Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit สถานที่แต่งงานเรียบหรู ทันสมัย ใกล้ BTS
ต้องท้าวความก่อนว่าแนนกับเจ้าบ่าวจัดงานแต่งงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกจัดขึ้นที่เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของแนน รวมถึงครอบครัวและญาติผู้ใหญ่พักอาศัยอยู่ที่นั่น ส่วนงานนี้คือครั้งที่ 2 จัดที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าบ่าวค่ะ
โดยเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานเป็น Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit (โรงแรม คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท) เพราะสามารถตอบโจทย์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดงานที่สามารถรองรับแขกได้ตามจำนวนที่ต้องการประมาณ 350 คน เป็นโรงแรมใหม่ เพิ่งเปิดได้ไม่นาน มีการตกแต่งที่เรียบหรูทันสมัย ตลอดจนมีการเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะใกล้เส้นรถไฟฟ้าบีทีเอสค่ะ
พิธีจีนแสนหวาน เริ่มงานช่วงบ่าย
งานของแนนเป็นพิธีบ่ายเลี้ยงเย็น ซึ่งตอนบ่ายจะเป็นพิธียกน้ำชาจีน เนื่องจากฝั่งเจ้าบ่าวมีเชื้อสายจีนค่ะ โดยเลือกใช้ห้องจัดงานชั้น 8 ภายในห้องจะจัดวางเก้าอี้แบบ Theater ซึ่งแม้ตัวห้องจะเล็กกว่าห้องแกรนด์บอลรูมพอสมควร แต่การจัดวางองค์ประกอบไม่ต่างกันเลย คือมีจุดตั้งเวทียกระดับ พร้อมจอ LED ที่เป็นฉากหลัง ซึ่งได้มีการทำภาพกราฟิกเป็นแบ็คกราวน์ขึ้นจอด้วยค่ะ
พิธีการช่วงนี้จะเชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่และแขกคนสนิทประมาณ 30-40 คนเท่านั้น โดยจะเริ่มตั้งแต่บ่ายสองแล้วรันพิธีจนจบช่วงยกน้ำชาค่ะ จากนั้นแนนกับเจ้าบ่าวก็จะไปเปลี่ยนชุด นี่จึงเป็นช่วงเวลาให้แขกได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งทางโรงแรมก็ดีตรงที่เขามีห้องรับรองแขกไว้อำนวยความสะดวกอยู่ชั้นเดียวกับห้องจัดเลี้ยงในช่วงค่ำเลยค่ะ
เสน่ห์ไฮเดรนเยีย ไอเดียหลักเนรมิตงานให้หรูหรา
แนนใช้เวลาเตรียมงานเกือบปี มีปรึกษากับเจ้าบ่าวตลอด รวมถึงธีมงานที่เลือกเป็นดอกไม้ด้วย ซึ่งเหตุผลที่เลือกไอเดียนี้มาจากที่แนนชอบดอกไฮเดรนเยียอยู่แล้ว เนื่องจากลักษณะรูปทรงและโทนสีที่ดูละมุนละไม สามารถดึงดูดสายตาและจับหัวใจแนนได้อยู่หมัด จึงตัดสินใจนำมาเป็นไอเดียหลักในการตกแต่ง แล้วก็ได้เพิ่มอรรถรสในการฟัง สร้างบรรยากาศในงานให้ดูอ่อนหวานผสานไปกับการตกแต่งของดอกไม้ด้วยการจ้างนักร้องและนักเปียโนมาเล่นกันสดๆ ตลอดทั้งงานเลยค่ะ
และเนื่องจากแนนเป็นคน Sensitive กับสีมาก จึงทำให้ใส่ใจเป็นพิเศษ เลยเลือกเฉดสีฟ้าที่เป็นหนึ่งในโทนสีของดอกไฮเดรนเยียมากำหนดเป็นธีมสีชุดของแขกและการตกแต่งภายในงาน โดยได้ทีม Decoration มาช่วยสร้างสรรค์ให้งานเป็นไปตามที่คุยกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นอุโมงค์ดอกไม้ Backdrop ถ่ายภาพ และการตกแต่งตามจุดต่างๆ ในห้องแกรนด์บอลรูมค่ะ
งานเย็นโรแมนติก พร้อม Gimmick เซอร์ไพรส์แขก
ช่วงงานเลี้ยงฉลองหลังจากที่แนนกับเจ้าบ่าวเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็มายืนอยู่ตรง Backdrop หลัก เพื่อถ่ายภาพกับบรรดาแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี ในงานนี้จะมีจุด Photo Booth ตั้งอยู่ใกล้ลิฟต์ เยื้องกับจุดลงทะเบียนไว้ให้แขกทุกคนสามารถถ่ายรูปเล่นหรือร่วมสนุกเพื่อรอเวลาถ่ายภาพกับบ่าวสาวด้วย โดยแขกจะสามารถรับรูปกลับบ้านได้เลยค่ะ และอีกจุดที่แนนแอบเห็นแขกให้ความสนใจถ่ายภาพกันมากจะเป็นอุโมงค์ดอกไม้ที่แขกต้องเดินผ่านเพื่อเข้าสู่ห้องแกรนด์บอลรูมค่ะ
เมื่อถ่ายรูปตรงจุด Backdrop เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงช่วงพิธีการ โดยจะเริ่มจากการเปิด Video Presentation ให้แขกได้รับชมพร้อมกับทานอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งจากห้องอาหาร Wah Lok ของโรงแรมค่ะ
ตอนเปิดตัวแนนจะเดินเข้างานพร้อมกับคุณพ่อผ่านเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวที่ตั้งสองแถวขนาบข้าง โดยมีเด็ก 4-5 คน เดินนำหน้าเพื่อโปรยดอกไม้ตลอดทาง ส่วนเจ้าบ่าวจะเดินมาจากฝั่งเวทีแล้วมาเจอกันตรงกลางค่ะ ต้องบอกเลยว่าฉากการเดินนี้ได้แนวคิดมาจากการดูหนังเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมากจึงหยิบไอเดียนี้ใส่ลงไปในงานแต่งด้วยเลยค่ะ
พิธีทุกอย่างรันไปตามกำหนดการ จนถึงจังหวะที่แนนกับเจ้าบ่าวต้องขอบคุณแขกที่สละเวลามาร่วมงาน จึงมีโชว์เซอร์ไพร์สด้วยการร้องเพลง A Thousand Years ของ Christina Perri ซึ่งไอเดียนี้มาจากเจ้าบ่าว โดยเจ้าบ่าวจะรับหน้าที่เล่นเปียโนและแนนเป็นคนร้องเพลงค่ะ
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาตัดเค้ก ตามด้วยโยนดอกไม้ สุดท้ายทุกคนก็กินเลี้ยงสังสรรค์กันตามใจชอบค่ะ และเนื่องจากวันที่แต่งงานตรงกับวันคล้ายวันเกิดคุณแม่ของเจ้าบ่าว จึงมีแอบเตรียมเค้กเพื่อเซอร์ไพรส์ท่านด้วย นับเป็นโมเม้นต์ดีๆ ที่น่าจดจำมากๆ ค่ะ
ในงานไม่มีปัญหาเลย แนนประทับใจทุกอย่าง เพราะเป็นไปตามที่คิดไว้ ส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะได้ทีมงาน Professional จึงไม่มีอะไรให้ปวดหัว ต้องขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทำให้งานแต่งครั้งนี้ออกมาได้อย่างงดงาม ทีมตกแต่งทำงานออกมาดีกว่าที่คิดไว้ โรงแรมก็ให้เราเต็มที่ แพ็กเกจคุ้มค่ามาก ทีมออแกไนเซอร์และช่างภาพก็ดี ถ่ายภาพออกมาสวยงาม และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือชุดพิธีแต่งงานแบบจีนและชุดเจ้าสาวที่แนนชอบมากค่ะ
ส่วนถ้าจะให้พูดในแง่ของความรู้สึกที่ประทับใจ ก็จะเป็นตอนซ้อมคิวเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว ช่วงที่เดินมาจากคนละมุมเพื่อเจอกัน โดยมีเพลงประกอบคลอบรรยากาศด้วยนั้น ตอนที่เราเดินมาหากัน เราแอบมีน้ำตาซึมกันทั้งคู่ มันเหมือนว่าเป็นโมเม้นท์ที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร ไม่มีคนเยอะ เป็นความรู้สึกที่มาจากใจจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง : เวลาและการวางแผนเตรียมงานเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ก่อนจัดงาน ควรพิถีพิถันในการคัดสรรแต่ละร้านที่เลือกใช้บริการและทำการบ้านให้มาก เพื่อวันงานจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวภายหลังค่ะ
อย่าเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย : วันแต่งงานคือวันของเรา ดังนั้นควรทุ่มเท เลือกสิ่งที่ดี มีคุณภาพ ใช้งานได้จริง เพื่อให้วันแต่งงานเป็นวันที่เราสวยที่สุดและเป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่สุด ถ้าเลือกประหยัดมากเกินไป อาจได้ของไม่ดีและกลายเป็นว่าต้องเสียมากขึ้นได้นะคะ