Sortrel Cottage สถานที่แต่งงานพิกัดดี บรรยากาศสไตล์อังกฤษก็มา
เงื่อนไขแรกในการเลือกสถานที่แต่งงานของหญิง คือจะต้องเป็นแบบชิลล์ๆ สบายๆ ในสไตล์ที่เพื่อนชอบค่ะ เรามองไว้ว่าแขกน่าจะประมาณ 300-400 คน ถ้าจะเอาให้อินและลงตัวจริงๆ คงต้องเป็นประมาณกึ่งผับกึ่งเรสเตอรอง สุดท้ายเลยได้เป็นร้านฟีลกระท่อมสไตล์อังกฤษมา อยู่แถวพระราม 3 ชื่อว่า Sortrel Cottage (ซอร์เทรล คอทเทจ)
ร้านนี้นอกจากจะจุคนได้โอเคแล้ว การเดินทางมาก็ยังสะดวก แค่ลงทางด่วนนิดเดียวก็ถึงเลย ที่จอดรถมีพร้อม ตัวร้านมุมที่เราใช้เป็นเมนหลักจะเป็นส่วนเอ้าท์ดอร์ แต่เขาก็มีห้องแอร์ใหญ่ๆ อีก 2 ห้องที่ชั้นล่าง แล้วห้องกระจกอีก 2 ห้องที่ชั้นบนเหมือนกัน เรียกว่าปิดร้านแล้วกระจายแขกได้ทั่วเลย
แบ็คดรอปจากผนังที๋โดดเด่น
เรื่องการตกแต่ง เพราะว่าร้านเขาสวยอยู่แล้ว เราเลยเน้นไฟเยอะหน่อย แล้วก็ไม่ได้ใช้แบ็คดรอปตรงๆ แต่หันไปใช้พื้นหลังของร้านอาหารแทน จุดนี้ทีมตกแต่งเขาช่วยครีเอทให้เราเลย ทำให้ได้มุมถ่ายรูปที่ไม่เหมือนใคร ส่วนพวกโต๊ะแกลอรี่ ก็ค่อยแยกต่างหาก เรื่องรันคิวหรือรายละเอียดอื่นๆ เพื่อนเจ้าสาวจะเป็นคนช่วยทำให้ โดยเราจะเรียกมาประชุม บรีฟกันก่อนวันงาน 1 วัน
ของชำร่วยภายในงาน เราเลือกใช้เป็นชาจากร้าน Hom Herbal Tea ค่ะ ร้านนี้เราเห็นบทความจาก Sabuyweddingด้วย ชอบตรงที่เขามีแพคเกจจิ้งที่สามารถมิกซ์ให้เข้ากับธีมได้ เราดีไซน์เป็นลายเส้น บวกกับเราก็ชอบดื่มชาอยู่แล้ว ก็ยิ่งเข้ากันได้ดี
ธีมสีขอบาย งานนี้จะเข้าได้ เราขอแค่กราฟิกเท่านั้นพอ
ส่วนเรื่องธีม เราคุยกันกับคุณเจ้าบ่าวว่า ไม่อยากได้ธีมสี แต่อยากได้เป็นธีมลายๆ มากกว่า แต่ทีนี้เจ้าสาวอยากได้ลายจุด ส่วนคุณเจ้าบ่าวอยากได้ลายสก็อต เลยเอามารวมเป็นธีม Simply Graphic ซะเลย คือใส่อะไรก็ได้ที่เป็นลายกราฟิกมา จะสามเหลี่ยม ลายจุด ลายทาง เราโอเค แต่แอบเม้าท์เบื้องหลังนิดนึง ว่าจริงๆ เพื่อนหญิงมาแซวว่าธีมนี้เก๋จริง แต่หายากกว่าธีมสีๆ เยอะเลย เพราะลายประมาณนี้ถ้าจะให้สวยต้องสีขาวดำค่ะ ซึ่งไม่มีใครกล้าใส่มาเพราะมันเป็นงานมงคล (หัวเราะ)
พอได้ธีมแล้วเราก็ไม่พลาดจับใส่ลงไปในทุกๆ รายละเอียด อย่างการ์ดเชิญของเราจะทำเป็นเหมือนบัตรคอนเสิร์ต มี 5 ลายกราฟฟิก แล้วก็มีเจาะบัตรก่อนเข้างานด้วยค่ะ
สำหรับพิธีกรของงาน เราให้เพื่อนสนิทที่เขามีประสบการณ์ในการเป็นพิธีกรมาช่วยซัพพอร์ต งานเลยออกมาสนุก เพราะเขาเป็นมืออาชีพ แล้วก็รู้จักเราอยู่แล้วเลยเล่าได้ไม่ติดขัด ไม่ต้องบรีฟกันมาก ก็สามารถไว้ใจเขาได้
ชวนเพื่อนมารักกันต่อในงานแต่ง
นอกจากนี้เรายังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ สนุกๆ เตรียมไว้ให้ในงานอีก อย่างงานเราจะมีสติกเกอร์ด้วยค่ะ อันนี้เกิดมาจากการที่เพื่อนหญิงรีเควส ว่าน่าจะทำสติกเกอร์ระบุกันให้ชัดๆ ไปเลย ว่าคนไหนยังโสด คนไหน In Relationship อยู่ แล้วในงานเราก็จะมีสุ่มเพื่อนผู้หญิงออกมาอีก เรียกออกมา 1 คน กับเพื่อนผู้ชายอีก 3 คน เน้นเลือกคนที่เราพอรู้อยู่แล้วว่าเขาสนใจกัน ไปๆ มาๆ ก็เหมือนรายการ Take me out เลย
ในส่วนของช่วงโยนดอกไม้ เนื่องจากเราโดนเพื่อนบรีฟมาหนัก ว่าไม่เอานะ กับมุกจะโยนไม่โยน นับๆ แล้วหลอก เราเลยปรับไปใช้กล่องล็อกกุญแจแทนค่ะ ด้านในจะมีดอกไม้อยู่ในกล่อง แล้วก็จะสุ่มคนออกมาเป็นตัวแทน โต๊ะละ 1 คน แต่จะมีกุญแจที่ถูกจริงๆ อยู่แค่ดอกเดียว แล้วก็ให้แขกไปไขกัน ใครได้ก็รับดอกไม้ไปเลย แต่ด้วยความที่กลัวว่าเพื่อนเจ้าบ่าวจะเสียใจ เราเลยใช้วิธีเดียวกันนี้ด้วยอีกครั้งนึง แต่ด้านในเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทน
แนะนำบ่าวสาว
เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ : เพราะยิ่งได้วันฤกษ์ดี ก็จะยิ่งจองโรงแรมยากค่ะ ถ้าเรารู้ตัวว่าจะต้องใช้โรงแรมในกรุงเทพ ควรจองล่วงหน้าสัก 1 ปี ยิ่งจองเร็วก็จะได้ราคาดี เพราะราคาโรงแรมขึ้นทุกปี อย่างหญิงเองขนาดจองเร็วมาก กับบางโรงแรมยังเป็น Waiting List คิวที่ 5 เลย เรื่องนี้ห้ามชะล่าใจจริงๆ