Plaza Athénée Bangkokสถานที่แต่งงานขนาดใหญ่ รองรับแขกได้เป็นพันคน
งานหมิวเป็นงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง แล้วมีฉลองตอนเย็นต่ออีกทีนึงค่ะ ด้วยความที่งานเช้าเป็นงานผู้ใหญ่ล้วน ประมาณ 100 ท่าน แล้วแต่ละคนก็ให้ซองใหญ่มาก (หัวเราะ) เราเลยตั้งใจจัดโต๊ะจีนเพื่อเป็นการขอบคุณ ส่วนตอนเย็นก็จัดเลี้ยงค็อกเทล โดยเชิญแขกมาทั้งหมด 1000 คน และเลือกสถานที่แต่งงานที่โรงแรม Plaza Athénée Bangkok (พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ)
ใส่ตัวตนและความเชี่ยวชาญลงไปเต็มที่
ตัวหมิวเองเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์และออแกไนเซอร์มา 6 ปีแล้ว ดังนั้นเลยอยากใช้ประโยชน์จากอาชีพที่ตัวเองทำ มาประยุกต์ใช้ในงานแต่งครั้งนี้ให้ดีที่สุด
สิ่งแรกที่เราคิดเลยคืออยากให้งานออกมาดี ดูว้าว เราเลยพยายามใส่ตัวตนลงไปให้มากที่สุด อย่างของหมิว คุณเจ้าบ่าวหลงใหลในกลไกของนาฬิกามาก เรียกได้ว่าเป็น Watch Collector ตัวยง นอกจากนี้เราสองคนยังมีประเด็นที่ชอบคุยกันบ่อยๆ คือเรื่องเวลา ประมาณว่า ‘อันนี้เวลาของชั้น อันนี้เวลาของเธอ’ คีย์ของเราเลยน่าจะเป็น Timeless เหนือกาลเวลาขึ้นไป
รักที่ค่อยๆ เดินไปทีละก้าว
สำหรับการตกแต่ง เราดีไซน์ทางเดินเข้าให้เป็นอุโมงค์ที่มีฟันเฟืองชิ้นเล็กๆ ประดับอยู่ ลักษณะเหมือนจะลอยไปรวมตัวกันตรงแบ็คดรอป ตรงนี้เราซ่อนเซ็นเซอร์เอาไว้ เวลามีคนเดินผ่านก็จะมีเสียงนกร้อง
พอถึงตรงแบ็คดรอปถ่ายรูป แขกก็จะได้ยินเสียงนาฬิกาเดินจริงๆ ด้วย เพราะเราติดมอเตอร์ไว้ด้านหลัง ทำให้ฟันเฟืองหมุนช้าและเร็วสลับกัน ดูสมจริงยิ่งกว่าเดิม
สำหรับเรื่องโทนสี หมิวคิดว่าสีชมพูเป็นสีที่ทำให้แตกต่างได้ยาก เพราะเป็นสีที่ดูธรรมดามาก แต่ด้วยแนวคิดนี้เอง หมิวอยากโชว์ว่า ที่จริงแล้วเมื่อแม็ตช์กับสีทอง สีนี้จะดูโดดเด่นได้จากดีไซน์ของเรา
ของชำร่วยในงานเราใช้เป็นนาฬิกากระดาษตั้งโต๊ะ เพราะคุณเจ้าบ่าวทำงานอยู่ที่บริษัท KMP ที่ทำเกี่ยวกับแพ็คเกจจิ้งกระดาษ เขาลงรายละเอียดเต็มที่มาก ว่าเข็มจะเป็นสีไหน ตัวเรือนสีอะไร แล้วเราก็ทำปั๊มนูนทองแดง ตัวกล่องก็เป็นกล่องนาฬิกาจริงๆ แต่ใช้เป็นลายไม้ปั๊มโลโก้ลงไป
ส่วนการจัดงานด้านใน บนเวทีเราเซ็ตให้มีนาฬิกาอันใหญ่อยู่ เราอยากชูโรงว่างานแต่งที่จริงแล้วมันสวยได้ โดยไม่ต้องเป็นดอกไม้สดล้วน ภายในงานเราเลยใช้ดอกไม้ปลอมผสมกับดอกไม้สดแค่ 10% แล้วทำให้ออกมาดูสวยงาม
ปิดท้ายด้วยพิธีเททรายสุดเก๋
ไฮไลท์อีกจุดในงานของเราคือซุ้มดอกไม้ ฟังก์ชั่นของซุ้มนี้จะไม่ได้มีไว้ตัดเค้ก แต่มีไว้ทำพิธีเททราย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าโครงสร้างมันเหมือนกับนาฬิกาทรายเลย ความหมายของมันคือช่วงเวลาเริ่มต้น จากที่เราเคยถกกันว่า ‘นี่เวลาของชั้น นี่เวลาของเธอ’ ต่อจากนี้ก็จะมีแต่เวลาของเรา เวลาที่เราจะนับหนึ่งไปด้วยกัน
ตบท้ายด้วยเซอร์ไพรส์ตอนเททราย ที่หมิวทำให้คุณเจ้าบ่าวอีกนิด ด้วยการเตรียมป้าไก่ The Voice มาร้องเพลงให้ ซึ่งป้าไก่เป็นคนที่คุณเจ้าบ่าวปลื้มมากกก แต่ที่ตลกคือ ตอนนั้นเราต้องเดินเอาเค้กไปให้ผู้ใหญ่ แต่จังหวะนั้นป้าไก่ต้องไปต่อ เจ้าบ่าวถึงกับร้องเลยว่าจะไปแล้วเหรอ ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลยนะ (หัวเราะ) ซึ่งสรุปว่าเขาก็มีคิวต่อจริงๆ ค่ะ เลยอดถ่ายรูปด้วย แต่ก็ฟินแล้วแหละเนอะ มีโมเม้นท์แบบนี้มาร่วมในงานด้วย
แนะนำบ่าวสาว
แพลนเนอร์ช่วยลดงานไปได้เยอะ : ขนาดหมิวเตรียมงานแต่งงานตัวเองยังเหนื่อยมากๆ เลยค่ะ ปกติเวลาเป็นแพลนเนอร์ให้คนอื่น มันไม่ได้สวมบทเจ้าสาว มันก็เหนื่อยแค่ส่วนเดียวนะ แต่พอเป็นเจ้าสาว เหมือนคอมโบเลย ต้องเตรียมงานทุกอย่าง วันงานก็ต้องตื่นเช้า ทำนู่นทำนี่ ถ้ามีคนช่วยจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลคงจะดีมาก ไม่ต้องจ้างหมิวก็ได้ค่ะ คือจ้างใครก็ได้แต่จ้างเถอะ (หัวเราะ) มันจะได้อยู่ในมู้ดที่ถูกต้องของเจ้าสาวในวันนั้นจริงๆ คือมีความสุขอย่างสวยๆ ไปเลย
อะไรไม่เป๊ะก็อย่าไปซีเรียส : ปล่อยผ่านไปบ้าง สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้ในวันนั้น คือยินดีกับแขกทุกคนที่มาร่วมงานของเราจริงๆ มองเห็นความหมายของคนที่รักและผูกพันกับเรา เพราะนี่คือคีย์สำคัญของงานค่ะ