รีวิวงานแต่งสี Red Wine ใต้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง @AVANI Atrium Bangkok

เตรียมงานสบาย ใช้สถานที่แต่งงานคุณภาพ @AVANIAtrium Bangkok
          เริ่มแรกเชงเลือกสถานที่แต่งงาน เป็นโรงแรม AVANI Atrium Bangkok (อวานี เอเทรียม กรุงเทพ) ค่ะ เพราะโลเคชั่นเดินทางสะดวก อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านบ่าวสาวพอดี มาจากแถบถนนจันทน์ ฝั่งศูนย์สิริกิติ์บ้านเจ้าบ่าวก็ได้ หรือมาจากฝั่งพัฒนาการบ้านเจ้าสาว ก็เหมือนมาเจอกันครึ่งทาง ตอนไปสอบถามแพ็กเกจราคา ทุกฝ่ายก็แฮปปี้เลย เหมาะสมกำลังดี ที่จอดรถก็จอดได้ง่าย มีเพียงพอกับแขกค่ะ 

          ช่วงระหว่างที่เตรียมงาน คุณไหม เซลล์โรงแรมที่ช่วยดูแลเราก็ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีเลยค่ะ เนื่องจากเชงไม่ได้จ้างออแกไนซ์ คำถามที่เราสงสัยหลายอย่าง เขาก็ช่วยตอบ ช่วยหาไอเดียใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมาเสนอ เพิ่มช้อยส์ เพิ่มทางเลือกให้เรา พยายามให้งานแต่งของเราออกมาสมบูรณ์จริงๆ ดูรู้เลยว่าเขาใส่ใจ คือไม่ได้จัดตามบล็อกของเขาอย่างเดียว ถ้าเรายังไม่ชอบ เขาก็ไปหาแนวใหม่ๆ มาให้ ในแบบที่ขอบเขตและกำลังของเขาสามารถทำได้เหมือนกันค่ะ

หมั้นฉลองในห้องเดียวกัน
          การจัดงานทั้งเช้าและเย็น เชงใช้ห้องบอลรูมทั้งหมด ถูกใจตรงที่เพดานห้องสูง ช่วยให้ดูโปร่ง ไม่อึดอัด ทำให้ห้องดูกว้างและใหญ่ขึ้น แขกช่วงเช้าในพิธีหมั้นจีนของเราประมาณ 30 ท่าน ก็กั้นห้องให้สัดส่วนพอเหมาะกับแขก จัดพิธีแบบเรียบง่าย ไม่เคร่งฤกษ์ ยึดเฉพาะแค่ฤกษ์สวมแหวนอย่างเดียวค่ะ

          สำหรับงานฉลอง แขกของเชง 270 คน ส่วนนึงจะออกมานั่งด้านนอก แล้วฉายภาพบรรยากาศงานให้ดู อาหารช่วงนี้เราจัดเป็นโต๊ะจีน ซึ่งแขกชมเยอะมาก เพื่อนๆ ญาติๆ ทุกคนบอกว่าอาหารที่นี่อร่อย ขนาดพี่สาวเชงที่เนี๊ยบมาก ยังบอกว่าที่นี่เวิร์คเลยค่ะ (หัวเราะ)

ธีมสีสดใส ได้ใจเพื่อนเจ้าสาว
          เรื่องธีมสีในงาน เชงเริ่มจากวิธีคิดง่ายๆ คือถามเพื่อนเจ้าสาวก่อน ว่าอยากใส่ชุดสีอะไรค่ะ (หัวเราะ) คือช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เพื่อนๆ เราแต่งงานกันเยอะมาก ดังนั้นเฉดสีส่วนใหญ่เลยถูกใช้ไปหมด และทีนี้ด้วยความที่เราดูจีนที่สุดในกลุ่ม เพื่อนๆ เลยลงมติให้เป็นสีแดงดีกว่า ตอนแรกเลยเป็นธีมสีขาวแดงค่ะ
          แต่เนื่องจากวันที่เราจัดงาน เป็นวันใกล้พระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เชงเลยตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นธีมขาวเขียว แล้วแซมสีแดงเข้ม ลดสีสันลง ให้ภาพรวมงานดูไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

ของชำร่วยสื่อคาแรกเตอร์
           การตกแต่งของเราจะเริ่มตั้งแต่ช่วงบันได ทางโรงแรมจะโปรยกลีบดอกไม้ และจุดเทียนเสริมบรรยากาศไว้ให้ เมื่อเดินมาถึงชั้นบนแล้วจะเจอกับโต๊ะลงทะเบียนทางขวามือ
          ของชำร่วยของเชงเป็นแก้ว วัสดุเป็นพลาสติกใสๆ เวลาเทน้ำลงไปจะมีไฟขึ้น กะพริบๆ เป็นสีๆ สื่อถึงเจ้าบ่าวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหลอดไฟ LED ให้ดูมีความเชื่อมโยงถึงกัน ส่วนซ้ายมือ ถัดมาหน่อยจะเป็นซุ้มถ่ายรูปขนาดเล็ก มีกรอบรูปตั้งไว้ มีเก้าอี้นั่ง รวมถึง พร็อพจากทางโรงแรมเป็นตุ๊กตาหมี ประดับด้วยแท่นเทียน โคมไฟ ลูกปัด จากจุดนี้ถ้าเดินตรงไปอีกสเต็ป ก็จะเป็นกำแพงกั้นนิดๆ เป็น Backdrop ค่ะ อีกฝั่งจะเป็นซุ้มถ่ายรูปขนาดใหญ่ ที่มีดอกไม้ตกแต่ง มีพรมวาง แล้วเป็นห้องจัดเลี้ยง การตกแต่งทั้งหมดโรงแรมเป็นคนจัดเตรียมให้ โดยมีเราช่วยออกไอเดียด้วย เขาช่วยดูสไตล์เทียบเคียงที่ใกล้กับแบบที่เราอยากได้ โดยที่ยังอยู่ในบัดเจทค่ะ

รันคิวได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
          เรื่องพิธีการเราโชคดีมาก ช่วงงานฉลอง เซลล์แนะนำพี่ท่านนึงมาให้ เป็นทีมงานในโรงแรมที่มีความรู้เรื่องพิธีการ เขาช่วยดูแลลำดับงาน กำกับให้เราอย่างละเอียด ช่วยให้วันงานราบรื่นดีมากๆ โฟลว์จะเริ่มจากพอถ่ายรูปเสร็จแล้ว พิธีกรจะกล่าวแนะนำ มีการเปิดพรีเซนเทชั่น เพื่อนๆ โปรยดอกไม้ให้ แล้วบ่าวสาวก็เปิดตัว
          พอเราขึ้นเวที พิธีกรก็จะกล่าวเชิญประธานมาให้คำอวยพร บ่าวสาวไปตัดเค้ก มอบเค้กให้ผู้ใหญ่ โยนดอกไม้ สัมภาษณ์เพื่อนที่รับได้ แล้วก็ให้เขากล่าวอวยพรค่ะ

          งานนี้ที่ประทับใจมากๆ คือแขกส่วนใหญ่ของเรามาเกือบหมด จากที่เคยได้ยินว่าเวลาเชิญแขกต้องบวกลบไว้กี่คน งานนี้พอเชิญด้วยความตั้งใจจริงๆ ไม่ได้แจกการ์ดแบบหว่านเลย แขกเลยมากันเยอะ และมีแต่คนสนิทจริงๆ อีกอย่างคือภายในงานไม่มีอะไรติดขัด ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาช่วยกันเยอะมาก รวมไปถึงทีมงานของโรงแรม ที่ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

แนะนำบ่าวสาว
จ่ายในกำลังที่เราจ่ายไหว และได้งานแบบที่เป็นตัวเราจริงๆ : ของคู่เชง เราคุยกันแต่แรกเลยค่ะว่าจะไม่คิดมาก กลัวเงินไม่พอ หรือกลัวคนใส่ซองน้อย เพราะถ้าว่ากันตามตรงคือเราก็จัดงานแบบคุมงบ แต่งานแต่งคืองานที่เราต้องจ่าย เพราะเราจัด แต่อยู่ที่ว่าจะจ่ายมากจ่ายน้อย จ่ายในบัดเจทที่เหมาะสมขนาดไหนเท่านั้น อะไรที่เราอยากทำจริงๆ ถ้าไหว ก็ทำไปเลย แต่ทำในแบบที่ไม่เกินกำลังก็พอค่ะ