Le Pasiri สถานที่แต่งงานสวยสไตล์ยุโรป ย่านราชพฤกษ์
ตอนหาสถานที่แต่งงาน เราจะกำหนดงบประมาณไว้ก่อนแล้วถึงไปหาสถานที่ครับ การทำแบบนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายและได้สถานที่ในงบ ซึ่งก็ได้มาเจอ Le Pasiri (เลอปาสิริ) ที่ตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง
ตั้งแต่โลเคชั่นที่อยู่แถวราชพฤกษ์ ไม่ไกลจากบ้านเรามาก เป็นสถานที่ครบวงจร มีทีมจัดการให้ทุกอย่าง ทั้งการตกแต่ง อาหาร คนดูแล คนรันคิว และยังเป็นสไตล์แบบที่ชอบ มีความเป็นเรือนกระจกกับสวน ตกแต่งด้วยโทนสีเทา ขาว ดำ บรรยากาศจะมีความยุโรปนิดๆ และดูร่วมสมัย สวยมากเลยครับ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนได้ถึง 50 โต๊ะ จึงเพียงพอกับแขก 350 คนของเรา ที่สำคัญคือราคาอยู่ในงบที่ตั้งไว้ด้วยครับ
สำหรับการตกแต่งเราใช้เป็นแพ็กเกจของสถานที่เลย เน้นงานดอกไม้ ซึ่งสามารถเลือกสีของดอกไม้และตัวฉากได้ งานเราจึงเลือกใช้เป็นโทนสีขาวเขียวให้เข้ากับบรรยากาศของสถานที่ โดยจะตกแต่งจุดต่างๆ อย่าง เวที Backdrop จุดถ่ายรูป ราวระเบียง ราวบันได ด้วยดอกไม้ใบไม้เป็นสีขาวเขียวทั้งหมด ให้ความรู้สึกเหมือนมีสวนล้อมรอบครับ
และในส่วนของรูปถ่าย เราจะไม่ได้จัดเป็นแกลอรี่ แต่จะใช้ขาตั้งรูปที่ทางสถานที่เตรียมไว้ให้ วางรูปไล่เรียงตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ประตูทางเข้างานไปจนถึงสุดทางของโถงกลางเลยครับ
ส่วนของรูปแบบการจัดเลี้ยง เราเลือกโดยการดูแขกเป็นหลัก งานเรามีแขกผู้ใหญ่เพื่อนคุณพ่อคุณแม่มาเยอะ เป็นแขกที่มาจากต่างจังหวัดก็เยอะ จึงเลือกเป็นแบบโต๊ะจีนที่สะดวกและลดความวุ่นวายในงานได้มากกว่าครับ ซึ่งด้วยแบบแปลนของสถานที่ การลงโต๊ะจึงจะใช้ได้แค่บริเวณฝั่งซ้ายและขวาของเวที ด้านหน้าจะเป็นพื้นโล่ง บ่าวสาวขี้อายที่ไม่อยากหันหน้ามองแขกตรงๆ น่าจะชอบเลยครับ
พิธีการอบอุ่น เน้นความสะดวก
งานของเราเป็นหมั้นบ่ายเลี้ยงเย็นที่เริ่มตอน 15:00 น. ครับ เราเลือกช่วงนี้เพราะมองว่าเป็นเวลาที่สะดวกกับแขก ทุกคนไม่ต้องรีบเดินทาง แขกที่มาจากต่างจังหวัดก็จะได้มาทันด้วย อีกทั้งเราก็อยากจัดเป็นงานเลี้ยงเย็นอยู่แล้ว ก็พอดีเลยครับ
งานวันนี้เราจะเริ่มที่การแห่ขันหมากเลย ไม่มีพิธีสงฆ์ เพราะเราได้ไปจัดที่วัดก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งพอรับตัวเจ้าสาวแล้ว เราก็จะมาทำพิธีหมั้น สวมแหวน และจบช่วงบ่ายที่การรดน้ำสังข์ครับ
จากนั้นเราก็จะไปเปลี่ยนชุดแล้วกลับมาทานเลี้ยงตอนเย็น โดยจะรันพิธีเริ่มตั้งแต่เปิดตัว สัมภาษณ์บ่าวสาว ตัดเค้กและดึงริบบิ้นดอกไม้ครับ ซึ่งการที่เลือกเป็นดึงริบบิ้นก็มีเหตุผลนะครับ คือเรารู้สึกว่าเวลาถ่ายรูปมีความสวยงาม แล้วก็แฟร์สำหรับทุกคนที่มาร่วมสนุก ได้ลุ้นเท่าๆ กัน อีกทั้งยังลดความวุ่นวายและโอกาสผิดพลาดอย่างการโยนดอกไม้ไปลงโต๊ะแขกหรือโยนหล่นลงพื้นได้ด้วยครับ
จัดทีมดูแลแขก ลดความกังวลของบ่าวสาว
ช่วงก่อนวันงานและวันงานจริงบ่าวสาวจะยุ่งมากๆ แทบไม่มีเวลาดูแลแขก ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้มีความกังวล ดังนั้นคู่ของเราจึงใช้วิธีแบ่งหน้าที่ จัดคนคอยดูแลแขกแทน สำหรับญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดก็จะมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแล ในส่วนของวันงาน เราก็ได้ทำบอร์ดแผนผังที่นั่งของแขกไว้ตรงโต๊ะลงทะเบียนเลย แล้วก็จัดคนคอยดูแลพาแขกไปที่โต๊ะ โดยบนโต๊ะจะมีการ์ดบอกว่าเป็นที่ของใคร แขกก็จะไม่งง ซึ่งการทำแบบนี้ช่วยลดความวุ่นวายและความกังวลได้เยอะเลยครับ
ตอนแรกเรามีความกังวลมากว่างานจะออกมาเป็นยังไง จะผ่านไปด้วยดีไหม แต่สถานที่ดีมากครับ ครบวงจรตามที่คุยกันไว้เลย ดูแลดีทุกอย่างทั้งคู่บ่าวสาวและแขก เขาจะมีคนคอยประกบบ่าวสาว แจ้งคิว สิ่งที่ต้องทำ คอยเตือนเวลา จนเราคลายกังวลไปได้เยอะ ด้านพิธีกรของสถานที่ก็ดี มีความเป็นมืออาชีพมาก เขาจะมีบรีฟกับเรา ถามความต้องการ เราสะดวกหรือไม่สะดวกอะไรก็แจ้งได้ ประทับใจสถานที่มากจริงๆ ด้านช่างภาพก็ดีครับ ทำงานเป็นกันเอง ช่วยจัดท่า แนะนำว่ายืนแบบไหนสวย เราชอบครับ
แนะนำบ่าวสาว
อยากแต่งหน้าทำผมช่วงเปลี่ยนชุดใหม่ต้องคำนวณเวลาให้ดี : เพราะต้องใช้เวลากว่าการเติมหน้าค่อนข้างมาก และควรเลือกช่างที่มีความเป็นมืออาชีพ มีฝีมือ แต่งหน้าทำผมได้รวดเร็ว เพราะเวลา พิธีต่างๆ จะรันไปตามปกติ ถ้าพลาด จะกระทบทุกอย่าง ทำให้เกิดความล่าช้าครับ
วันจริงควรมีตัวแทนบ่าวสาว : คนที่จะตัดสินใจทุกอย่างในงานได้ ไม่อย่างนั้นหากเกิดอะไรขึ้นทุกคนจะมาหาบ่าวสาว ทำให้ต้องมาคอยพะวง แทนที่จะได้ยืนยิ้มสวยๆ โฟกัสกับพิธีการตรงหน้าครับ