ดื่มด่ำกับบรรยากาศสถานที่แต่งงานริมน้ำ @Buri Tara
ความตั้งใจอย่างแรกของลี่เลยคือ เราไม่อยากจัดงานที่โรงแรมค่ะ เราอยากเลือกร้านอาหารริมน้ำ มาใช้เป็นสถานที่แต่งงาน เพราะรู้สึกว่ากรุงเทพฯ เวลาพระอาทิตย์ตก มองจากริมน้ำไปแล้วจะเห็นบรรยากาศที่สวยสุดๆ ลงท้ายเราเลยมาลงตัวกันที่ร้าน Buri Tara (บุรี ธารา) ซึ่งตรงกับความต้องการของเราพอดี เพราะลี่อยากจะให้แขกที่มาได้เอนจอยกับอาหาร เสียงเพลง และวิวสวยๆ ยามค่ำคืน งานนี้ง่ายๆ สบายๆ ไม่มีธีม ไม่มีเดรสโค้ดแต่งอย่างใดค่ะ
ก่อนเริ่มงาน ลี่จะมีทำกำหนดการพร้อมไว้ก่อนด้วย ในนั้นจะบอกหมดว่าเวลานี้ใครต้องทำอะไรบ้าง มีเบอร์ติดต่อแขกคนสำคัญของทั้งสองฝ่าย เวลาแขกมาถึงเราก็จะมีคนพาไปนั่งถึงโต๊ะ ซึ่งอันนี้ถือว่าดีกับแก๊งสาวๆ ที่อยู่ตรง Reception ด้วย เพราะเขาจะได้ไม่เบื่อ ได้พาแขกมาเซ็นชื่อ พาแขกไปนั่ง ก็จะได้ไม่ต้องนั่งจับเจ่าอยู่กับที่ ได้เดินและได้มีปฏิสัมพันธ์กับแขกไปในตัวค่ะ
Storyteller เล่าเรื่องราวผ่านไอคอน
เรื่องที่เราให้ความสำคัญหลักๆ ภายในงานคือ การบอกเล่าเรื่องราวของเราสองคนค่ะ เริ่มตั้งแต่การ์ดที่เราอยากใช้ มันเป็นเหมือน Storyteller ด้วยการเอาไอคอนต่างๆ ที่มีความหมายกับเรามารวมกัน จนกลายเป็นเครื่องหมาย 'แอนด์ (&)’ ไล่ไปเลยตั้งแต่ว่าเราเจอกันได้ยังไงบ้าง ไปจนถึงเราขอแต่งงานกันที่ไหน ที่เห็นได้ชัดๆ เลยคือ จะมีลิงกับนก สื่อถึงเรื่องราวและความทรงจำของเราด้วย อย่างลิง เราก็ไปเจอด้วยกันที่เขาใหญ่ มันมีเรื่องราวของมันอยู่ หรืออย่างนกก็สื่อถึงความชอบในการดูนกของเราทั้งคู่ และนกที่เราเลือกวาดลงไปในการ์ดก็คือนกเงือก เพราะเป็นสัตว์ที่มีคู่เดียวตัวเดียวค่ะ
ในส่วนของของชำร่วย เราใช้ของจากมูลนิธิทั้งหมดค่ะ คละกันหลายแบบมาก อย่างแรกจะเป็นถุงผ้าของคุณสมจิตรจากพะเยา เขาจะเอาคนในหมู่บ้านที่มีปัญหาทางด้านร่างกายมาสอนแล้วก็ช่วยกันเย็บ ก็ถือว่าได้อุดหนุนไปในตัว อีกส่วนมาจากมูลนิธิภูฟ้า ตรงสติกเกอร์ที่แปะบนของชำร่วยหรือตรายางที่ใช้สำหรับแจกแขก ก็มีการใส่กิมมิคเดียวกับการ์ดลงไปด้วยค่ะ
สูตรอร่อยเพื่อคุณเท่านั้นที่เป็นคนพิเศษ
ภายในงานเรามีสูตรเครื่องดื่มที่คิดค้นกันเองด้วย เราไปเลือกซื้อน้ำ ซื้อผลไม้ แล้วตั้งชื่อใหม่ ด้วยชื่อของบ่าวสาว สองสูตรเด่นๆ เลยคือ ‘ลี่บรีซ’ (มาจากชื่อเจ้าสาว) เป็นลิ้นจี่มาร์ตินี่แต่ใส่น้ำแข็งกับมิ้นต์ ส่วนของเจ้าบ่าว ชื่อ ‘อดัมอิโต้' คล้ายๆ โมฮิโต้ แต่ใส่แพชชั่นฟรุ๊ต แล้วเราจะแข่งกันว่าแขกชอบอันไหนมากกว่า โดยให้แขกยกมือโหวต เป็นอีกเกมส์สนุกๆ ระหว่างงานเลยค่ะ
บนโต๊ะอาหารจะมีตามปกติ จะมีเลขโต๊ะกับชื่อแขกตั้งอยู่ แต่เราไม่อยากให้มันเป็นอะคลิริกแบบทั่วๆ ไป เพราะรู้สึกว่ามันเหมือนป้ายโปรโมชั่นร้านอาหาร เราเลยไปตามอ่านไอเดียดีไอวายที่เขาใช้ขวดเหล้า บังเอิญว่าคุณเจ้าบ่าวเขาชอบสะสมอยู่แล้วด้วย เราก็ไปหาเพิ่มเติมมาอีกหน่อยให้มันพอดีกับจำนวนโต๊ะ นำมาล้าง แล้วไปซื้อผ้าลูกไม้จากสำเพ็งมาตัด เอาเชือกป่านมาผูก ปริ้นท์เลขโต๊ะเอง อย่างของลี่ ลี่จะเขียนเลยว่าเพื่อนลี่มาจากที่ไหน แต่เจ้าบ่าวเขาเป็นคนต่างชาติที่มาอยู่เมืองไทยนานแล้ว ดังนั้นเขาก็จะมีตั้งชื่อกลุ่มเอาไว้น่ารักๆ ตลกๆ เช่น กลุ่ม Too Long in Thailand กลุ่ม High School Good Old Day กลายเป็นเรื่องสนุกๆ กันไป
สำหรับเรื่องไฟที่เราเป็นห่วงกัน เพราะงานเราจัดเอ้าท์ดอร์ แล้วเป็นช่วงเวลากลางคืน เราก็มีเตรียมการในส่วนนี้ โดยนำไฟปิงปองมาเสริม หรือจุดไหนที่มืดแต่ไม่มาก ก็ตกแต่งด้วยดวงไฟดวงเล็กๆ อีกที ลี่โชคดีมากๆ ที่ได้ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ มาร่วมด้วยช่วยกัน จนออกมาเป็นงานที่ดีขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนด้วยอีกครั้งจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เกมส์ช่วยให้งานไม่น่าเบื่อ : อย่างของลี่เองก็ มีเกมส์ให้เล่นกันด้วย เสร็จแล้วเราจะมีของรางวัลเป็นถ้วยฟุตบอลอันพิเศษมอบให้ ถือเป็นการสร้างโมเมนต์ที่มีความสุข สนุกๆ ร่วมกันค่ะ หรือถ้าจะให้พิเศษกว่านั้นอีก ก็ลองหาพิธีกรที่รู้จักเราบ่าวสาวดีอยู่แล้ว มาช่วยบิ้วด์งานให้ เขาอาจจะช่วยเติมรายละเอียดในส่วนที่เราคาดไม่ถึง เช่น เล่าให้แขกฟังถึงความตั้งใจในการจัดงานของบ่าวสาว หรือความสัมพันธ์ของเราในสมัยก่อน เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยเสริมให้งานออกมาน่ารัก และทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกฟีลกู้ดค่ะ