จากชุดงานพระราชพิธี สู่ชุดเจ้าสาวแบบไทยเรียบหรู สุดประณีต

       "ไทยละออ" ร้านชุดไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี ในกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนที่ตัดชุดไทยเข้าวัง นี่คืออีกหนึ่งคำตอบสำหรับเจ้าสาว ที่กำลังมองหาชุดไทยที่งามอย่างประณีต และพิถีพิถัน

        “คอนเซปต์เดิมของร้านเราตั้งแต่แรกคือ เรียบหรู กลุ่มลูกค้าหลักจึงเป็นคนที่ต้องใช้ชุดไทยเพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธี หรือเข้าวัง ซึ่งชุดต้องถูกต้องตามแผนแบบประเพณีในวัง  งานจึงต้องมีความละเอียด และประณีต  ตัวเนื้องานผ้าดูหรูกว่า อย่างชุดไทยบรมพิมาน ที่ลูกค้าจะเลือกใส่เข้าวัง นอกจากจะถูกต้องตามแบบแผนของแต่ละวังแล้ว    อย่างน้อยที่สุด  ต้องตัดเย็บด้วยผ้าไหมยกเล็ก  คือผ้าไหมทอมือ   เพราะถ้าใส่ผ้าธรรมดา   ในช่วงเข้าแถวรอรับพระราชทานน้ำสังข์ ที่มีคู่แต่งงานอยู่หลายคู่ คุณจะดูหมองกว่าอย่างชัดเจน”  คุณตุ๋ม แห่งร้าน “ไทยละออ” แจกแจงให้เราฟัง

       จากงานชุดไทยที่ประณีต เรียบหรู สำหรับเข้าวัง คุณตุ๋มได้ต่อยอดความพิถีพิถันนั้น  มาสู่ชุดเจ้าสาวแบบสมัยนิยม “เราทำงานเข้าวังมาตลอด พอมาทำชุดไทยสำหรับเจ้าสาว เราจึงใช้จุดเด่นของเรามาต่อยอด เพิ่มงานสไบต่างๆ มากขึ้น แต่คงผ้าไหมยกสำหรับเข้าวังแบบเดิมไว้ ตอบโจทย์กลุ่มคนที่อยากได้งานละเอียด ประณีต สวยหรู พิถีพิถัน ให้ลูกค้ารู้สึกว่า ได้ใส่งานเนี้ยบ สวยหรู เหมือนลูกค้าเข้าวัง สวยได้เหมือนกัน รู้สึกแบบเดียวกัน”

       สิ่งหนึ่งที่ร้านไทยละออให้ความสำคัญมาก โดยถือเป็นองค์ประกอบหลัก อันเป็น “หัวใจ” ของชุดไทย คือเนื้อผ้าที่ใช้

        “ชุดไทย ควรจะเป็นผ้าไหมไทย แต่ร้านทั่วไป มักใช้ผ้าประยุกต์อื่น ซึ่งราคาไม่แพง แล้วเน้นที่งานปักแทน  แต่ตุ๋มคิดว่า ชุดไทย สวยที่ตัวผ้า ไม่ใช่ที่งานปัก  เราจะเอาของประดับถุงละไม่กี่ร้อยกี่พัน มาบดบังราคาผ้าหลักหมื่นทำไม ร้านของเราจึงใช้ผ้ายก ซึ่งแต่ละผืน ทอมือ และมีชิ้นเดียวในโลก ซึ่งผ้าแบบนี้ เวลาถ่ายรูปจะสวยกว่า เห็นได้จากเวลาพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จออกงาน จะทรงผ้าไหมไทยยกใหญ่หมด เพราะมันสวยกว่าจริงๆ”

          นอกจากนี้ เสน่ห์ธรรมชาติของผ้าไหม ที่เครื่องจักรไม่สามารถลอกเลียนได้คือ รายละเอียดของผ้า ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป  “งานชุดไทยร้านอื่นๆ แบบหนึ่งอาจมีหลายไซส์ แต่ของร้านเรา ทุกชุดจะมีแบบเดียว ไซส์เดียว  ถ้าลูกค้าจะตัดเช่า แพทเทิร์นเหมือนเดิมได้ แต่วัตถุดิบไม่เหมือนเดิม เพราะผ้าไหมมีชิ้นเดียวในโลก สีกับลายอาจคล้ายกัน แต่มีรายละเอียดที่แตกต่าง  ลูกค้าแต่ละคนจะไม่ซ้ำกัน”

        เมื่อเน้นความพิถีพิถัน เรียบหรูดูสง่า ทำให้เจ้าสาวหลายคนคงอดหวั่นๆ ไม่ได้ว่า ราคาจะสูงลิบตามความหรูไปด้วย แต่สำหรับร้านไทยละออ กลับไม่เป็นเช่นนั้น  “ร้านทั่วๆ ไป เช่าชุดไหมอินเดีย ราคาสองหมื่นกว่า  ส่วนร้านเรา ก็สองหมื่นกว่าเหมือนกัน แต่เป็นไหมไทยยก ซึ่งแค่ราคาผ้าไหม ก็เกือบเท่าราคาเช่าแล้ว สไบที่ใช้ เราก็ใช้ลูกไม้ฝรั่งเศส ยังไงลูกค้าก็กำไร”

         นอกจากเนื้อผ้าที่มีคุณภาพ ประณีต เรียบหรู  เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของชุดไทยร้าน "ไทยละออ"  ก็คือ การออกแบบ และฝีมือตัดเย็บ ที่สั่งสมมาจากประสบการณ์  “คุณแม่เป็นคนดูแลเรื่องแพทเทิร์นทั้งหมดค่ะ  ท่านมีประสบการณ์ตัดงานเข้าวังมาเกือบยี่สิบปีแล้ว   คุณแม่วางโครงเอง  และเรามีช่างเย็บของเราเอง ซึ่งตัดให้ร้านเราร้านเดียว เพราะฉะนั้นคุณไม่สามารถหางานของเราที่อื่นได้ แต่ก็มีคนแอบอ้างเยอะ” 

        “ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มา จะชอบคัตติ้งของชุดไทย เขาบอกว่า ของเราเข้ารูปพอดี ไม่มีเหลือส่วนอื่น ชุดไทยที่สวย ใส่แล้วต้องพอดี เก็บทรงอยู่ กลุ่มลูกค้าเราเป็นกลุ่มเข้าวัง ต้องอยู่ต่อหน้าพระองค์ท่าน ทุกคนต้องการความดูดีที่สุด และไม่มีใครอยากหมองกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นคัตติ้งเราต้องดี”

         ไม่ว่าจะชุดไทยงานหมั้น หรือชุดงานราตรี เจ้าสาวย่อมอยากสวมใส่ชุดแต่งงานที่ตัดเย็บอย่างประณีต เพื่อให้สวยสง่า สมกับเป็นวันสำคัญของตน และสำหรับเจ้าสาวที่กำลังมองหาชุดไทยสไตล์เรียบหรู เน้นความงดงามของผ้าไหมไทย  “ไทยละออ” นับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าพิจารณา ติดต่อร้านค้าโทร 09089815xx (กดเพื่อดู)