Love under the moonlight @Grand Hyatt Erawan
Theme งานของเราสมมติให้เป็นบรรยากาศช่วงกลางคืน เปรียบเหมือนกับความรักที่อยู่ใต้แสงจันทร์ค่ะ เราเลือกใช้สถานที่แต่งงานที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan (แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ) โดยตรงหน้าทางเดินเข้า เราครีเอทเป็นก้อนเมฆ แล้วประดับด้วยคริสตัล โดยใช้สีขาวเทามาช่วยเสริมให้งานออกมาดูโรแมนติกกำลังดี ภายในงานจะมีดีเทลเล็กๆ ที่เกิดจากความชอบส่วนตัวของมี่ นั่นก็คือการใช้ครั่ง ทั้งตรงแบ็คดรอป แล้วก็ในส่วนของของชำร่วยเลยค่ะ ดูได้อารมณ์แบบ British Style ให้มู้ดแบบขลังๆ ดี
แล้วด้วยความที่ตัวงานเราให้ออแกไนเซอร์จัดการทั้งหมด ของชำร่วยเลยเป็นอะไรที่มี่ตั้งใจทำเองมากๆ ตั้งแต่การเลือกของ ไปจนถึงการทำแพ็คเกจจิ้ง มี่ใช้เป็นสบู่น้ำนมข้าวผสมถั่วเขียว สีออกเทาๆ เข้ากับ Theme เราหน่อย แล้วก็ห่อด้วยกระดาษที่ปริ้นลายเวิร์ดดิ้งเกี่ยวกับทัศนคติเรื่องความรักของบ่าวสาว ทับอีกชั้นด้วยกระดาษไขกับริบบิ้น แล้วก็ประทับครั่งสีเทาตราชื่อบ่าวสาวเข้าไปอีกเป็นอย่างสุดท้ายค่ะ
สายใยและหัวใจจากครอบครัว
งานแต่งของมี่ เราเตรียม Presentation ไว้ทั้งหมด 2 ชุดค่ะ ชุดแรกคือส่วนที่นำเสนอเรื่องราวของบ่าวสาว เปรียบเปรยความรักความสัมพันธ์ไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา เช่นใน Presentation เราเล่าเรื่องด้วยการทำเค้ก เปรียบแป้งกับน้ำตาลให้เหมือนตัวแทนของคนสองคน ที่กว่าจะมาผสมเข้าหากันจนเกิดเป็นเมนูแสนอร่อยได้ ก็ต้องแบ่งปันกันบ้าง ปรับตัวเข้าหากันบ้าง สุดท้ายจึงได้ออกมาเป็นเค้กที่สวยงามในที่สุด ส่วน Presentation ตัวที่สอง ที่เป็นไฮไลท์ที่แท้จริงของงานนี้ เป็นวิดีโอที่บอกเล่าถึงความในใจของเรา ที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะเราตั้งใจไว้แล้วว่า อยากให้โทนของงานมันออกมาอบอุ่น โดยให้ความสำคัญกับคุณพ่อคุณแม่ของบ่าวสาว มากกว่าแค่เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนสองคน
จริงๆ ในวิดีโอ จะเป็นการตั้งกล้องอัดกันแบบง่ายๆ พูดกันไปตามความรู้สึก แต่อาจจะดูเรียบง่าย แล้วก็จริงใจมากๆ มันเลยทัชกับความรู้สึกของคนที่มางาน ตอนที่เปิดคลิป มี่เห็นทุกคนเงียบ แล้วก็น้ำตาไหลกันหมด เหมือนว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปอีกโหมดทันทีเลยค่ะ โชคดีที่สุดท้ายมีคลิปเซอร์ไพรส์ เป็น Presentation ตัวที่สามจากน้องสาว ที่มาช่วยดึงอารมณ์กลับให้ เป็นซีนตลกๆ ที่มีชื่อเรื่องว่า ‘คู่มือการใช้ปาล์มมี่’ ประหนึ่งว่าเป็นไบเบิ้ลให้เจ้าบ่าว เช่น ห้ามเสียงดัง พี่มี่ไม่ชอบ เหมือนรวมเอานิสัยเรามาจัดเป็นฉบับย่อ แล้วคือทุ่มเทมาก ไปยืมมาสคอตคาแรกเตอร์ LINE มาถ่ายกัน สุดท้ายงานเลยจบออกมาได้เป็นฟีลอบอุ่น ซึ้งๆ กำลังดี ไม่มีใครร้องไห้จนตัวโยนค่ะ (หัวเราะ)
แนะนำบ่าวสาว
แท็คทีมออแกไนเซอร์ 3 เจ้า! : วิธีการจัดงานของมี่ คือให้ ออกาไนเซอร์หลัก (wedding planner) ของเรา ไปรวบรวมร้านที่เก่งเฉพาะทางในแต่ละด้านมาช่วยทำงานให้ เหมือนเขาเป็นศูนย์กลางการติดต่อและหาข้อมูลให้ค่ะ ทั้งหาคนที่จะมาดูแลจัดการพิธีการช่วงเช้า และร้านที่จะจัดตกแต่งหน้างานให้เราตอนเย็น รวมไปถึงหาร้านที่จะมาตกแต่งตัวงานทั้งภายนอกและภายใน ทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยของเราตลอดการเตรียมงานหนึ่งปีเต็ม คือแทนที่เราจะต้องไปดีลกับแต่ละเจ้าๆ ด้วยตัวเอง (ซึ่งบางเจ้าเราก็ไม่มี Connection เป็นทุนเดิม ถ้าคิวเขาแน่นแต่เราอยากได้ เราก็ไม่มีวิธีจะต่อรองกับเขา) Wedding Planner จะเป็นคนจัดการตรงนี้ให้ ส่วนเรื่องการเลือกโรงแรม Planner จะเตรียมช้อยส์มาให้เราเลยว่า โรงแรมไหนเกรดอะไร ราคาโต๊ะจีนเท่าไหร่ ค็อกเทลเท่าไหร่ ว่างอยู่ไหม หรือเป็น Waiting List อยู่ เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ไปเลย พอเป็นแบบนี้ การจัดงานของเราก็ง่ายขึ้นมาก แต่มีข้อแม้คือ ต้องบอกทุกอย่างให้เคลียร์และชัดเจนที่สุด งานจะได้ออกมาราบรื่น ไม่มีปัญหา ทั้งสะดวกและครบวงจร ง่าย แต่เพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลยค่ะ
ฟังเหตุผลของผู้ใหญ่ด้วย : ใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกันค่ะ อย่างตอนแรกอยากจัดค็อกเทล แต่พ่อแม่อยากให้จัดโต๊ะจีน ซึ่งเหตุผลของเขาก็ดีกว่า แขกเขาอายุมากแล้ว จะให้มาเดินๆ ไปเรื่อย จิ้มนั่นชิมนี่มันก็ไม่ไหว สุดท้ายเราก็ต้องปรับเข้าหากัน ถึงได้ออกมาเป็นแบบ Sit down dinner คือเจอกันครึ่งทาง แขกได้นั่งทาน แต่ก็ปรับเป็นในสไตล์แบบที่เราโอเค ทั้งรูปแบบของตัวโต๊ะ และวิธีการเสิร์ฟ ที่เปลี่ยนจากจานใหญ่ๆ มาเป็น Portion ที่พอดีต่อหนึ่งคนทานค่ะ