รีวิวงานแต่งท่ามกลางเพลงรักหวานซึ้งตรึงใจ ในธีม Music & Art @Impact เมืองทองธานี

ลงตัวด้วยห้องสุดเก๋ ที่Impact เมืองทองธานี
          ตอนหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ครอบครัวเรามีโจทย์อยู่ว่าขอแบบไม่ไกลบ้านค่ะ ทีนี้ด้วยความที่เจ้าสาวอยู่รังสิต เจ้าบ่าวอยู่รามอินทรา ห้อง Bistro de champagne ที่ Impact (อิมแพ็ค เมืองทองธานี) จึงตอบโจทย์มาก ราคาเหมาะสม เดินทางสะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ แล้วก็ดูชิคดี เพราะห้องไม่เป็นทรงเหลี่ยม มีสองชั้น ตรงกลางเป็นวงกลม สวยด้วยโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมา แถมเคาน์เตอร์ก็เปลี่ยนสีได้อีก ทีมเซลล์ก็แนะนำดี เรียกว่าครบสูตรเลย

งานที่ทุกเจนเอนจอย
          แนวคิดในการจัดงานของเราคือพยายามแม็ตช์ทุกอย่างให้คนทุกเจนแฮปปี้ งานต้องดึงดูดความสนใจคนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกสบายอยู่ แขกสามารถคุยกัน เดินเล่นชั้นสอง ได้ความรู้สึกเป็นกันเอง
         คอนเซ็ปต์เราพยายามวางไว้ให้ชัดแต่แรก เพื่อให้การดีไซน์งานเตรียมงานทุกอย่างง่าย ธีมงานใช้ชื่อ R&B ซึ่งเป็นสไตล์ดนตรีที่บ่าวสาวชอบ แล้วก็ตรงกับชื่อจริงของเรา พอมาบวกกับคอนเซ็ปต์ Music and Art เจ้าบ่าวชอบดนตรี เจ้าสาวชอบศิลปะ ทุกอย่างเลยลงตัว

          การ์ดเราออกแบบกันเอง วาดเองทั้งหมดเลยค่ะ ของชำร่วยเราเอารูปจากในการ์ดมาอะแดปใส่ถุงผ้า เวลาแขกเดินเข้ามาในงานก็จะเจอโต๊ะลงทะเบียน เจออุโมงค์ไฟระย้า ดูฟรุ้งฟริ้งอ่อนหวาน มีแขวนพร็อพเป็นตัวโน้ตที่ดูคลาสิก ส่วนแบ็คกราวน์ใช้เป็นเนื้อเพลงที่เจ้าบ่าวแต่ง ระหว่างทางก็จะมีรูปถ่ายของบ่าวสาว ส่วนการเซ็นอวยพร เราก็เปลี่ยนมาเป็นการเซ็นลงบนกีตาร์กับอูคูเลเล่แทน

อบอุ่นไปด้วยสีสันอันอ่อนหวาน
          แบ็คดรอปที่อยู่ก่อนถึงทางเข้างาน เราทำเป็นสีน้ำเฉดชมพูฟ้า ดอกไม้ไม่ต้องเยอะ เน้นให้บ่าวสาวเด่นๆ ส่วนแขกเราบรีฟให้ใส่สีขาวมาเลย เพราะเจ้าบ่าวใส่สีฟ้า ส่วนเจ้าสาวใส่สีชมพู สีเดียวกันกับในการ์ด
          นอกจากนี้ยังมีของเล่นกุ๊กกิ๊ก พวกหนวด แว่นติดไม้ มาใช้ให้แขกเล่นกันในงาน ช่างกล้องก็เอ็นเตอร์เทนต์หนักมาก บิ้วด์ท่าได้เยอะ เรียกว่าเป็นภาพถ่ายที่แบ็คดรอปที่เอาไปทำเป็นแบบเคลื่อนไหวไฟล์ GIF ได้เลยค่ะ ฟีดแบคก็ดี แขกแฮปปี้ ไม่ใช่แค่ช็อตเดียวจบ สนุก ครีเอทท่ากันได้เพลินเลยค่ะ

          อาหารในงานนี้เราจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลสำหรับแขก 300 คน เลือกใช้ของทางอิมแพ็คเลย เพราะรวมอยู่ในแพ็คเกจ มีเพิ่มซุ้มปลาดิบ ซุ้มเกี๊ยวกุ้ง ขนมหวานอย่างชีสเค้กก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยจริงๆ ค่ะ

งานแต่งสบายๆ สไตล์เรา
          เรื่องพิธีการ เรารู้สึกว่าหัวใจของงานอย่างการเดินเปิดตัว เปิดเพลง โยนดอกไม้ เหล่านี้ยังต้องมีอยู่ แต่เราอยากให้ภาพรวมทั้งหมดดูกระชับและอบอุ่น
          อย่างแรกเราเปิดพรีเซนเทชั่นที่ถ่ายแบบเอ็มวี ใช้เพลงที่เราแต่งเอง โดยมีทีมสีนวลตาถ่ายให้ เป็นเพลงรักของเราสองคน การเดินเปิดตัวก็ใช้วิธีเดินลงบันไดไปจากชั้นสอง และให้คุณพ่อคุณแม่เป็นประธาน โดยแทนที่ท่านจะต้องนำพวงมาลัยมาให้ เราก็เปลี่ยนเป็นเอาพวงมาลัยคล้องมือสี่ช่อไปมอบให้ท่านแทนค่ะ

          ถัดจากนั้นก็ขึ้นเวทีสัมภาษณ์โดยพิธีกรคนกันเอง เวทีออกแบบมาให้ไม่สูง  คุยกันแล้วคนข้างล่างยังแซวได้ รู้สึกใกล้ชิดอยู่ มองขึ้นไปเห็นเพื่อนบางคนซึ้ง บางคนแอบสแนปถ่ายรูป เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ตามด้วยการตัดเค้ก ซีนเซอร์ไพรส์ร้องเพลงจากเจ้าบ่าว (เจ้าบ่าวบอกเตี๊ยมกับนักดนตรีมาดีสุดๆ ขนาดตอนซาวน์เช็คยังต้องทำกันเงียบๆ แต่งเองเล่นเองทั้งหมด) ตบท้ายด้วยการโยนดอกไม้ตามปกติเลยค่ะ

          สำหรับการรันงานครั้งนี้ แต่ละซีนจะมีเพลงที่เราเลือกมา โดยจัดวางแต่ละช็อต ดีไซน์กันละเอียดแม้แต่ Groove ของแต่ละซีเควนซ์ โชคดีที่ได้วงดนตรีที่เล่นได้ตรงใจ งานทุกอย่างจึงออกมาเรียบร้อยสมบูรณ์ดี โดยรวมแล้วเราทั้งคู่ประทับใจในทุกดีเทลของงานมากๆ ทั้งสถานที่ของอิมแพ็ค อาหารที่คนชมว่าอร่อย การตกแต่งงาน ทีมช่างภาพ ทุกอย่างดูสมูธไปหมด เป็นการเอาความ Conservative ของรุ่นพ่อแม่ มาบวกกับความเป็นมินิมอลของคนยุคใหม่ ผู้ใหญ่แฮปปี้ น้องที่ทำงานมาก็บอกว่าชอบ สบายๆ ไม่เหมือนใคร แม็ตช์ทุกเจนได้ดี จนเราเองก็มีความสุขไปด้วยเลยค่ะ

แนะนำบ่าวสาว
(เจ้าบ่าว) กำหนดบัดเจทให้เหมาะสมกับตัวเรา : ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องยึดตามคนอื่น เอาที่พอดีกับเราที่สุดครับ ใช้วิธีคิดตรงคอนเซ็ปต์ให้ชัดให้ดี เพราะมันจะเป็นการบอกคนที่มางานได้ดีที่สุด ว่าความตั้งใจในการจัดงานของเราเป็นอย่างไร ทำให้เหมือนเป็นงานรวมเพื่อนรวมญาติ ให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งของงานเราจริงๆ
(เจ้าสาว) แพลนบัดเจทให้ดี ยิ่งใช้เงินตัวเอง ยิ่งต้องดูว่าควรเก็บตั้งแต่ตอนไหน : บ่าวสาวยุคใหม่ต้องไม่กวนเงินพ่อแม่แล้วค่ะ แบบนี้เราถึงจะมีอำนาจในการตัดสินใจ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นแพลนตั้งแต่ตอนคบกันเลยยิ่งดี
(เจ้าสาว) คุยกันเยอะๆ : ไม่งั้นอาจมีไปทะเลาะกันทีหลังได้ หลายอย่างคุยกันตรงๆ แล้วจะดีขึ้น เวลาตัดสินใจก็รวมความคิดกัน จูนกันจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เรารู้สึกว่าลงตัว อีกเรื่องที่ฝากเลยคือคอนเซ็ปต์ดีจะทำให้ทุกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการหาซัพพลายเออร์ ชุด การตกแต่งต่างๆ แล้วเราก็เอาคอนเซ็ปต์เนี่ยแหละ ไปตัดว่าเราจะใช้บริการจากเจ้าไหนดีค่ะ