หลังจากที่คู่รักตกลงปลงใจกันแล้วว่าจะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน Next Step ที่ต้องคำนึงถึงก็คือการพบปะพูดคุยระหว่างครอบครัวของว่าที่บ่าวสาว ซึ่งหลายคนอาจจะกังวลว่าควรนัดเจอที่ไหนดีถึงจะสะดวกและเหมาะสม
SabuyWedding ขอแนะนำเป็นห้องอาหารในโรงแรม ที่สามารถเลือกห้องที่มีความเป็นส่วนตัวได้ ซึ่ง 7 ห้องอาหารที่คัดสรรมานี้ บอกเลยว่าเวิร์คและสมบูรณ์แบบสุดๆ ควรค่าแก่การมาทานมื้อพิเศษ และพูดคุยเนื่องในโอกาสสำคัญมากเลยค่ะ
1. Park Hyatt Bangkok
‘Embassy Room’ หนึ่งในห้องอาหารหลักของโรงแรม Park Hyatt Bangkok บรรยากาศมีความโปร่งโล่งสบาย เพดานสูง และการตกแต่งที่มีความร่วมสมัยแต่หรูหรา อีกทั้งมีความเป็น Art Hotel ด้วยงานศิลปะที่จัดวางตามบริเวณต่างๆ ค่ะ
โซนที่แนะนำคือ Private Dining Room โดยห้องนี้ตกแต่งอย่างงดงามด้วยผ้าไหม Jim Thompson ทอเป็นลวดลายต้นสาละ หากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศรับลมเย็นๆ พร้อมชมวิวสวนลอยฟ้า และสระว่ายน้ำอินฟินิตี้พูลก็เลือกนั่งด้านนอกได้เช่นกันค่ะ
พิกัด : ถนนวิทยุ, กรุงเทพฯ
2. Nikko Hotel Bangkok
ร้านอาหารญี่ปุ่นซิกเนเจอร์ที่ชั้นล่างของโรงแรม Nikko Hotel Bangkok อย่าง 'Hishou' มิติใหม่ของการรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่น ให้ว่าที่บ่าวสาวและครอบครัวได้ดื่มด่ำกับรสชาติแท้ๆ จากดินแดนอาทิตย์อุทัยที่เข้ากันได้ดีกับฤดูกาล แถมรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่เสริมด้วยบริการ Omotenashi ที่สง่างาม เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์แบบสบายๆ และอบอุ่นค่ะ
พิกัด : ถนนสุขุมวิท 55, กรุงเทพฯ
3. SO/ BANGKOK
สัมผัสความอร่อยไปพร้อมกับวิวกรุงเทพฯ บนตึกสูง โดยเฉพาะความสบายตาของสวนลุมพินี ที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนยามรับประทานอาหารที่ 'Red Oven' ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติกับคอนเซ็ปต์ World Food Market ที่คัดสรรของดีจากทั่วทุกมุมโลกโดยเชฟมากฝีมือค่ะ
ภายในห้องอาหารถูกออกแบบให้มีความโปร่งโล่งสบายและเป็นส่วนตัว มีการตกแต่งโทนสีแดงที่เป็นเหมือนธาตุไฟ และใช้ไฟในการประกอบอาหารเป็นหลัก โดยเฉพาะเตาโมลทานี (Molteni) แบรนด์เครื่องครัวดังจากยุโรปที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของที่นี่เลยค่ะ
พิกัด : ถนนสาทรเหนือ, กรุงเทพฯ
4. Pullman Bangkok King Power
ลิ้มลองรสชาติของอาหารญี่ปุ่นแบบใหม่ที่มีความหรูหรา และความเก๋ไก๋สไตล์โบฮีเมียนในห้องอาหาร 'Tenshino' ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เลยค่ะ
สามารถจัดเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญแบบส่วนตัวได้ในโซน The Dining Room ที่ล้อมรอบด้วยหน้าหวายทอ ตกแต่งด้วยไม้ เบาะกำมะหยี่ โคมไฟระย้าทำด้วยคริสตัล และวอลล์เปเปอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีความหรูหราในบรรยากาศสบายๆ ค่ะ
พิกัด : ถนนพญาไท, กรุงเทพฯ
5. The Okura Prestige Bangkok
ห้องอาหาร 'Yamazato' ที่ได้รับรางวัลมาจาก Kaiseki Ryori (อาหารชั้นสูงของญี่ปุ่น) แบบดั้งเดิมอายุหลายศตวรรษค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโต๊ะเทปันยากิสองโต๊ะ ซูชิบาร์ที่มีอาหารทะเลสดใหม่จากตลาดปลาโทโยสุ และห้องรับประทานอาหารส่วนตัว แถมสามารถนำเสนออาหารสุดพิเศษได้หลากหลายเมนูอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบการชิมรสชาติอาหารในบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นห้ามพลาดเลยค่ะ
พิกัด : ถนนวิทยุ, กรุงเทพฯ
6. Rosewood Bangkok
ห้องอาหารจีนโรงแรม 6 ดาว ‘NanBei’ ที่หรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะมากค่ะ ภายในห้องอาหารประดับด้วยโคมไฟที่ออกแบบเหมือนกระสวยทอผ้า ทางด้านหน้าตกแต่งไฟด้วยนกกระเรียนอย่างสวยงาม ส่วนตรงทางเดินก็จะประดับตกแต่งด้วยข้าวของแบบจีนมากมายค่ะ
ที่นี่มีทั้งโซนปกติ ห้อง Private และโซน Open-air ให้เลือก เรียกว่าครบทุกความต้องการเลยทีเดียว สามารถเห็นวิวกรุงเทพฯ สามด้านด้วยกัน แถมภายในห้องอาหารมีครัวแบบเปิดโล่งให้เราดูเชฟปรุงอาหารสดๆ ด้วยค่ะ
พิกัด : ถนนเพลินจิต, กรุงเทพฯ
7. Waldorf Astoria Bangkok
ห้องอาหารที่เหมาะแก่การฉลองค่ำคืนแสนพิเศษ ท่ามกลางทิวทัศน์ย่านราชดำริแบบเต็มตา ‘Bull & Bear’ หากมองลงมาจากมุมที่นั่งติดกับกระจกใสด้านบนตัวตึก ที่นี่นับว่าเป็นจุดชมวิวเมืองและชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ค่ะ
ภายในห้องอาหารมีรูปแบบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการจัดวางที่นั่งแบบ Art Deco หรูหราและสง่างาม มีมุมนั่งทานอาหารหลากหลายโซน ทั้งห้อง Private มุมโซฟา โต๊ะนั่งสำหรับมาทานกันเป็นคู่และครอบครัว ไปจนถึงมุมเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มค่ะ
พิกัด : ถนนราชดำริ, กรุงเทพฯ