รีวิวงานแต่งหรูสุดใจ แต่ทันสมัยวัยรุ่น @Siam Kempinski Bangkok

Siam Kempinski Bangkokสถานที่แต่งงานมีสไตล์ ดีไซน์ไม่จำเจ
          น้ำหวานเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานที่โรงแรม Siam Kempinski Bangkok (สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ) เพราะตัวโรงแรมดูใหม่ เข้ากับมู้ดแอนด์โทนของเราที่อยากให้งานออกมาดูทันสมัย วัยรุ่นค่ะ
          นอกจากจะรองรับแขกกว่า 700 คนของเราได้แล้ว องค์ประกอบของห้องอีกอย่างที่น้ำหวานชอบมากคือเพดานสูง ทำให้ห้องดูโปร่ง เวลาจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็สามารถแบ่งห้องลงมาได้ โดยยังอยู่ในพื้นที่ที่เราดีไซน์อยู่ค่ะ

          ธีมสีน้ำหวานเลือกเป็นสีน้ำเงินขาว ซึ่งเป็นสีที่บ่าวสาวชอบ ตลอดงานจะประดับด้วยคริสตัล อิงมาจากการที่น้ำหวานทำธุรกิจเกี่ยวกับจิลเวรี่ งานนี้เรามีเวลาเตรียมงานกันในระยะเวลากระชั้นชิดมาก แค่ 20 วันเท่านั้น ทั้งที่ได้ฤกษ์มาครึ่งปีแล้ว แต่ด้วยความที่ยังชิลล์กันอยู่ ดังนั้นเลยต้องขอบคุณทีมแพลนเนอร์มากๆ ที่ประสานงานทุกอย่างอย่างดีเยี่ยมค่ะ

งานแต่งสนุกที่สุดในรอบปี!
          งานนี้แขกทุกคนฟีดแบคกลับมาว่าจัดงานออกมาได้สนุกมากๆ เรียกว่าสนุกที่สุดในรอบปี เริ่มแรกเลยเวลาแขกเดินขึ้นมาก็จะเห็นแกลอรี่ขนาดใหญ่ก่อนค่ะ เราใช้ส่วนนี้ตกแต่งทางเดินประมาณ 8 ภาพ ไซส์ 2.4 เมตร ระหว่างนั้นคั่นด้วยดอกไม้สีขาวแซมขนนก ดูได้อารมณ์หวานๆ แบบที่น้ำหวานชอบ
          ส่วนแบ็คดรอปน้ำหวานรีเควสให้ดูแกรนด์นิดนึง ขอเป็นแบบสูง 4 เมตร สูงที่สุดตั้งแต่ทีมแพลนเนอร์ทำงานมาเลย (หัวเราะ) เวลาถ่ายรูปออกมาจะได้ไม่เห็นผนังด้านหลัง ตัวโครงสร้างจะมีลูกเล่นของสี่เหลี่ยม ทำให้ดูมีมิติ มีนัยยะของความมั่นคง สื่อถึงเจ้าบ่าวที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่ะ

เก๋ไก๋ เพราะทุกอย่างใส่ไอเดีย
          ของชำร่วยเราเลือกใช้เป็นแคนดี้สีขาวน้ำเงินโรยด้วยกากเพชร แล้วสกรีนชื่อบ่าวสาวลงไป ทานได้จริง แขกบางคนก็ปากฟ้ากันกลับบ้านกันเลยค่ะ (หัวเราะ) นอกจากนี้เรายังมีโฟโต้บูธจาก SIXSHEET ให้แขกได้ถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ ด้วย โดยที่เราสามารถทำกรอบ เลือกสีตามธีมงาน และใส่โลโก้ลงไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ดีมากๆ ในงานค่ะ แขกวัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบกันหมด ได้รูปที่ระลึกจากงานเรากลับไป อารมณ์เหมือนมีของเล่นติดไม้ติดมือ ถ่ายได้สี่ชั่วโมงไม่จำกัดภาพค่ะ
          สำหรับด้านในห้อง ตัวเวทีจะเป็นสีขาว มีไฟนีออนสีน้ำเงินดัดเป็นชื่อบ่าวสาว ส่วนนี้เราคิดเผื่อเพราะอยากให้แขกในอาฟเตอร์ปาร์ตี้สนุกกันด้วย การใช้ไฟแบบนี้จะทำให้ตอนที่เราปิดไฟ ยังเห็นชื่อบ่าวสาวได้ชัดเจน ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในผับ EDM จริงๆ ถัดจากนั้นก็จะมีแดนซ์ฟลอร์ยาวประมาณ 3 เมตร ขนาบข้างด้วยโต๊ะ VIP สองฝั่ง ฝั่งละ 25 โต๊ะ บนโต๊ะก็ประดับด้วยเชิงเทียนและดอกไม้ชนิดเดียวกันกับแบ็คดรอป รองรับแขกผู้ใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจเลยค่ะ

สวยเซ็กซี่ แถมงานนี้มีเซอร์ไพรส์
          เรื่องชุดเจ้าสาวน้ำหวานไม่ได้เลือกเอง แต่เป็นคุณเจ้าบ่าวที่เอาเรฟมาจากเมืองนอกให้แล้วสั่งตัด น้ำหวานรู้สึกว่าวันงานเขาอยากเห็นเราสวยที่สุดอยู่แล้ว ก็เลยตามใจเขาเลยค่ะ สไตลิสต์ของร้านก็ตัดมาให้ได้ตรงกับแบบ
          ส่วนชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ อันนี้น้ำหวานตั้งใจเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์ มีสองชุดคือชุดราตรียาว ประดับด้วยคริสตัลเต็มตัว ไว้ใส่ในฉากเต้นรำกับร้องเพลงคู่กับแซ็กโซโฟน และอีกชุดจะเป็นขกนกคริสตัลค่ะ

          เราเริ่มจากฉากเปิดตัวโดยมีคุณเป๊ก ผลิตโชค มาร้องเพลงให้ เจ้าบ่าวเองก็ร้องท่อนฮุคมาด้วยจากบนเวที เสร็จแล้วเขาก็มารอเราที่แดนซ์ฟลอร์ น้ำหวานเดินมาเจอกัน ถัดจากนั้นเจ้าบ่าวก็คุกเข่าสวมแหวน และมีดรายไอซ์ปล่อยออกมาค่ะ
          ตอนเดินขึ้นเวทีจะมีเพื่อนบ่าวสาวมาโปรยดอกไม้ พิธีการทั่วไปตามปกติ แต่ได้รับเกียรติจากท่านเอกอัครราชฑูตประจำกรุงลอนดอน มาเป็นประธานในพิธีให้ หลังจากนั้นเราก็เดินไปจุดเทียนตัดเค้ก เจ้าบ่าวมีเซอร์ไพรส์ด้วยการเดินไปร้องเพลงไป เป็นเพลง A Thousand Years ที่ประกอบหนังเรื่องทไวไลท์ค่ะ

ซึ้ง สุข สนุก ครบรส
          ถัดไปเป็นช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ น้ำหวานไปเปลี่ยนชุดราตรี แล้วจูงมือเจ้าบ่าวเข้ามาเต้นรำในเพลง Thinking Out Loud เวอร์ชั่นแซ็กโซโฟน แต่ทีนี้เจ้าบ่าวไม่รู้ว่าน้ำหวานมีเซอร์ไพรส์ โดยการพาเขาไปนั่งเก้าอี้ แล้วให้แพลนเนอร์ส่งไมค์มาให้ มีเพื่อนถือแซ็กโซโฟนเข้ามาเป่า น้ำหวานร้องเพลง “รักเธอที่สุด​”
          เสร็จแล้วก็เข้าไป Quick Change หลังเวที เปลี่ยนเป็นเพลงของ Pussy cat doll มีแดนเซอร์ 4 คนที่เตรียมไว้ออกไปรับน้ำหวานมาในชุดสั้นขนนก เต้นสวยๆ แนวเซ็กซี่ให้เจ้าบ่าว จบเพลงก็ไปดึงมือเจ้าบ่าวออกมาดึงคอนเฟตติ แต่น้ำหวานดึงไม่ออก เลยต้องให้เจ้าบ่าวดึงสองอันเลยค่ะ (หัวเราะ) Sequence ช่วงนี้น้ำหวานบรีฟกับทางเครื่องเสียงไว้เลยว่าโฟลว์ทุกอย่างต้องดีมากๆ และต่อเนื่อง เพื่อให้การเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ไม่มีสะดุด แล้วหลังจากนั้นวงดนตรีและดีเจก็ขึ้นเพลงมันส์กันเลยค่ะ ปาร์ตี้กันจนถึงเที่ยงคืน สนุกจนไม่มีใครอยากกลับ

แนะนำบ่าวสาว
จัดงานในแบบที่เป็นตัวเอง : แต่ก็ต้องคำนึงถึงแขกด้วย ว่าแขกที่เราเชิญมาเป็นใคร จะได้จัดออกมาถูกใจทั้งเราและแขก พอทุกคนเอนจอย งานก็จะสนุกไปเองโดยธรรมชาติค่ะ