ธีมที่ใช้มาจากความประทับใจในการ์ตูนเรื่อง UP
สถานที่แต่งงานของคู่เรา เราเลือกที่ Phothalai Leisure Park (โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค) ค่ะ ส่วนธีมหลักของงานแต่งงาน เราได้แรงบันดาลใจมาจากแอนิเมชั่นเรื่อง UP ส่วนเหตุผลที่เป็นเรื่องนี้ เพราะว่าบ่าวสาวเราประทับใจในความหมายของการ์ตูนเรื่องนี้มาก ชอบความรักของคาแรกเตอร์หลักทั้งสองตัว ที่ฝันอยากจะไปเที่ยวผจญภัยรอบโลกด้วยกัน แล้วก็คิดว่าถ้าเอามาทำเป็นธีมก็น่าจะชัดเจนดี พอทำออกมาเป็นรูปธรรม คนจะได้จดจำได้ ง่ายต่อทีมออแกไนซ์ด้วย
หลังจากไฟนอลกันได้แล้วว่าจะใช้ธีมนี้ ก็เลยนำมาสู่การใช้พร็อพแบบลูกโป่ง มีชั้นไม้วางเชิงเทียนเป็นแบ็คดรอป ส่วนของตกแต่งอื่นๆ ก็จะมีทั้งบอลลูนที่เป็นยานพาหนะพาคุณปู่ไปผจญภัยตลอดทั้งเรื่อง มีฉากในบ้านที่มีรูปเก่าๆ ประดับอยู่ ซึ่งถ้าเป็นในการ์ตูน ก็จะเป็นภาพของปู่คาร์ลกับแอลลี่ พอมาเป็นของเรา เราก็ใช้ภาพสมัยเด็กๆ เข้ามาแทน นอกจากนี้ยังมีตั้งเก้าอี้บุนวมสองตัวใหญ่ๆ แทนฉากห้องรับแขกด้วย จะได้เสมือนจริง
หยิบซีนสนุก มาต่อยอดเพื่อสร้างบรรยากาศ
กิจกรรมหน้างานเราก็พยายามจัดให้สนุกที่สุด เวลาเดินเข้างานมา แขกจะได้เจออุโมงค์ดอกไม้ห้อย Mason Jar ได้เห็นตู้ไปรษณีย์เหมือนในเรื่อง ที่เอาไว้ใช้ใส่ซอง พอเดินไปสักพัก ก็จะมีมุมให้เล่นแสตมป์นิ้วโป้งลงบนผ้าใบให้เป็นรูปลูกโป่ง เหมือนหยิบเอามุมน่ารักๆ ในเรื่องมาใช้ประกอบในการเล่าเรื่องราวค่ะ
สำหรับของชำร่วย เราเลือกเป็นสบู่นมข้าว แพ็คเกจจิ้งห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลแล้วติดแท็กโลโก้ ส่วนอาหารเป็นการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งแต่เดิมอาหารของโพธาลัยก็ดีมากๆ แต่เนื่องจากคู่เราเป็นสายชอบทาน เลยขอใส่เพิ่มเข้าไปอีกหน่อย มีทั้งหมูหันฮ่องกงและซาชิมิเลยค่ะ
การจัดโต๊ะ เราเน้นใช้พื้นที่ข้างในฮอลล์สำหรับผู้ใหญ่ จัดเป็นโต๊ะกลม จะได้ไม่ต้องเดินเยอะและทานกันได้สะดวก ส่วนที่เป็นเหมือนโต๊ะซิทดาวน์ด้านนอก ก็สำหรับเพื่อนๆ และแขกวัยรุ่นหน่อยค่ะ
ดึงความสนใจด้วยไฮไลท์แสนน่ารัก
พิธีการด้านใน เราเริ่มจากการเปิดตัวด้วยขบวนเด็กๆ ที่มาพร้อมที่เป่าฟองสบู่ ตามด้วยเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งเพื่อนเจ้าสาวนี่ก็จะมาในเฉดสีที่ไม่เหมือนกันเลยค่ะ คือในการ์ดเราจะบอกไว้คร่าวๆ แค่ว่าขอให้เป็นสีพาสเทล แต่สำหรับเพื่อนเจ้าสาว 10 คน เราไปเลือกเมนสีหลักไว้ให้ 5 สีเลย จับคู่กัน แล้วก็ให้โจทย์ว่าเป็นกระโปรงทรงปล่อย
โชคดีที่ได้คุณมาริสา แอนนิต้าแนะนำมาอีกที ว่าให้ตัดกับคุณจ๊อบ Joby Genesis เลย งานนี้เราเลยได้ออกมาแบบทั้งสะดวกและถูกใจ เพราะเขามาวัดตัวให้ถึงที่บ้านจริงๆ
ต่อจากซีนเปิดตัวบ่าวสาว ก็จะเป็นการขึ้นเวทีให้คุณพ่อคุณแม่และประธานอวยพรตามปกติค่ะ ในส่วนของเวทีนี้เราก็อยากได้แบบโล่งๆ เลยให้ทีมออแกไนซ์ดีไซน์ออกมาเป็นองค์ประกอบของเมฆ แล้วก็กังหันลม ทำให้ได้บรรยากาศโดยรวมออกมาดูสบายๆ
เล่นเก้าอี้ดนตรี แทนการโยนดอกไม้
ถัดจากนั้นก็จะมีการตัดเค้ก มีเด็กๆ มาเต้นเซอร์ไพรส์ให้ ก่อนจะเล่นเก้าอี้ดนตรีแทนการโยนดอกไม้ค่ะ สำหรับโมเม้นท์นี้เรียกได้ว่าทุกคนใช้ความสามารถกันล้วนๆ แถมยังได้ย้อนความทรงจำวัยเด็กไปในตัว บางคนจริงจังมากถึงขั้นถอดส้นสูงกันเลยก็มี วิ่งกันจริงจัง ใครชนะก็ได้ดอกไม้ไป แล้วเรายังให้วอยเชอร์กาแฟสตาร์บัคไปด้วยอีกอย่างนึง
ตบท้ายอีกนิดด้วยการเปิดแชมเปญ เหมือนเป็นสัญญาณการเปิดฟลอร์ ให้ทุกคนออกไปสนุกกันต่อได้ที่โซนเอ้าท์ดอร์ด้านนอก เรามีจัดบูธค็อกเทลไว้ให้ด้วย สำหรับวันงาน เรารู้สึกว่าทุกอย่างผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ ชอบฟีดแบคจากทุกๆ คนที่บอกกลับมา บอกว่างานสนุก ไม่อยากให้จบ อยากให้จัดอีก แค่นี้เราก็ชื่นใจว่ามันตรงพ้อยท์ ที่อยากจะทำให้แขกมีความสุขที่สุดแล้วค่ะ อีกอย่างนึงคือต้องขอบคุณทีมงานทุกคนมากๆ ตั้งแต่ออแกไนซ์ ช่างภาพ ไปจนถึงตัวสถานที่ ทุกคนทำงานเต็มที่จนงานออกมาดีอย่างที่ได้ตั้งใจไว้จริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
(เจ้าบ่าว) คุยกันให้ชัดว่าอยากได้ธีมอะไร : เดี๋ยวนี้งานแต่งงานมันมีอะไรเก๋ๆ เยอะครับ แต่เราต้องวางแผนให้ดีก่อนว่าเราชอบอะไรกันแน่ แล้วถึงค่อยไปคุยกับออแกไนเซอร์ พอไอเดียมันเคลียร์จะได้ต่อยอดอะไรได้ง่ายขึ้น
(เจ้าสาว) ไม่ว่ายังไงก็อย่าเครียด : เคยได้ยินมาว่าบางคนยิ่งพอใกล้วันงาน ยิ่งนอนไม่หลับเพราะเครียดใหญ่ แต่ของคู่เราไม่มีเลยค่ะ (หัวเราะ) หลับสบายทุกคืน วิธีของท็อปคือให้คิดไว้เลยว่า ยังไงแขกเขาก็มาร่วมแสดงความยินดีกับเราจริงๆ ทุกคนเป็นกัลญาณมิตรที่พร้อมจะมาเชียร์มาให้กำลังใจ