AMCO House สถานที่จัดงานแต่งงานแนว Homy พร้อมสวนสวยสไตล์อังกฤษ
หมวยอยากได้งานแต่งงานที่มีฟีลเป็นกันเอง สบายๆ จึงมองหาสถานที่จัดงานแนวสวน โดยมีโจทย์ว่าจะต้องมีพื้นที่ Indoor ด้วย เนื่องจากเราจัดงานช่วงหน้าร้อน และต้องมีขนาดกำลังพอดีกับแขก 50-60 คนของเรา เพื่อให้พื้นที่ไม่ใหญ่เกินไป บรรยากาศจะได้ดูอบอุ่นค่ะ
ซึ่งก็ได้มาเจอ AMCO House (บ้านแอมโก้เฮ้าส์) ที่ตอบโจทย์สิ่งที่ต้องการได้หมด ตัวสถานที่เองก็มีความสวยงามลงตัวแบบแม้ไม่ตกแต่งเพิ่มก็สวยอยู่แล้ว ถูกใจมากจนวางมัดจำทันทีเลยค่ะ
ชุดเจ้าสาว เจ้าบ่าว คงธีมเรียบง่าย แฝงดีเทลแห่งความทันสมัย
เนื่องจากหมวยจัดงานแต่งในสวน จึงอยากได้ชุดแต่งงานที่ดูเรียบง่ายแต่มีอะไรมากกว่าชุดที่เว่อร์วังอลังการเกินไป ในส่วนของชุดหมั้นนั้นจะซื้อเองค่ะ แต่ชุดเจ้าสาวหมวยเช่ามา ดีไซน์เป็นแบบเรียบๆ แต่มีการแฝงดีเทลหรือแพทเทิร์นที่ดูทันสมัยไว้ค่ะ ส่วนของเจ้าบ่าวนั้นจะดูโทนสีมากกว่า เนื่องจากเจ้าบ่าวมีสีผิวค่อนข้างเข้ม จึงเลือกชุดสีน้ำตาลที่ตรงกับธีมสีงานแต่งด้วยค่ะ
ของชำร่วยทำด้วยใจ
เพราะต้องการให้ของชำร่วยที่สามารถใช้งานได้จริงและเป็นของที่ดี มีคุณภาพ หมวยจึงตัดสินใจเลือกสบู่แฮนด์เมดที่น้องชายของคุณพ่อทำขายอยู่แล้ว ซึ่งก็แค่บอกจำนวนและรูปทรงของสบู่ที่อยากได้ ส่วนการตกแต่งของชำร่วยเพิ่มเติม หมวยเป็นคนทำเองทั้งหมดค่ะ
ธีมสีเอิร์ธโทน เรียบง่าย อบอุ่น ภายใต้บรรยากาศสวนสวย
งานแต่งงานของหมวยไม่ได้ใช้ Wedding planner เลย และรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีเจ้าบ่าวให้เกียรติในการตัดสินใจเรื่องการแต่งงาน ให้เป็นคนจัดการเองทุกอย่าง รวมถึงเรื่องการเลือกธีมสีงานด้วยค่ะ
จากที่ดู Reference มากมายเกี่ยวกับการจัดงานแต่งในสวน หมวยก็ได้ธีมสีเอิร์ธโทนค่ะ โดยหมวยจะบอกกับแขกทุกคนด้วยว่า ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรูหรา ขอแค่แต่งตัวที่เป็นตัวเองก็เพียงพอแล้วค่ะ
พิธีการเต็มไปด้วยความอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรัก
พิธีการของเราจะเริ่มแห่ขันหมาก เวลา 15.09 น. และรันยาวไปจนกระทั่งเวลา 21.00 น. โดยการตกแต่งภายในงาน ส่วน Backdrop หมวยจัดวางตรงสนามหญ้า เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้าง จะได้ดูโปร่ง โล่ง สบาย และเห็นความร่มรื่นของสวน ต่อมาจุดลงทะเบียน จะตั้งก่อนประตูทางเข้าตัวบ้านค่ะ
สำหรับพิธีหมั้น สวมแหวน และยกน้ำชา หมวยใช้ที่ชั้นสองของตัวบ้าน โดยภายในห้องพิธีหมั้นจะเน้นความ Minimal ไม่เน้นของตกแต่ง กระทั่งเสร็จสิ้นพิธีด้านบนก็จะย้ายมายังจุดรดน้ำสังข์ด้านล่างที่ประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวหลากชนิดไว้เป็นพื้นหลัง ซึ่งบริเวณนี้เราได้จัดสรรพื้นที่ใช้งานอย่างคุ้มค่า เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้สอยพื้นที่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยจุดรดน้ำสังข์นั้นเป็นจุดเดียวกันกับพิธีการและกินเลี้ยงช่วงหัวค่ำด้วยค่ะ
เมื่อพิธีรดน้ำสังข์เสร็จสิ้น หมวยและเจ้าบ่าวต้องไปเปลี่ยนชุด นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งเราจัด Snack Box เป็นของว่างให้แขกด้วย กระทั่งถึงเวลาตามกำหนด หมวยและเจ้าบ่าวก็จะกลับมายืน ณ จุด Backdrop ด้านนอกเพื่อถ่ายรูปกับคนสนิท ก่อนจะเดินเข้าไปใน Glass House ผ่านเพื่อนๆ ที่คอยส่งเสียงเชียร์และโปรยกลีบกุหลาบค่ะ
หลังจากที่เข้ามาในตัว Glass House แล้ว จะพบส่วนรับประทานอาหารแบ่งเป็นสัดส่วน ซึ่งอาหารที่จัดเตรียมไว้ให้แขกเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ โดยหมวยจะจัดโต๊ะ Long Table ไว้สองจุดคือส่วนโถงกลางบ้านกับส่วนบาร์ใกล้กันที่นอกจากจะมีโซฟาอยู่แล้ว หมวยยังเสริมโต๊ะ Long Table รองรับแขกได้ประมาณ 20 ที่นั่งด้วยค่ะ
เราเปิดพิธีการช่วงหัวค่ำตรงหัวโต๊ะ Long Table ซึ่งหมวยตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีเวที เพราะไม่อยากให้บรรยากาศดูพิธีรีตองเกินไป โดยพิธีกรดำเนินรายการก็เป็นเพื่อนของหมวยเองค่ะ
พอถึงช่วงเวลาที่หมวยและเจ้าบ่าวได้บอกความรู้สึกในใจของกันและกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาตัดเค้ก ซึ่งเป็นเค้กจริงที่หมวยเลือกจากร้านใน Instagram ตามด้วยโยนดอกไม้ สุดท้ายทุกคนก็กินเลี้ยงสังสรรค์เป็นอันจบงานค่ะ
ทุกงานต้องพบปัญหา ขัดใจ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
งานของหมวยไม่ถือว่ามีปัญหาแต่จะเป็นความกังวลมากกว่า เนื่องจากช่วงที่จัดงานอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 พอดี ซึ่งโชคดีที่หมวยจัดงานก่อน หากจัดงานหลังจากนั้นคงต้องเลื่อนงานแต่งไม่มีกำหนดแน่ๆ ค่ะ ส่วนในวันงาน หมวยมองว่าเป็นปัญหาที่เล็กน้อยมาก เช่น การดำเนินงานหรือเรื่องการรันคิวที่ติดขัดบ้าง ปัญหาเรื่องแสงหมด เพราะด้วยเวลาที่เริ่มพิธีการและสถานที่ที่จัดงาน ทำให้ได้รูปภาพโซนสวนน้อยไปหน่อย แต่โดยรวมรับได้นะคะ หมวยมีความสุขมาก
รอยยิ้ม ความรัก ความยินดีของแขกที่มาร่วมงานคือสิ่งที่ประทับใจ
ส่วนตัวประทับใจช่วงพิธีการที่ได้ขอบคุณแขกในงาน หมวยร้องไห้เลย เพราะมันเป็นวันที่คนรักของหมวยทุกคนมารวมตัวกัน แล้ววันที่ 6 เมษายนก็ไม่ใช่เพียงแค่วันแต่งงานเท่านั้น แต่ยังเป็นวันเกิดของหมวยด้วยค่ะ
ส่วนอีกเหตุการณ์แห่งความประทับใจเป็นช่วงพิธีหมั้นและพิธียกน้ำชาที่หมวยได้มีโอกาสกอดพ่อแม่ของตัวเองและพ่อแม่ของเจ้าบ่าว เนื่องจากโดยปกติหมวยไม่ค่อยได้กอดหรือสัมผัสท่านเท่าไหร่ นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้แสดงความรักกับท่าน รวมถึงได้มีช่วงเวลาถ่ายรูปครอบครัวร่วมกันอีกด้วยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ควรตั้งงบแบบไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน : ไม่ควรกู้หนี้ยืมสินใคร แล้วมองภาพงานแต่งให้ออกว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหนและสอดคล้องกับจำนวนงบที่เรามีไหม เพราะบางทีภาพที่คิดไว้อาจสวนทางกับงบประมาณที่ตั้งไว้ได้ค่ะ
เผื่อเวลา : ให้เวลากับการเตรียมงานให้มากพอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียดจนเกินไป
Wedding planner เป็นตัวเลือกที่ดี : เพราะจะช่วยลดภาระและทำให้งานราบรื่น เหมาะสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยุ่ง ไม่มีเวลามาดูแลและจัดการเตรียมงานได้ค่ะ
สถานที่และชุดแต่งงานสำคัญ : ควรเลือกในสิ่งที่เป็นตัวเรา เมื่ออยู่ในงานแต่งเราจะรู้สึกภาคภูมิใจและมีความมั่นใจที่สุด
เลือกช่างภาพจาก Reference : อยากได้ภาพงานแต่งแบบไหน ควรดู Reference ของช่างภาพคนนั้นให้เยอะๆ เพราะช่างภาพแต่ละคนมีสไตล์การถ่ายภาพไม่เหมือนกัน และควรมีช่างภาพวีดีโอเพื่อเก็บบันทึกความทรงจำให้สามารถกลับมาย้อนดูภายหลัง แล้วจะพบกับมุมน่ารักที่อาจไม่ได้สังเกตเห็นในงานมาก่อนค่ะ