รีวิวงานแต่งริมทะเล สวยเก๋ ในบรรยากาศแบบ Garden And Beach @The Naka Phuket

 The Naka Phuket สถานที่แต่งงานริมทะเล เซอร์วิสดี วิวสวยสะกดตา

      จูน (Jelly June) เลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม The Naka Phuket (เดอะ นาคา ภูเก็ต) ค่ะ สถานที่สวย โลเคชั่นดีมาก และเราพอจะทราบอยู่แล้วว่า เซอร์วิสของโรงแรมดี อาหารอร่อย เพราะเคยไปมา 4-5 ครั้ง บวกกับเป็นความทรงจำว่าเราทั้งคู่มาเที่ยวด้วยกันครั้งแรกที่นี่ เรียกว่าพอได้ฤกษ์ปุ๊บก็โทรจองที่นี่ก่อนเลยค่ะ 
 

ตกแต่งสวยโปร่งสบายตา ใช้วิวทะเลเป็นตัวช่วยหลัก

       ตรงบริเวณที่จูนจัดงานหมั้นตอนเช้าเป็นสกายเล้าจ์สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ 180 องศา ทำให้เราไม่ต้องตกแต่งและใช้พร๊อพอะไรมาก ใช้วิวเป็นตัวช่วยหลักอยู่แล้ว ยิ่งพิธีฉลองตอนเย็นจูนจัดที่สนามหญ้าริมทะเลก็จะได้อารมณ์แบบ Garden And Beach Wedding

       ส่วนธีมในงานจูนไม่เน้นดอกไม้เยอะค่ะ ตัวงานจะคลีนเป็นสีขาว ดูโปร่งๆ สบายตา จูนไม่อยากให้งานดูทึบจนเกินไป ตอนแรกทางโรงแรมเสนอว่าให้ใช้ผ้าเข้ามาเสริมให้หรูหราขึ้น แต่เราอยากให้ดูโปร่งก็เลยไม่เอา (หัวเราะ) จูนใช้พวกเทียน เครื่องแก้ว งานไม้ มาตกแต่งเพิ่มให้งานดูเต็มมากขึ้น และใช้ไฟระย้าประดับช่วยสร้างบรรยากาศค่ะ 

       เรื่องของชำร่วยจูนใช้เป็นแท็กป้ายชื่อกระเป๋าเดินทาง เข้าคอนเซ็ปต์กับการ์ดที่ทำเหมือนตั๋วเครื่องบินสั่งจากร้าน Manita Wedding Print และจูนมีเตรียมถุงผ้าไว้ให้ด้วยเพราะคนที่มางานแต่งแบบ Destination Wedding เขาจะมาก่อนล่วงหน้าวันสองวันอยู่แล้ว เลยเตรียมไว้ เขาจะได้มีอะไรเอนจอยก่อนวันงาน ข้างในก็จะมียาสามัญทั่วไป ขนมไทย ผลไม้อบแห้งอะไรพวกนี้

       ชุดจูนสั่งตัดจากร้าน Nhoo Matthews Atelier คอนเซ็ปต์ชุดคุยกับดีไซน์เนอร์ว่าจูนชอบ Belle จากเรื่อง Beauty And The Beast มาก ชุดเลยดูมีความแฟร์รี่เทลหน่อยๆ แต่ไม่ใช่แนวเจ้าหญิงแบบมีสุ่มใหญ่ๆ เพราะเราจัดริมทะเล ส่วนสูทเจ้าบ่าวของ Rams ค่ะ เราเลือกผ้าจากอิตาลี เพราะเน้นให้ใส่สบาย ไม่ร้อน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นลายผ้าเป็นเส้นตรงใส่แล้วจะช่วยให้ดูผอมมากขึ้น ส่วนซับด้านในเป็นผ้าลายแผนที่โลก 

พิธีหมั้นเรียบง่าย อิ่มเอมความสุข

       เริ่มจากตักบาตรเช้า ถวายสังฆทาน กรวดน้ำ เราอยากให้พิธีทางศาสนาเสร็จก่อนเริ่มงานเพราะต้องการให้งานกระชับมากที่สุด พอแขกเริ่มมาฝั่งเจ้าบ่าวเขาจึงจะเริ่มตั้งขบวนขันหมาก จริงๆ จูนหมั้นตามธรรมเนียมฝรั่งคือคุกเข่าขอแต่งงานมาประมาณหนึ่งปีแล้ว แต่เราก็จัดให้ดำเนินตามพิธีไทยปกติ มีสู่ขอ รดน้ำสังข์ให้ทุกคนมาร่วมอวยพร พิธีเช้านี้ใครอยากใส่ชุดไทยจูนก็จองให้หมดไม่ใช่เฉพาะเพื่อนเจ้าสาว เพราะเพื่อนชาวต่างชาติของจูนนานๆ ทีเขาจะได้มีโอกาสใส่ชุดไทย ทุกคนดูสนุกสนานมาก ใส่ชุดไทยถ่ายรูปกันเฮฮาเลยค่ะ

พิธีฉลองสุดอบอุ่น ในบรรยากาศชิลริมทะเล

       ช่วงงานตอนเย็นพอแขกมาถึงจะเจอกับจุดคล้ายกับลงทะเบียน แต่งานเราไม่มีการลงทะเบียนค่ะ เพราะเราระบุรายชื่อแขกตามที่นั่งอยู่แล้ว ส่วนใหญ่มีแต่คนใกล้ชิดสนิทกับเราจริงๆ ข้างกันจัดเป็น Photo Booth ให้แขกมีอะไรทำเพลินๆ ระหว่างรอพิธีเริ่ม ยิ่งงานจัดตอนพระอาทิตย์ตก วิวดี แสงสวย แขกถ่ายรูปกันสนุกค่ะ รูปที่ได้จูนเลือกแบบที่สามารถแยกส่วนหนึ่งเก็บไว้ได้ อีกส่วนใช้เขียนคำอวยพรแทนการใช้สมุด

       ก่อนเข้าพิธีเป็นช่วงโมเมนต์ที่จูนลงมาเจอเจ้าบ่าวในชุดเจ้าสาวครั้งแรก เจ้าบ่าวเขาจะยืนหันหลังแล้วหันมาเจอเราในชุดเจ้าสาวสีขาวแล้วให้ดอกไม้ประมาณนั้น (หัวเราะ) เพราะเจ้าบ่าวเขาไม่ได้เห็นชุดเจ้าสาวจนกว่าจะถึงวันแต่งงานตามธรรมเนียมอเมริกันค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มแจ้งแขกว่าจะเสิร์ฟไวน์แล้วนะคะ แขกเขาจะตักอาหารกลับมาที่นั่ง 

       หลังจากทานอาหารเสร็จ พิธีเริ่มที่คุณพ่อเจ้าบ่าวกล่าวคำอวยพร และตามด้วยคุณแม่ของจูน หลังจากนั้นเพื่อนมาอวยพรแล้วคั่นด้วยวีดีโอบรรยากาศงานหมั้นตอนเช้าค่ะ พอจบวิดีโอเจ้าบ่าวเขาพูดความรู้สึก ส่วนจูนขอพูดเป็นคนสุดท้ายเพราะทำวิดีโอเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวไว้ บรรยากาศดูซึ้งหน่อยๆค่ะ หลังจากนั้นตัดเค้ก และโยนช่อดอกไม้ มีจับรางวัลกันนิดหน่อยเพราะแขกเขามาไกลเลยอยากให้ได้สนุกกัน

       ช่วง First Dance มีจุดพุลธาราเป็นฉากหลังตอนเราทั้งคู่เต้นด้วยกัน ตามด้วยเจ้าบ่าวเต้นกับแม่เจ้าบ่าว เจ้าสาวเต้นกับพ่อเจ้าสาว หลังจากนั้นก็เปิดฟลอร์กันค่ะ ตอนบ่าวสาวเต้นใช้เพลง Can't help falling in love หลังจากเปิดฟลอร์เพลงแรกเปิดสาวอีสานรอรัก (หัวเราะ) ทุกคนเอนจอยมาก ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เราย้ายกันไปจัดในห้อง มีดีเจมามิกซ์เปิดเพลงให้เรื่อยๆ ด้วยค่ะ

       จูนประทับใจในทุกโมเม้นต์ แต่ถ้าประทับใจที่สุดคงเป็นช่วงที่จูนเดินไปเจอเจ้าบ่าวในชุดเจ้าสาวครั้งแรก ตอนนั้นตื่นเต้นมากที่สุดในงาน เราน้ำตาซึมกัันทั้งคู่ และตอนที่ครอบครัว เพื่อนขึ้นพูดเรารู้สึกประทับใจ เพราะเขาคือคนที่รู้จักชีวิตของเรามาตลอดและรักเราจริงๆ

แนะนำบ่าวสาว
เช็คฤกษ์ เช็คสภาพอากาศให้ชัวร์ : เวลาจัดงานเอ้าท์ดอร์เราควรดูฤกษ์ที่ไม่ใช่ช่วงหน้าฝนหรือว่าอากาศร้อนเกินไปค่ะ ที่สำคัญคือควรมีแผนสำรอง อย่างการจองห้องหรือสถานที่อื่นๆ ไว้เผื่อในกรณีที่พายุเข้าค่ะ