รีวิวงานแต่งงานเก๋ไก๋ ปาร์ตี้สุดมันส์ได้แม้จัดเลี้ยงเที่ยง @W Bangkok

W Bangkok Hotel สถานที่จัดงานแต่งงานถูกใจ จัดแบบไทยๆ ก็ได้
          งานเรามีแขกเป็นคนต่างชาติด้วย เลยอยากได้สถานที่จัดงานหมั้นตอนเช้าที่สะท้อนความเป็นไทย มีกลิ่นอายความโบราณและสวยเพื่อให้แขกประทับใจ ซึ่งที่ W Bangkok Hotel (ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ) ก็มีขนาดห้องเหมาะกับแขกช่วงงานเลี้ยง 300 คนของเรา และมีส่วน The House on Sathorn (เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร) ที่เป็นสไตล์ไทยๆ บรรยากาศร่มรื่นให้บริการ จึงตัดสินใจเลือกที่นี่ค่ะ

บอกตัวตนบ่าวสาวด้วยของและการตกแต่งงาน
          การตกแต่งจะเน้นความเป็นตัวของตัวเอง เน้นที่อยากได้ เมื่อแขกมาถึงจะเห็นโต๊ะลงทะเบียนแบบเรียบๆ ตามสไตล์ของเรา ของชำร่วยเป็นซองใส่พาสปอร์ตเพราะเราชอบเที่ยว โดยใส่บัตร Thank you Card ที่ทำเป็นบอร์ดดิ้งพาสมีรูปและคำขอบคุณของเราเสียบไว้ในซองใส่พาสปอร์ตด้วย
          เดินต่อมาจะเห็นซุ้มแกลอรี่เล็กๆ เป็นภาพถ่าย portrait ในสตูดิโอสบายๆ ถัดมาเป็น Backdrop เจ้าบ่าวมีอีกอาชีพเป็นช่างภาพก็จะจัดเหมือน Backdrop ถ่ายรูปในสตูดิโอ เป็นแบบง่ายๆ พื้นสีขาว  มีชื่อบ่าวสาว มีเก้าอี้เป็นพร็อพ ตรงนี้เราเปิดสไลด์โชว์เป็นรูปที่เราไปเที่ยวที่ต่างๆ ด้วยกัน มันก็สะท้อนตัวตนอีกว่า เจ้าบ่าวเป็นตากล้อง ชอบถ่ายรูป และเราชอบไปเที่ยวด้วยกัน
         

          หลังจากนั้นเป็นประตูเข้างาน เข้าไปจะเจอแชนเดอเลียอันใหญ่ตกแต่งด้วยผีเสื้อและดอกไม้สีขาวห้อยลงมาจากเพดาน เราจัดเวทีไว้ตรงกลาง เพราะอยากให้แขกได้ใกล้ชิดกับพวกเรา และมีแคทวอล์คสั้นๆ เชื่อมไปถึงส่วนด้านหลังที่เป็นวงดนตรี มีคนร้อง มีกีต้าร์ ก็สะท้อนอีกว่าเจ้าบ่าวชอบเล่นและฟังเพลงกีต้าร์ ด้านหน้าเวทีมีแดนซ์ฟลอร์ ซ้ายขวาจะเป็นโต๊ะยาววีไอพีให้ญาติผู้ใหญ่นั่ง ปูโต๊ะด้วยผ้าสีดำ แล้วประดับดอกไม้ เพิ่มความโมเดิร์น มีความเรียบแต่เก๋

พิธีหมั้นเรียบง่าย เน้นสะดวกและความทรงจำ
          เราไม่อยากได้งานที่เป็นพิธีการจ๋า เลยตั้งคอนเซ็ปต์ไว้ว่าเป็นงานสบายๆ เรียบๆ พิธีการของเราก็เป็นฤกษ์สะดวกทั้งหมด ตอนเช้าเป็นงานหมั้น พิธีการไม่ได้เยอะมากนักแต่ยังคงให้มีความเป็นไทย ซึ่งฝั่งเจ้าสาวจะเป็นจีนหน่อยจึงมียกน้ำชา ส่วนเจ้าบ่าวจะเป็นพิธีไทยรับไหว้ แล้วต่อด้วยรดน้ำสังข์ โดยเราย้ายช่วงนี้มาจัด Outdoor  ตรงส่วนกลางของ The house on sathorn เพราะวันนั้นฝนไม่ตก และบรรยากาศดี เสร็จพิธีแล้วก็เป็นการถ่ายรูปรวมแขกงานเช้าหน้าโรงแรม

เลี้ยงเที่ยงสมัยใหม่ มีญาติผู้ใหญ่ก็ปาร์ตี้ได้   
          งานเลี้ยงฉลองตอนเที่ยงเราจัดที่ห้อง Great room ของ W Bangkok Hotel ช่วงพิธีการจะง่ายๆ เชิญประธานแค่คนเดียวแล้วก็คล้องพวงมาลัย  ที่เซอร์ไพรส์เลยคือประธานใช้วิธีให้ทุกคนตั้งจิตอธิษฐานแทนการยกแก้วแชมเปญอวยพรเรา เสร็จแล้วก็ให้เพื่อนบ่าวสาวพูดถึงเรา ต่อด้วยตัดเค้ก แล้วก็โยนดอกไม้

          เราไม่อยากให้พิธีการยาวนัก อยากให้เป็นงานที่เป็นกันเอง ให้ทุกคนมาสนุกด้วยกัน เลยรวบรัดจบช่วงพิธีการ แล้วจัดปาร์ตี้ไปเลย  ถึงจะเป็นงานกลางวันที่ปกติจะเป็นการเลี้ยงข้าว  แต่เราคิดว่าเป็นเรื่องท้าทายที่จะจัดเหมือนปาร์ตี้ตอนกลางคืน จึงพยายามบิ้วอารมณ์แขก เริ่มตั้งแต่ช่วงพิธีการที่มีการเปิดพรีเซนเทชั่นดึง Mood and Tone ของแขกให้เขารู้สึกอินไปกับงานและเรื่องราวของเรา ตอนจบช่วงพิธีการก็มีการโชว์เต้นเซอร์ไพรส์แขกในงานด้วย ตอนแรกช่วงรอบ่าวสาวเปลี่ยนชุด เราให้เพื่อนบ่าวสาวมาเต้นดึงอารมณ์แขกก่อน เสร็จแล้วก็เป็นการเต้นเปิดฟลอร์ของบ่าวสาว จากนั้นเราก็เปิดแชมเปญแล้วเริ่มปาร์ตี้เลย

          งานปาร์ตี้ของเราไม่ได้แยกเด็กแยกผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่ก็โอเคกับงานนะ เขาบอกเราเหมือนกันว่าเบื่อกับงานพิธีการแบบเดิมๆ  จะจัดปาร์ตี้เลยก็ได้ เพราะเรามีพิธีการเช้าให้แล้ว  ซึ่งงานที่ออกมาทุกคนก็แฮปปี้กับสิ่งที่เราจัด คุณพ่อก็มาเต้นด้วย ผู้ใหญ่ในงานก็เอ็นจอย ซึ่งช่วงเวลาความทรงจำดีๆ เหล่านี้ เรารู้สึกดีที่ Smallmoonphoto เก็บภาพไว้ได้หมด เขามืออาชีพมาก เก็บภาพเหตุการณ์สำคัญๆ ได้ดี

          วันงานเราประทับใจบรรยากาศในงานที่รับรู้ได้ว่าทุกคนรวมเป็นความรู้สึกเดียวกันกับเรา รู้สึกได้ว่าเราสามารถส่งผ่านความรู้สึกให้แขกรับรู้ได้เช่นกัน และก็ประทับใจทีม Smallmoonphoto เขามีความเป็นมืออาชีพสูง มีความครีเอทีฟ มุมมองสร้างสรรค์แปลกตา เราให้มาเก็บภาพแคนดิดสเป็นหลัก ซึ่งเขาก็เก็บภาพสำคัญๆ ได้หมด รวมทั้งรู้วิธีการบิ้วอารมณ์บ่าวสาว ภาพออกมาสวย มีความเท่ตามสไตล์เขาเลย ตอนได้เห็นภาพที่ออกมาเราพอใจมาก 

แนะนำบ่าวสาว   
         อย่าคิดเยอะ : เลือกที่ชอบ แล้วตัดสินใจทำเลย อย่าโลเล เพราะถ้ายิ่งโลเลเปลี่ยนไปมา มันจะไม่จบ แล้วมันก็จะกระทบไปถึงคนที่ทำงานให้เราด้วย
         วันงานปล่อยเลยตามเลย : เราเตรียมตัวให้ดีที่สุดก่อนวันงาน วันงานอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ไม่ว่าจะมีข้อผิดพลาดอะไร ปล่อยวางแล้วเอ็นจอยกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น อย่าไปคิดเยอะ เพราะความรู้สึกของเจ้าของงานสามารถส่งไปถึงคนอื่นได้