ธีมสี Off White เรียบง่ายสบายตา
ด้วยความที่ห้องจัดเลี้ยงของสถานที่มีความสวยงามอยู่แล้วเรื่อง Decoration แอนจึงไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมายค่ะ เพราะไม่ใช่คนสายหวาน ในงานจึงไม่ค่อยใช้ดอกไม้เยอะ จะเป็นแนวมินิมอลเรียบๆ มากกว่า อีกอย่างแอนคิดว่าวัสดุที่นำมาตกแต่งเมื่อจบงานก็ต้องทิ้ง เลยอยากจะช่วยลดทรัพยากรตรงส่วนนี้ด้วยค่ะ
ในงานแอนจะใช้เป็นโทนสี Off White ดอกไม้ใช้แค่สีขาวกับสีเขียว มีแซมสีโอรสนิดนึง จะมีแค่ชุดของเพื่อนเจ้าสาวที่จะเข้ากับธีมของงาน ส่วนแขกแอนไม่ได้กำหนดเดสโค้ดเลยค่ะ เพราะงานแต่งแอนอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด แอนจึงไม่อยากรบกวนแขกเท่าไหร่ อยากให้แขกรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุดค่ะ
โดยส่วนใหญ่แอนจะเข้ามาดูรีวิวสถานที่ และรีวิวจากบ่าวสาวที่เคยแต่งงานมาแล้วจาก SabuyWedding ค่ะ ซึ่งเว็บจะมีบอก Points of concern ต่างๆ ที่ละเอียดดี และเข้าไปดูไอเดียเรื่องการตกแต่ง
แอนรู้สึกว่าช่วยได้ในเรื่องการเตรียมงาน และมองเห็นภาพของงานตัวเองชัดชึ้น อย่างแอนที่ไม่ใช่สายดอกไม้ ก็จะเข้าไปดูงานแต่งของคนอื่นๆ ว่ามีแนวไหนบ้างมาเป็น Inspiration ค่ะ
แอนเลือก The Okura Prestige Bangkok เป็นสถานที่แต่งงานเพราะห้องพอดีกับจำนวนแขก 475 คนค่ะ ภายในห้องบรรยากาศดี สถานที่อยู่ใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้า เซลล์อธิบายเร็วเข้าใจง่ายฟังแล้วไม่งงเลย ที่สำคัญมีที่จอดรถเพียงพอ เพราะแอนไปดูโรงแรมมาหลายที่มาก บางที่โรงแรมสวยแต่ที่จอดรถไม่พอ เช่น ทางขึ้นลงเป็นทางเดียวกันและมันค่อนข้างเล็ก เวลาไปไหนถ้าเจอที่จอดรถไม่พอแอนจะนอยด์ จึงไม่อยากให้แขกของงานตัวเองรู้สึกแบบนั้น เรื่องที่จอดรถจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ค่ะ
งานเช้าแอนจัดที่ห้อง Sora room ภายในมีหน้าต่างยาวตลอดทั้งห้อง มีความโปร่ง ไม่รู้สึกอึดอัด แถมมีแสง Daylight เข้ามาทำให้เพิ่มความอบอุ่นยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับงานเลี้ยงเย็นแอนจัดในห้อง Grand Ballroom ด้านในตัวเพดานค่อนข้างสูง ตอนเข้าไปดูห้องวันแรกที่ด้านหลังเวทีมันจะมีชั้นสอง ที่เหมือนใช้เปิดตัวบ่าวสาว แอนว่ามันเก๋ดี ซึ่งในวันงานแอนไม่ได้ใช้ Space ตรงนี้นะคะ แต่เป็นเหตุผลอีกข้อที่เลือกจัดงานแต่งที่นี่ อารมณ์ประมาณว่าถูกใจตรงนี้ แม้ไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไรค่ะ (หัวเราะ)
แอนจัดโต๊ะ VIP แปดโต๊ะอยู่ด้านหน้าเวทีค่ะ แบ่งสองฝั่งซ้ายขวา ส่วนวัยรุ่นก็อยู่ตามอัธยาศัย โดยจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล เป็นอาหารของทางโรงแรมทั้งหมด อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ
สำหรับพิธีการงานเลี้ยงเย็นแอนอยากเน้น After Party จึงจัดพิธีให้กระชับรวดเร็วมากที่สุดค่ะ ซึ่งพิธีการก็เป็นแบบปกติทั่วไปเลย เริ่มที่เดินเข้างานโดยมีเพื่อนเจ้าสาวจุดกลิตเตอร์ให้เพื่อความสวยงามตลอดทางเดิน ฉาย Presentation ของงานเช้า จากนั้นประธานก็ให้คำอวยพร บ่าวสาวกล่าวคำขอบคุณ และตัดเค้กเป็นอันดับสุดท้าย ส่วนช่วงปาร์ตี้แอนเปลี่ยนชุดใส่เหมือนเพื่อนเจ้าสาว แต่จะมีพร็อพเป็น Veil ใส่ผมให้ดูแตกต่างจากเพื่อนๆ ค่ะ
ในงานนี้แอนประทับใจทุกอย่างเลย ตั้งแต่ทีมเซลล์ของโรงแรม การบริการของพนักงาน และออแกไนเซอร์ที่ทำงานเต็มที่ค่ะ แถมบรรยากาศในงานสมูธมาก แม้อยู่ในช่วงโควิดก็ไม่กร่อยเพราะแขกคือคนที่เรารู้จัก และต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี งานจึงออกมาแฮปปี้มากค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ช่างแต่งหน้าสำคัญมาก : แอนคิดว่าถ้าชอบช่างแต่งหน้าคนไหนให้รีบจองไว้เลยค่ะ เพราะคิวเต็มง่ายมาก ซึ่งแอนจองล่วงหน้าไว้ก่อนวันงานหลายเดือนเลย ส่วนอันดับสองแน่นอนว่าต้องเป็นชุดแต่งงานค่ะ (หัวเราะ)
Points of concern : ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้ออะไรอยากให้คิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนก่อนค่ะ อย่างของแอนจะมีเรื่องรองเท้าที่ซื้อก่อนชุดแต่งงาน เพราะแอนค่อนข้างหารองเท้าใส่ยาก พอเจอคู่ที่ชอบจึงรีบซื้อ เลยกลายเป็นว่าแอนต้องมาบังคับชุดให้เข้ากับรองเท้า ซึ่งจริงๆ ค่อยๆ หาดีกว่า ถ้ายังมีเวลาก็ไม่ต้องรีบ ถ้าใครประสบปัญหาแบบแอน ก็อยากให้เลือกชุดแต่งงานก่อนรองเท้าค่ะ
สายปาร์ตี้ดนตรีต้องมันส์ : แอนแนะนำให้มีทั้งดนตรีสดและดีเจไปเลยค่ะ อีกอย่างก่อนตัดสินใจต้องคุยรายละเอียดให้เข้าใจตรงกัน เช่นเรื่องสไตล์เพลง ควรฟังเพลงของเขาก่อนว่าใช่แบบที่เราชอบหรือเปล่าค่ะ