เตรียมงานเองง่าย ได้ตรงใจกว่า
กิ่งมีเวลาเตรียมตัวก่อนวันงานทั้งหมดประมาณ 6 เดือนค่ะ ตอนนั้นตัดสินใจคุยกับเพื่อนที่แต่งงานมาก่อน (สารภาพว่าไปงานแต่งมาแล้วหลายคู่ แต่ประทับใจจริงๆ อยู่แค่คู่เดียว (หัวเราะ)) ได้ความว่าเพื่อนแต่งที่ Siam Kempinski Hotel Bangkok (สยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ) โดยที่ไม่ได้ใช้แพลนเนอร์ เราเลยคิดว่าหรือจริงๆ งานดี ไม่ต้องมีแพลนเนอร์ก็ได้นะ? ปรึกษาไปปรึกษามา เพื่อนอีกคนก็แนะให้เข้าไปดูในเว็บ Sabuywedding เลย สุดท้ายเลยเป็นที่มาของการจัดงานเอง
ด้วยความที่เจ้าบ่าวของเราเป็นคนคริสต์ เราก็คิดแล้วล่ะว่าต้องจัดที่โบสถ์ ก็เลยเข้าไปดูข้อมูลเรื่องชุดเจ้าสาวในเว็บ Sabuywedding ซึ่งก็มีหลายแบบ หลายเวนเดอร์มาก สุดท้ายเลือกได้ของ Geegee bridal จัดที่ โบสถ์อัสสัมชัญ (Assumption Cathedral (จองคิวล่วงหน้านานมากจริงอะไรจริง เพราะสถานที่สวยและคิวยาว) แล้วก็บิ้วด์ทุกคนด้วยการส่งรูปไปให้ดู ว่าสถานที่สวยนะเธออออ จากที่กลัวคนจะมาน้อย วันจริงเลยหายกังวล เพราะทุกคนมาเยอะเกินคาดมากจริงๆ (หัวเราะ)
งานนี้นอกจากตัวพิธีที่สวยงามตามท้องเรื่องแล้ว เรายังมีเพื่อนเจ้าสาว และเพื่อนแม่เจ้าสาวมากันในชุดสีชมพูแบบพร้อมเพรียงมาก มีช็อตลอยลูกโป่ง 24 ใบ โดยเอาโดรนมาถ่ายเก็บไว้เป็นวิดีโอ
ในส่วนของการตกแต่งด้านใน เราเน้นสไตล์มินิมอล พวกการ์ดก็ดูเรฟแล้วแคปไปให้เพื่อนช่วยดีไซน์ให้ เลือกซื้อฟ้อนต์เมืองนอกที่ชอบมา ใช้ชื่อจริง แล้วคุมโทนตามนี้เลย ตั้งแต่โลโก้ การ์ด ไปจนถึงแฮชแท็ก ได้ออกมาเป็น #jenjitxkittivit ไม่ต้องลงท้ายเวดดิ้งๆ ให้ซ้ำใคร
Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit สถานที่แต่งงาน จัดเซ็ตติ้งสบาย ใช้แต่ละมุมได้เป็นประโยชน์
จบจากงานโบสถ์เราก็มาต่อกันที่งานหมั้นจีนในชุดไทย เรื่องของเรื่องคือเพื่อนกิ่งบิ้วด์ว่าอยากจะใส่ชุดไทยกัน แล้วตัวเจ้าสาวเองก็คงจะได้ใส่แค่วันนี้วันเดียวด้วย ก็เลยโอเคตามใจ เลือกใส่สีทองกับแดง ส่วนเพื่อนเจ้าสาวเป็นโทนขาวเทา
และเนื่องจากเราจัดงานหมั้นกับงานเลี้ยงฉลองวันเดียวกันที่ Bangkok Marriott Sukhumvit (บางกอก แมรีออท โฮเต็ล สุขุมวิท) ดังนั้นเราเลยมีการเตรียมความพร้อมด้วยการลง IG เตือนแขก นับเคาท์ดาวน์ถอยหลัง 3 วัน เรียกความตื่นเต้นและเตือนความจำกันไปในตัว บอกเลยว่างานนี้คิดมาแล้วจริงๆ (ฮา~)
เซ็ตติ้งทั้งหมด เราดูจากภาพรวมสถานที่ที่โอเคมากอยู่แล้ว เลยแต่งแค่โลโก้กับดอกไม้ขาวเขียวเข้าไป เพื่อให้ดูมีมิติขึ้นมา ทำพิธีกันเสร็จก็มีบุฟเฟ่ต์กลางวัน เลี้ยงแขก 80 คน แล้วก็เตรียมตัวสำหรับงานเย็น
ใช้สีขาวเขียวหลายๆ เฉด
ในส่วนของงานฉลอง เราคุมธีมสีขาวเขียวแบบ Biotonical แต่ใช้สีเขียวหลายเฉดหน่อยเพื่อให้ไม่จำเจ ตั้งแต่เขียวเข้มไปจนถึงเขียวอ่อนเลย แล้วก็ลองใส่ดีเทลที่เล่นสนุกกับสีขาวได้ แม้ไม่ใช่ดอกไม้ลงไป พอบวกกับพร็อพสนุกๆ จากการที่เราจ้าง Insta.Printa เข้ามาในงาน ก็จะมีพวกป้ายเล็กๆ แซวๆ อารมณ์ Team Bride, 30 ยังแจ๋ว กับมุมถ่ายรูปสามช็อตมาให้ได้เล่นกัน (ส่วนลูกโป่งกลิตเตอร์ที่เห็นมาจากการขอชดเชยที่ร้านค้าส่งมาให้ในวันโบสถ์ช้า เป็นเจ้าสาวต้องรู้จักแก้เกมส์นะ!)
เรื่องธีมชุดเราก็ขอบิ้วด์แขกเอาไว้นิดนึงก่อน อย่างของเราเป็นสีเทา บนการ์ดแต่งงานก็จะมีแถบสีเทาให้เห็นเลย จะได้เลือกง่ายๆ ไม่ต้องสับสนกันไป แต่งดีเทลซองการ์ดด้วยครั่งเก๋ๆ ตามสไตล์ ลงทุนหน่อยแต่ได้อะไรที่ดี
เวลาแขกมาถึงงาน เขาก็จะเริ่มจากการเข้ามุม Reception รับเทียนซึ่งเป็นของชำร่วยกันก่อน (มีสองกลิ่นคือวนิลากับลาเวนเดอร์) ส่วนแพ็คเกจจิ้งเราก็เลือกเจ้าที่ทำกล่องเป็นชื่อเราได้ ไม่ใช่แค่ Tag ปกติ เสร็จสรรพจากมุมนั้นก็ย้ายมาถ่ายรูป แล้วก็เดินผ่านอุโมงค์เข้าไปด้านใน
เทรนดี้ด้วยการตกแต่งแนว Polygon
ส่วนหนึ่งของงานที่กิ่งรู้สึกว่าเก๋มากคือเวที เราทำเป็นคอนเซ็ปต์ Polygon สร้างเหลี่ยมนูน 3D ออกมา ทำให้ฉากสีขาวดูไม่เรียบเกินไป พวก Sequence ต่างๆ ก็ทำกันเอง ดูจากของเพื่อนแล้วเอามาปรับเปลี่ยนเอา ส่วนเพื่อนเจ้าสาวก็แบ่งงานกันทำ มีทั้งดูหน้างาน พาแขก VIP ไปนั่งโต๊ะ ประสานงานกับโรงแรม ดีงามๆ
อาหารเราจัดเป็นค็อกเทล โดยเพิ่มซุ้มเข้าไปด้วย (คุณแม่บอกว่างานแต่งเรื่องอาหารการกินสำคัญมาก) มีตั้งแต่เกี๊ยวหมูแดง พาสต้า ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด ซูชิ ไปจนถึงไอศกรีม Haagen-Dazs เลย
ปาร์ตี้มันส์ๆ เริ่มกันไวๆ
พิธีการเราไม่มีอะไรมาก คิดแค่ว่าทำยังไงก็ได้ให้จบเร็วที่สุด แล้วเริ่มอาฟเตอร์ปาร์ตี้ไวๆ ค่ะ (หัวเราะ) ดังนั้นเลยขอรวบรัดจบในชั่วโมงเดียว อย่างเรื่องพิธีกรนี่จริงๆ กิ่งก็ไปอ่านล่วงหน้ามา ว่าต้องใช้มืออาชีพหรือเพื่อนที่มีประสบการณ์ ส่วนประธานเราก็กลัวคนจะเบื่อ เลยขอเป็นประธานวัยรุ่นหน่อย เชิญพี่เอ วราวุธ CEO zense entertainment (พิธีกรรายการ step right up, money drop) มากล่าว หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงปาร์ตี้มันส์ๆ
ที่กิ่งรู้สึกแฮปปี้มากคือถึงจะอยู่ดึก แต่แขกก็ยังไม่กลับ ยังอยู่กันเป็นร้อย พวกเรื่องเปลี่ยนชุดก่อนเข้าช่วงก็ต้องให้ไวด้วย เจ้าสาวบางคนเปลี่ยนชุดเป็นชั่วโมง นานเกิน แขกกลับพอดี อะไรประหยัดเวลาได้ต้องเร็ว! แล้วก็เน้นวงดนตรีที่เล่นโดนๆ อย่างของกิ่งเป็น Teddy Ska Band มันส์ขนาดคุณแม่ก็ขึ้นไปเต้นด้วยเลย น้องถึงกับแซวว่าเต้นกันจนเอวบิดจริงๆ จบงานแล้วเห็นทุกคนสนุกอยู่กันพร้อมหน้า เจ้าสาวอย่างเราก็หายเหนื่อยแล้วค่า มีความฟิน~
แนะนำบ่าวสาว
bridesmaid ดีชีวิตดี : ช่วยแบ่งเบางานเราไปได้เยอะ อย่างวันจริงจัดระเบียบหน้าที่กันได้ตั้งแต่ต้อนรับแขก ดูแลแขกวีไอพี ไปจนถึงประสานงานกับโรงแรม แต่ให้ชัวร์นะว่าที่เลือกมานี่สนิทกันจริงๆ เพราะบางทีลากกันมาช่วยจนเหนื่อย ทะเลาะจนเลิกคบไปเลยก็มีนะเออ
จัดงานเองได้ ไม่ยากอย่างที่คิด : ขนาดกิ่งสามงานยังจัดเองได้เลยค่ะ อ่านทุกอย่างดีๆ เตรียมความพร้อมเยอะๆ อย่างงานหมั้น กิ่งอ่านจนรู้เลยว่าเราห้ามงกเรื่องนายพิธีนะ (หัวเราะ) เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้งานลื่นไหลและเพิ่มความสนุกให้กับงานได้จริงๆ แถมเขาจะช่วยใส่ดีเทลความสำคัญของพิธีการแต่ละช่วง แขกผู้ใหญ่ก็จะได้แฮปปี้ แล้วเวลาอ่านตามเว็บแล้วชอบอะไร แคปเก็บไว้ส่งให้เวนเดอร์เลย ทุกอย่างจะง่ายขึ้นจริงๆ
ติดต่อเวนเดอร์เอง ต้องเช็คดีๆ ด้วย : เจ้าไหนโอนก่อนโอนหลัง โกงไม่โกง อะไรยังไง ดูที่มาของเขาให้ชัดเจน อย่างเวนเดอร์บางเจ้า ถ้ามาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือจริง จากเว็บที่คัดมาแล้ว อย่างที่กิ่งชอบไปส่องใน Sabuywedding แบบนี้ก็ชัวร์ได้ว่าเขาไม่โกงเราแน่ๆ ที่สำคัญคือต้องเข้าไปอ่านรีวิวเยอะๆ ดูภาพผลงาน ลองโทรไปคุยดู แล้วถ้าเจ้าไหนให้โอนก่อนเราก็ต้องดูจำนวนเงินด้วย โอนครึ่งนึงได้ แล้วให้เขาทำ Quotation เสนอราคากลับมา เช็คอย่างรอบคอบจริงๆ อย่าตามกระแสอย่างเดียว
ของถูกและดียังมีอยู่นะ : เพราะเวนเดอร์วงการนี้มันมีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นหลักแสนเลยค่ะ บางอย่างเราแค่หาที่เหมาะกับเรา แค่นั้นก็ถือว่าโอเค ไม่ใช่ว่าแพงแล้วจะดีเสมอไป แล้วก็ไม่ใช่ว่าราคาถูกแล้วจะไม่ดี แค่ตอบให้ได้ก่อนว่าตัวเองชอบแบบไหนก็พอ
ทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องปกติ : ผู้หญิงจะเอาแบบนึง ผู้ชายจะเอาอีกแบบนึง มันเป็นเรื่องปกติค่ะ ผู้หญิงอาจจะน้อยใจว่าผู้ชายไม่ช่วย แต่ผู้ชายก็มักจะคิดว่าที่ผู้หญิงเลือกนี่แหละดีแล้ว เพราะเขาไม่ค่อยเป็นงาน จะให้ดีคือแบ่งพาร์ทเลย ใครดูแลส่วนไหนบ้าง จะได้รู้สึกเหมือนช่วยๆ กัน ค่อยๆ คุย ค่อยๆ แพลนงาน เคลียร์เรื่องบัดเจทให้ลงตัว
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
Zpell Photography Studioสถานที่แต่งงาน:
Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit