รีวิวงานแต่งสุด Classy ด้วยธีมสี Slate Blue และคริสตัล @ Grand Hyatt Erawan Bangkok

แบ่งหน้าที่ให้ชัด ช่วยจัดเตรียมงานง่ายขึ้น

       ธัญญ่ากับไนท์(เจ้าบ่าว) มีเวลาเตรียมงานประมาณ 2 ปี หลังจากที่มีแพลนว่าจะแต่งงานเราก็เริ่มวางแผนและหาข้อมูล โดยได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจน ไนท์จะดูแลเรื่องพิธีการ แขก ประสานงานต่างๆ ส่วนธัญญ่าดูเรื่องการตกแต่ง เสื้อผ้า หน้าผมค่ะ

       เราเป็นแฟนเพจ SabuyWedding มานาน จึงได้เข้าไปศึกษาข้อมูล อ่านรีวิว ดูไอเดียและติดต่อร้านค้า แล้วยังได้ไปเดินงาน SabuyWedding Festival ที่พารากอนด้วยนะคะ ซึ่งทำให้รู้เลยว่านอกจากการ Research ออนไลน์แล้ว การได้เห็นบรรยากาศงาน ได้ดูผลงานจริงและคุยกับร้านด้วยตัวเองมันดีมากๆ ช่วยให้ยิ่งได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจค่ะ

       งาน SabuyWedding Festival ทำให้เราได้ความรู้เพิ่มเติมจากกิจกรรมบนเวที ได้ไอเดียและได้คุยกับร้านค้าหลายร้าน เรารู้สึกดีที่ตัดสินใจไป เพราะร้านค้าที่มาดีทุกร้านเลย ไม่มีการดึงไม้ดึงมือ แล้วที่ชอบคือมีการแจกถุงผ้าและคู่มือข้อมูล ไม่ได้ปล่อยเราเดินเคว้ง รู้สึกว่างานนี้ใช่เลยค่ะ เราได้พวกสมุดเซ็นอวยพร กล่องใส่ซอง รองเท้าเจ้าสาวมาด้วยนะคะ

Grand Hyatt Erawan Bangkok สถานที่แต่งงาน 5 ดาว ขนาดใหญ่

       สถานที่จัดงานแต่งงานของเราคือโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok (แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ) ค่ะ ที่ตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะงานเรามีแขกจำนวนมาก คิดไว้ที่ 600-1000 คน ซึ่งโรงแรมนี้มีห้องบอลรูมขนาดใหญ่สามารถรองรับได้ มีโซน Reception area ที่โอ่โถง เปิดประตูเข้ามาจะเป็นโถงกว้าง เพดานสูงมาก การตกแต่งเป็นสไตล์ Timeless ส่วนของบันไดตรง Foyer ก็ดูแกรนด์มากค่ะ  

       นอกจากนี้ที่นี่ก็เป็นโรงแรม 5 ดาวที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อยู่ใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก และมีที่จอดรถเยอะเพียงพอ ทุกอย่างมันลงตัว เราต้องการให้แขกประทับใจมากที่สุด ซึ่งแขกเป็นผู้ใหญ่กว่า 80% เราคิดว่า Generation เขาต้องการสถานที่แบบนี้ค่ะ

งานหรูหรา ดูสดใส ด้วยการดีไซน์แบบมีลูกเล่น

       สำหรับการตกแต่ง เพื่อให้เข้ากับแขกที่ส่วนมากจะเป็นญาติ ลูกค้าทางธุรกิจ ผู้ใหญ่ที่เรานับถือ เราจึงอยากได้งานที่ดู Classy มีความ Formal นิดนึง แต่ก็ไม่ได้ทิ้ง Concept ที่อยากได้นะคะ เพียงแค่ระวังไม่ให้งานดูฉูดฉาดเกินไป 

       ตอนงานหมั้นเราใช้ธีมรัสติก โทนเบอร์กันดี งานฉลองจึงต้องการสีที่ไม่ซ้ำ แล้วธัญญ่าเองก็อยากได้โทนฟ้า Slate Bule แนวหวานๆ ให้งานดูสว่างสดใส ซึ่งทางทีมตกแต่งเขาทำงานหมั้นให้เรามาก่อน จึงเข้าใจความเป็นเรา รู้สไตล์และคาแรคเตอร์ของเรา เขาเลยดีไซน์ออกมาเป็นใช้พื้นโทนฟ้าสดใสเป็นหลัก และใช้ดอกไม้เล็กๆ หลายสีทั้งงาน เพิ่มเข้าไปเพื่อให้ดูไม่เรียบเกินและยังสื่อถึงความน่ารักของคู่เราค่ะ

       นอกจากนี้เพื่อให้งานดูไม่เด็กเกินไปและมีความหรูหรามากขึ้น ทางทีมตกแต่งจึงเพิ่มซุ้มอุโมงค์ Crystal ยาว 6 เมตรเข้ามาด้วย โดยภาพรวมงานของเราจะมีดีไซน์ที่ค่อยๆ Develop มีจุดให้แขกรู้สึกว้าวขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เข้ามาเจอ Backdrop แล้วจบแค่นั้นค่ะ

       เรามีจัดมุมพักผ่อนสำหรับแขกที่มาเร็วด้วยนะคะ เพราะเรารู้ว่าปกติแขกผู้ใหญ่มักมาถึงงานก่อนเวลา จึงอยากให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบายที่สุด เลยเซ็ตซุ้มอาหาร เครื่องดื่ม ค็อกเทล และเก้าอี้เป็นมุมนั่งรอบริเวณโถงไว้รองรับค่ะ

ของชำร่วยช่วยลดโลกร้อน

       สำหรับของชำร่วยงานของเราเป็นถุงผ้าลดโลกร้อนค่ะ ที่เลือกเพราะช่วงนี้ทั่วโลกกำลังรณรงค์เลิกใช้ถุงพลาสติกและคนก็ชอบพกถุงผ้าติดตัวกัน เราจึงคิดว่าเป็นของที่แขกสามารถนำไปใช้ได้จริงและยังช่วยโลกได้ด้วย ซึ่งเราได้ออกแบบลายง่ายๆ ใช้ตัวอักษร TK จากชื่อและตัวเลขวันแต่งงานของเราแค่นั้น แขกจะได้ใช้แบบไม่เขินค่ะ (หัวเราะ)

       เราทำของชำร่วยมาเผื่อแขกเยอะมาก เพราะแม้จะแจกการ์ดแค่ใบเดียว แต่แขกอาจจะพาครอบครัวมาด้วย ถ้าของชำร่วยไม่พอ เราไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ มาทำให้แขกไม่สบายใจ ทำเผื่อเหลือดีกว่าขาด ถ้าเหลือจริงๆ เราก็ฝากไปให้คนอื่นได้อีกค่ะ

พิธีการสุดเซอร์ไพรส์ ได้ใจแขก 

       ช่วงพิธีการ เราพยายามปรับให้เข้ากับแขก เพราะคิดว่าแขกให้เกียรติมางาน เราไม่ควรทำให้เขาลำบาก บางคนมาก่อนเวลาจะได้ไม่ต้องรอ จึงทำทุกอย่างให้เร็ว รีบลงมารอหน้างาน แขกมาถึงจะได้ถ่ายรูปแล้วทยอยเข้างาน ไปนั่งพัก ทานของว่างได้เลย ช่วงพิธีก็พยายามกระชับให้สั้น นำอาหารขึ้นโต๊ะให้เร็วค่ะ 

       พิธีการของเราเริ่มประมาณ 19:30 น. โดยการเปิดตัวบ่าวสาว ซึ่งช่วงนี้จะพิเศษนิดนึงคือธัญญ่าอยากเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าว อยากเริ่มต้นด้วยเซอร์ไพรส์ที่มีความสุข จึงได้เลือกที่จะร้องเพลงเดินเข้างานไปขึ้นเวทีค่ะ จากนั้นก็เป็นประธานมาอวยพร สัมภาษณ์บ่าวสาว ไปตัดเค้ก โยนดอกไม้ แล้วก็มาขอบคุณแขก และเนื่องจากวันที่เราแต่งงาน เป็นวันเกิดของเจ้าบ่าวก็เลยมีเซอร์ไพรส์เป่าเค้กเพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ

       สำหรับงานแต่งงานที่ผ่านไป เราประทับใจหลายอย่าง ตั้งแต่สถานที่ที่สวยมาก ส่วนโซน Reception area มีต้นไม้ บ่อปลา เพดานสูง กระจกสูง มีแดดส่องเข้ามา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมาก เหมือนเราอยู่ใน Green House เลยค่ะ ทีมตกแต่งก็ดี เราชอบผลงานเขามากจนรีบจองล่วงหน้าเป็นปี แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เขาเข้าใจเรา ตกแต่งออกมาได้สวยตรงใจ และยังช่วยดูแลเรื่องต่างๆ อย่างดี เป็นทีมที่ Perfect มาก แนะนำเลยค่ะ ช่างภาพที่เราใช้ก็ทำงานได้มืออาชีพ ภาพสวยแบบที่ต้องการ ชุดเจ้าสาวก็สวยมาก รวมถึงประทับใจแขกทุกคน บางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด ต่างประเทศเพื่องานของเรา เราดีใจจริงๆ ค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

Research ข้อมูลให้มาก : งานแต่งงานมีครั้งเดียวในชีวิต เราควรให้เวลากับการ Research ข้อมูลและร้านค้า ศึกษาให้มากว่าอะไรเหมาะและเป็นสไตล์เราจริงๆ ร้านที่แพงที่สุดไม่ใช่ว่าจะดีที่สุดสำหรับเรานะคะ

กำหนดงบงานแต่งของเรา : แน่นอนว่าพอถึงเวลาจริงจะมี Over Budget แต่การกำหนดงบจะทำให้เราหาร้านที่เหมาะและสามารถคุมไม่ให้งบเกินมากไปได้ค่ะ

Wedding Planner ช่วยให้งานเรียบร้อย : มีหลายเรื่องที่บ่าวสาวไม่รู้และนึกไม่ถึง การมีผู้มีประสบการณ์ช่วยดูแลจะทำให้งานผ่านไปเรียบร้อยขึ้นค่ะ

ช่างภาพสำคัญ : ควรศึกษาช่างภาพหลายๆ ทีม แล้วเลือกที่เหมาะสมกับเรา แล้วภาพที่ออกมาจะถูกใจ ตรงตามสไตล์ที่ต้องการค่ะ

ควรมี Cinematography : ในงานบ่าวสาวแทบไม่เห็นว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ถ้ามีวีดีโอเพิ่มมาด้วย จะทำให้เราเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานได้ดียิ่งขึ้น

เจ้าสาวควรมีรองเท้า 2 คู่ : คู่แรกไว้ใส่ถ่ายรูปสวยๆ อีกคู่ไว้ใส่เดินในงาน คู่นี้ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบายไว้ก่อนค่ะ เพราะต้องยืนนานมาก ถ้ารองเท้าใส่ไม่สบายจะทำให้ปวดเท้าแล้วจะไม่แฮปปี้ค่ะ