบริเวณสวนด้านนอกให้ใช้ด้วยนะคะ ในส่วนของอาหารเองก็รสชาติดี สามารถจัดเสิร์ฟแบบที่ต้องการได้ เราชอบมากจึงตัดสินใจเลือกแต่งงานที่นี่ค่ะ

ตกแต่งงานสวย แถมปรับใช้ได้หลายแบบ

       งานแต่งงานของเราที่ตั้งใจไว้ตอนแรกคือจะจัดเป็นพิธีเช้าเลี้ยงเที่ยงที่มีเฉพาะคนในครอบครัวค่ะ แต่เนื่องจากเพื่อนๆ อยากมาร่วมแสดงความยินดี เราจึงเพิ่มงานตอนเย็นเข้ามาด้วย ซึ่งจะตกแต่งครั้งเดียวแล้วใช้ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลย โดยเราจะปรับใช้เพื่อเซฟงบและลดความยุ่งยากค่ะ

       เราเลือกใช้ห้อง The Surawongse Ballroom ที่มีขนาดใหญ่และสามารถกั้นห้องได้ เพราะคิดว่าถ้าห้องจัดงานเล็กจะมีปัญหากับการจัดโต๊ะแบบ Long table รวมทั้งต้องการกั้นห้องปิดส่วนทานเลี้ยงไว้ก่อน เนื่องจากไม่อยากให้แขกที่มาร่วมพิธีตอนเช้าเห็นเลยตั้งแต่เริ่มงาน แขกจะได้รู้สึกว้าวค่ะ

       เดิมงานของเราเป็นพิธีเช้าเลี้ยงเที่ยง ก็เลยไม่ได้ทำ Backdrop หรือแกลอรี่ แล้วไปเน้นตกแต่งในห้องแทน หน้าห้องจัดงานจึงมีแค่โต๊ะลงทะเบียนและ Photo Booth ที่นำมาให้แขกเล่นเท่านั้น ซึ่ง Photo Booth นี้ แขกสามารถถ่ายรูปแล้วปริ้นท์ออกมาเขียนอวยพรให้เราได้และแขกเองก็จะได้รูปกลับไปด้วย เป็นอีกกิจกรรมที่ทุกคนชอบกันมากเลยค่ะ

       สำหรับการตกแต่งในห้อง ด้วยความที่คนจีนถือเรื่องงานแต่งไม่ควรใช้สีขาวและเราก็ไม่ชอบอะไรหวานๆ เลยมาลงตัวที่การใช้สีสันสดใสค่ะ ในส่วนของเวที ตัวฉากเราอยากให้ดูมีมิติจึงใช้เป็นสีเทาที่จะทำให้พร็อพประดับโดดเด่นขึ้น แล้วทำให้มีความโค้งลึกเข้าไป โดยทำส่วนด้านบนให้ยื่นออกมาเพื่อไว้ใช้ห้อยพร็อพตกแต่ง ซึ่งเราอยากได้ความวิววับและไม่ชอบความโค้งกลมกับดอกไม้แน่นๆ จึงจัดเป็นดอกไม้สีสันสดใสผสมกับการห้อยตะแกงกับกระจกรูปทรงสี่เหลี่ยมค่ะ

       งานของเราไม่มี Backdrop ดังนั้นเราจึงตั้งใจว่างานตอนเย็นจะปรับเวทีทำพิธีเช้าเป็น Backdrop ไว้ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ เลยได้ใส่ไฟเส้นเข้าไปแซมด้วย ตอนกลางคืนพอเอาพื้นเวทีกับบันไดออกแล้วเปิดไฟก็จะได้เปลี่ยนอารมณ์บรรยากาศของงานค่ะ

       บริเวณหน้าเวทีฝั่งครึ่งห้องทำพิธีเช้าเราจะจัดเก้าอี้แขกเรียงเป็นแบบเธียร์เตอร์ แล้วพอช่วงงานเลี้ยงที่เปิดเป็นห้องใหญ่ เราก็จะนำเก้าอี้ออกแล้วเซ็ตโต๊ะของบ่าวสาวและพ่อแม่เพิ่มนิดหน่อยค่ะ

       ส่วนตรง Long Table จะตกแต่งเน้นเป็นดอกไม้สดกับพร็อพที่ดูสวยงาม โดยเราจะเปลี่ยน Mood and Tone ของงานด้วยผ้าปูโต๊ะค่ะ ตอนเลี้ยงเที่ยงเราจัดเป็นโทนขาวแล้ว ดังนั้นตอนกลางคืนก็จะใช้เป็นสีดำแล้วปูทับด้วยผ้ารันเนอร์สีเทา เวลาไฟส่องลงโต๊ะดอกไม้ก็จะเด่นขึ้นมาค่ะ

พิธีการอบอุ่น พร้อมงานเลี้ยงสุดชิลล์

       สำหรับพิธีการตอนเช้าจะเริ่มที่การแห่ขันหมาก รับตัวเจ้าสาว ซึ่งช่วงนี้เราจะใช้บริเวณสนามหญ้าด้านนอกที่มีทางเชื่อมกับห้อง The Surawongse Ballroom เป็นจุดรับตัว เนื่องจากในห้องจัดงานมีแขกนั่งอยู่แล้ว และตรงนั้นก็มีพื้นที่ยกสูงเหมือนเวที รวมทั้งยังมีแสงช่วงเช้าที่สวยมากค่ะ

       เมื่อเข้ามาในห้องก็จะเป็นพิธีสวมแหวน ยกน้ำชาและรับไหว้ผู้ใหญ่ ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะไปเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสำหรับงานเลี้ยงเพื่อให้ได้อีกลุคหนึ่ง โดยตอนที่เราไปเปลี่ยนชุด ก็จะเปิดห้องฝั่งโต๊ะทานเลี้ยงให้แขกเข้าไปนั่งรอได้ แล้วก็มีการจัดคอฟฟี่เบรกให้ด้วย

       สำหรับงานเลี้ยงตอนเที่ยง ตอนแรกเราตั้งใจไม่มีพิธีการอะไรเลย แต่เนื่องจากตอนเช้าหนิงเดินเข้างานกับเจ้าบ่าว เลยอยากเดินเข้างานกับผู้ใหญ่บ้าง จึงได้เพิ่มช่วงเปิดตัวเข้างานกับคุณพ่อเข้ามาด้วยค่ะ แล้วให้เจ้าบ่าวมารับต่อเพื่อพาไปที่โต๊ะบ่าวสาวแทน และในส่วนงานเย็นก็เช่นกันคือเชิญเพื่อนมากินอย่างเดียวไม่มีพิธีการอะไรเลยจนรู้สึกเหมือนเป็นงานเลี้ยงรุ่นมากกว่าอีกค่ะ (หัวเราะ)

       หลังจากที่งานจบแล้ว สิ่งที่เรารู้สึกได้เลยคือความใส่ใจในการบริการของพนักงานโรงแรม เขาดูแลดีมากๆ เลยค่ะ ขออะไรไปเราจะได้เกินสิ่งที่ขอเสมอเลย อย่างเช่น เราต้องการดื่มไวน์กับเพื่อนต่อที่ห้องพักหลังงานจบ แทนที่เขาจะเปิดไวน์ให้เฉยๆ เขากลับจัดอาหารมาให้ด้วยเพราะรู้ว่าเรายังไม่ได้ทานอะไร หรือการที่เราไม่ได้ใช้การตกแต่งในแพ็กเกจ เขาก็ยังขอนำดอกไม้ไปจัดไว้ที่ห้องพักแทน เวลาช่างภาพไปเก็บภาพก็จะได้ภาพสวยๆ ซึ่งเขาจัดให้แบบอลังการเลยค่ะ(หัวเราะ) หลายๆ อย่างที่ทำให้ เรารู้สึกเลยว่าเขาบริการด้วยใจ Service ดีมากจริงๆ ค่ะ

       งานนี้นอกจากหนิง เจ้าบ่าวและครอบครัวจะมีความสุขแล้ว เพื่อนของเราเองก็มีความสุขเหมือนกัน ชมกันตลอด ซึ่งด้วยความที่เป็นเพื่อนที่เรียนโรงเรียนประจำด้วยกันมา จึงสนิทกันมาก เรารู้ว่าถ้าเขาชมแปลว่ามั่นใจได้ว่าเขาชอบงานจริงๆ จึงรู้สึกดีมากเลยค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

จัดงานเองควรมีความต้องการที่ชัดเจน : ดูความชอบ หาไอเดียการจัดงาน ว่าต้องการแบบไหน แล้วโฟกัสกับสิ่งนั้นๆ จะทำให้การเตรียมงานง่ายขึ้น แนะนำว่าควรคุยกับครอบครัวญาติผู้ใหญ่ให้รู้ถึงความต้องการของเราก่อนว่าเขาโอเคไหม แล้วค่อยเริ่มทำค่ะ