Chatrium Hotel Riverside Bangkok สถานที่จัดงานแต่งงานริมน้ำ
ตอนหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ผมกับคุณแฟรี่(เจ้าสาว) ได้ไปดู Chatrium Hotel Riverside Bangkok(โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ) ครับ ซึ่งเราประทับใจวิวของห้องบอลรูมมาก เป็นภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไม่ได้เห็นแค่น้ำ แต่ทอดยาวเป็นเส้นเห็นเด่นชัด จนรู้สึกว่าถ่ายรูปออกมาน่าจะสวย จึงเลือกจัดงานแต่งงานที่นี่ครับ
งานที่ Chatrium Hotel Riverside Bangkok เราจัดเป็นพิธีไทย หมั้นตอนเช้าและเลี้ยงอาหารแขกตอนเที่ยง ซึ่งเราเลือกใช้ห้องบอลรูมที่ชั้น 4 เลย เพราะนอกจากวิวที่สวยมากแล้ว ตัวห้องยังมีขนาดกว้างขวาง เหมาะกับแขก 200 คนของเรา และคิดว่าสะดวกกับการแห่ขันหมากที่เราตั้งใจจะเริ่มตั้งขบวนที่สวนด้านล่างครับ
นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ครบ ในห้องมีจอโปรเจคเตอร์ถึง 3 ตัว และมีจอทีวีทุกเสา ทำให้แขกสามารถมองเห็นพิธีได้ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของห้อง รวมทั้งยังมีห้องย่อยระหว่างทางเดินไปห้องบอลรูมที่สามารถใช้เป็นห้องแต่งตัว ห้องรับตัวเจ้าสาวและห้องเก็บของได้ด้วย สะดวกพอสมควรเลยครับ
ตกแต่งเรียบง่าย แต่ได้งานสวยหรู
สำหรับการตกแต่ง เนื่องจากเป็นงานพิธีไทย ประกอบกับที่ตัวห้องสวยอยู่แล้ว ทั้งยังมีแชนเดอเลียร์ที่ทำให้ห้องดูแกรนด์มากๆ เราจึงไม่ได้ตกแต่งเยอะ ใช้ดอกไม้แค่นิดหน่อย เพื่อให้เป็นงานที่ดูโมเดิร์น แต่ยังมีความหวาน และใช้สีเขียวแซมขาวเป็นสีหลักเพื่อให้ชุดเจ้าสาวสวยเด่นไม่โดนกลบครับ
งานนี้ไม่มี Backdrop แต่มีรูปตกแต่งไว้ข้างหน้างานประมาณ 6 รูป ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาด้านขวามือจะเจอโต๊ะของชำร่วยตั้งไว้สำหรับแจกให้แขกหลังการรดน้ำสังข์ ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นซุ้มกาแฟและอาหาร จากนั้นก็เป็นทางเข้าห้องจัดงานครับ
สำหรับในห้องจัดงาน ด้านขวาถัดจากประตูจะเป็นเวทีที่ใช้ฉากหลังเป็นสีขาวเรียบ แล้วประดับดอกไม้มุมซ้ายขวาไล่ลงมาแหลมๆ ครับ โดยที่รอบห้องเราจัดเป็นโต๊ะกลมสำหรับทานเลี้ยงตอนเที่ยง ส่วนตรงกลางจัดเป็นเก้าอี้เดี่ยวสำหรับช่วงพิธี 180 ที่นั่ง และจัดซุ้มอาหารไว้ใกล้ทางออกไประเบียงครับ
ชุดเจ้าสาวผ้าไหมยกดอกลำพูน สวยโดดเด่น
ชุดเจ้าสาวเป็นชุดไทยจักรพรรดิครับ กระโปรงเลือกเป็นสีเขียวตุ่น ส่วนช่วงบนห่มทับด้วยสไบสีทอง ซับในสีแดง ที่ช่วยขับผิวเจ้าสาวให้ดูสวยผ่อง ซึ่งความพิเศษคือเราไม่ได้ตัดเป็นชุด แต่ใช้ผ้าที่อยู่ในม้วนมานุ่งสด จับจีบสด เนื่องจากผ้าที่ใช้เป็นผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าทอที่ได้รับรางวัล ด้วยความเสียดายความสวยของผ้า เราจึงไม่ตัดครับ
จัดพิธีการแบบไทย ปิดท้ายด้วยเลี้ยงเที่ยงอบอุ่น
ช่วงพิธีการ เราเริ่มแห่ขันหมากตอน 06.09 น. ครับ เลือกตั้งขบวนตั้งแต่บริเวณสวนริมแม่น้ำชั้นล่าง เพราะชอบบรรยากาศ และอยากให้เหมือนสมัยก่อนที่ชีิวิตคนมักเกี่ยวพันและเริ่มต้นกับน้ำ ซึ่งพอดีกับที่ก่อนทางขึ้นบันไดมีประตูทรงไทยบานใหญ่ที่สวยมาก เปรียบเสมือนเป็นบ้านเจ้าสาว การเริ่มขบวนตั้งแต่ตรงนี้ จึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นการเดินทางของชีวิตคู่เราครับ สำหรับคู่ที่อยากเริ่มแห่ขันหมากบริเวณนี้ แต่ไม่อยากขึ้นบันได ก็สามารถใช้ลิฟต์ได้นะครับ
หลังจากที่แห่ขันหมาก ผ่านประตูเงินประตูทองแล้ว ก็เป็นการเจรจานับสินสอดของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นผมก็ไปรับตัวเจ้าสาวมาทำพิธีสวมแหวนครับ
เรามีเปิดพรีเซนเทชั่น ตอนที่ผมขอคุณแฟรี่แต่งงานด้วย เสร็จแล้วก็เป็นพิธีรับไหว้ และปิดท้ายด้วยช่วงรดน้ำสังข์ครับ
เรามีเลี้ยงอาหารกลางวันด้วยครับ โดยใช้อาหารของโรงแรมทั้งหมด มีซุ้มผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ เริ่มเปิดให้แขกทานตั้งแต่ 09.00 น. ซึ่งอาหารดี อร่อย แขกทานเรียบเลย(หัวเราะ)
เรื่องอาหาร ผมว่าทางโรงแรมเขาแฟร์มาก มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แล้วให้ปริมาณเยอะ ในราคาที่โอเค ไม่ได้แพงเลยครับ
งานนี้ผมประทับใจทีมงานของโรงแรมมาก เพราะเขาค่อนข้าง Flexible เซอร์วิส การดูแลดี เป็นทีมที่คอยสนใจ แล้วจัดการเรื่องต่างๆ ให้เป็นอย่างดี การตกแต่งที่ทางโรงแรมจัดให้ก็สวยเกินคาดมาก รู้สึกคุ้มเกินราคาที่จ่ายไปอีกครับ งานที่ออกมาอบอุ่น สนุก เฮฮา รู้สึกเหมือนได้อยู่กับครอบครัวแบบที่อยากได้เลย ประทับใจจริงๆ ครับ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกสถานที่ให้เหมาะกับแขก : ต้องรู้จำนวนแขกที่แน่นอนแล้วค่อยหาสถานที่ เพื่อให้ได้ที่ที่เหมาะกับแขกจริงๆ ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ที่จอดรถเพียงพอ และเดินทางง่ายครับ
มีคนช่วยดูแลงาน : วันงานบ่าวสาวไม่มีเวลามาจัดการอะไรได้เลย ต้องมีคนช่วยดูแล ตัดสินใจเรื่องต่างๆ บ่าวสาวจะได้ไม่กังวล และงานจะจบแบบสวยงาม เรียบร้อยด้วยดีครับ
คุยกับช่างภาพให้เข้าใจถึงความต้องการ : ก่อนวันงานตกลงกับช่างภาพให้เรียบร้อยว่าต้องการอะไรบ้าง เพราะวันงานบ่าวสาวจะไม่มีเวลาคิด คิดไม่ทัน และจะทำให้พลาดบางอย่างไปครับ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Chatrium Hotel Riverside Bangkokช่างภาพ วิดีโอ:
MRZEERUNG