รีวิวงานแต่งทุ่งดอกไม้ Colorful flower ของยูทูปเบอร์สาวคนดัง @ Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit

Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit ห้องบอลรูมตกแต่งด้วยโทนสีคอปเปอร์สุดเก๋

       เราสองคนมีภาพในหัวชัดเจนเลยค่ะ ว่าอยากให้งานออกมาเป็นแบบไหน ห้องบอลรูมที่เหมาะสมจะพรีเซนต์เวทีของเรา เลยเน้นว่าต้องมีเพดานสูง ไม่มีเสากั้นตรงกลางบดบังสายตาแขก เราเลือก Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit (ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท) เพราะตอบโจทย์ที่สุดค่ะ นอกจากนี้ ห้องสำหรับทำพิธีหมั้นและฉลองยังอยู่ชั้นเดียวกัน มีมุมผนังกระจกใสเห็นวิวสวยใจกลางเมืองได้ ทั้งยังตกแต่งด้วยโทนสีคอปเปอร์ ซึ่งเป็นสีที่ชอบและตรงกับเดรสโค้ด (Dress code) ช่วงงานฉลองพอดีค่ะ

งานหมั้นสีชมพูสวยหวาน

       เนื่องจากเราเป็นภูมิแพ้ ดอกไม้ทั้งหมดที่ใช้ในงานจึงเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ ซึ่งทางทีมตกแต่งก็น่ารักมากที่เขาพยายามทำให้ดอกไม้ประดิษฐ์เหล่านั้น ออกมาเสมือนดอกไม้จริงที่สุด

       งานหมั้นนี้เราจะใช้สีชมพูเป็นหลัก แซมด้วยสีอื่นบ้าง และเพราะตัวห้องหมั้นสวยอยู่แล้ว จึงตกแต่งแค่จุดรับตัวที่ประดับดอกไม้สวยหวาน กับฉากหลังทำพิธีที่มีดอกไม้ แต่งเติมด้วยเม็ดคริสตัลที่ร้อยเรียงเข้าไปให้ดูหรูขึ้นค่ะ

       พิธีการงานหมั้น จะเริ่มจากพิธีแห่ขันหมาก เจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทอง แล้วเข้าไปเจรจาสู่ขอกับผู้ใหญ่ จากนั้นจึงออกมารับตัวเจ้าสาวที่จุดรับตัวตรงโถงทางเดินที่เป็นมุมซิกเนเจอร์ซิตี้วิวของทางโรงแรม ต่อมาก็สวมแหวน รับไหว้ ตามด้วยรดน้ำสังข์ ก็เสร็จสิ้นพิธีค่ะ ในงานหมั้นช่วงเช้านี้ เรามีอาหารรับรองแขก ทั้งคอฟฟี่เบรค และเมนูอย่างข้าวต้มปลา ข้าวหมูแดงด้วยค่ะ

งานฉลองดุจเทพนิยาย กับไฮไลท์ที่เวทีอะคริลิก

       สำหรับงานฉลองเราเน้นสีโปรดของเจ้าบ่าวคือสีเขียวมรกต (Emerald Green) และมีการตกแต่งเพิ่มด้วยดอกไม้หลากสีสัน เพราะเจ้าสาวชอบความสดใสค่ะ (หัวเราะ) จุดที่ตกแต่งจะมีตรงวอล์คเวย์แกลเลอรีที่ประดับด้วยภาพถ่ายคู่บ่าว-สาว โดยเราทำฉากปิดทับผนังของโรงแรมตลอดสองข้างทาง พอสุดทางเดินจะพบฉากแบ็คดร็อปถ่ายภาพสี Emerald Green ที่เล่นสนุกกับความโค้งมนของโครงสร้างและเพิ่มเลเยอร์ให้ฉากดูมีมิติยิ่งขึ้น

       ด้านในห้องบอลรูมเป็นจุดที่เราภูมิใจนำเสนอค่ะ เพราะเราให้ความสำคัญด้านการตกแต่งเวทีมาก่อนส่วนอื่น เราชอบเจ้าหญิงเบลล์ในเทพนิยายดิสนีย์เรื่อง Beauty and the Beast จึงทำเวทีเป็นครึ่งวงกลม แต่งไฟดวงกลมไว้ที่ฐานเวที และตกแต่งด้วยดอกไม้ สำหรับวัสดุที่ใช้ทำเวทีเลือกเป็นอะคริลิก เพราะชอบกลิตเตอร์และความสะท้อนแสงแวววาว ส่วนฉากบนเวทีเป็นสีเขียวมรกต (Emerald Green) ประดับดอกไม้และห้อยเส้นคริสตัล โดยเรายังขึงผ้าดำปิดทับผนังด้านหลังสุดของโรงแรมและประดับไฟให้เหมือนดวงดาวเพื่อพรีเซนต์เวทีให้เด่นขึ้น ส่วนฐานเค้กตรงกลางห้องเราตกแต่งด้วยดอกไม้ ร้อยเม็ดคริสตัลแซมเข้าไป และประดับเทียนไฟรอบ ๆ เพื่อให้ดูมีความเป็นเจ้าหญิงนิด ๆ ค่ะ  

       สำหรับการจัดแสงไฟในห้องบอลรูมนั้น จากที่ไปงานแต่งคู่อื่น ๆ มาเราจะเห็นว่าแสงที่ส่องมาจากด้านบนศีรษะจะทำให้เกิดเงาใต้ตาบ่าว-สาว ทีมไลท์ติ้งจึงเลือกไม่ใช้ไฟ Headlight และมีการปรับตำแหน่งไฟให้ยิงแสงเฉียงมาจากฝั่งซ้ายและฝั่งขวารวมกันสี่จุดแทน เสริมด้วยไฟฟอลโลว์กลางห้องให้ส่องมายังเวที ก็เลยช่วยให้หน้าบ่าว-สาวดูไบร์ท ไร้เงาตกกระทบ

       งานฉลองเริ่มเวลา 18.30 น. แขกเดินออกจากลิฟท์จะเจอจุดลงทะเบียนและรับของชำร่วยเป็นชุดแปรงสีฟันแบบพกพา (เจ้าบ่าวเป็นหมอฟัน) และแขกจะเดินผ่านวอล์คเวย์แกลเลอรี เพื่อไปถ่ายรูปกับบ่าว-สาวที่ฉากแบ็คดร็อป ซึ่งพิเศษตรงที่พอถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดกับทีมช่างภาพ แขกก็สามารถรอรับภาพที่ถ่ายได้เลย

       จากนั้น ภายในห้องจัดงานจะเปิดวิดีโอประมวลภาพงานหมั้นเช้าก่อน ต่อด้วยวีดิโอพรีเซนเทชั่นที่เราทำเอง (เจ้าสาวเป็นยูทูปเบอร์) พอวิดีโอจบ ก็เปิดตัวบ่าว-สาวเข้าไปในงาน เดินขึ้นเวที และมีประธานมากล่าวอวยพร จากนั้นเราเดินลงมาตัดเค้กกลางห้อง เสร็จแล้วเราก็ขึ้นมาบนเวทีเพื่อโยนดอกไม้ จบช่วงนี้ก็เข้าสู่ After Party ค่ะ เราแวบไปเปลี่ยนชุดกลับมา จากนั้นเราและทีมเพื่อนเจ้าสาวจะมีโชว์เต้น พอเต้นจบที่เหลือก็ปาร์ตี้กันมันส์แบบจัดเต็มค่ะ (หัวเราะ)

       สำหรับงานฉลองนี้ เรามีแขกมาร่วมงานราว 470 ท่าน แต่ไม่กังวลเรื่องอาหารเพราะโรงแรมมีทีมที่คอยตรวจดูอาหารไม่ให้พร่องอยู่ตลอด ซึ่งอาหารจะมีทั้งเมนูค็อกเทล 20 อย่าง และซุ้มอาหารของโรงแรมที่สั่งเพิ่มเติม เช่น คอหมูย่าง เกี๊ยวน้ำ กระเพาะปลา ข้าวมันไก่ และสปาเก็ตตี้

       ซึ่งผลตอบรับในส่วนของอาหารก็ดีมากค่ะ แขกส่วนใหญ่บอกว่าอาหารจะเยอะไปไหน (หัวเราะ) คือเยอะทั้งปริมาณและเยอะด้วยเมนูที่หลากหลาย ที่สำคัญอาหารอร่อย โดยเฉพาะเมนูคอหมูย่างซึ่งทางโรงแรมแนะนำมาค่ะ

ใส่ชุดหนัก 34 กิโลกรัม มีรองเท้าเป็นตัวช่วย

       ชุดเจ้าสาวที่ได้มามันเหมือนพรหมลิขิตเลยค่ะ คือเราเล่นไอจีและเห็นชุดนี้ก่อนจะโดนขอแต่งงานอีก (หัวเราะ) ตอนนั้นเห็นแล้วชอบ ซึ่งร้านนี้เขาเรียกว่าเป็นกระโปรงทรงสะบัดคล้ายชุดของเจ้าหญิงเบลล์ วันที่ได้ไปลอง ก็รู้สึกว่าสวยถูกใจเพียงแต่ลังเลเพราะชุดหนักถึง 34 กิโลกรัม แต่สุดท้ายเราก็เลือกชุดนี้ และเราตั้งใจไปออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงโดยเฉพาะช่วงขา (หัวเราะ) ซึ่งก็แอบภูมิใจนะคะที่สามารถแบกชุดนี้เดินอยู่ในงานได้โดยไม่เป็นลม (หัวเราะ)

       ชุดเจ้าสาวน้ำหนักขนาดนี้ รองเท้าจึงสำคัญมาก เราเลือกรองเท้าที่ใส่สบาย และช่วยรองรับน้ำหนักของชุดได้ โดยสั่งทำรองเท้าจากทีมที่ทำรองเท้าให้นางงามเลย ซึ่งรองเท้าจะเป็นทรงเตารีดที่ไม่ให้รูปเท้าเทหน้ามากเกินไป ข้างหน้ารองเท้าสูง 3 นิ้ว ส่วนข้างหลังสูง 5 นิ้ว ทั้งยังมีสายรัดข้อเท้าเพื่อให้มั่นใจว่าไม่หลุด จะได้เดินสะดวกขึ้น สำหรับเนื้อผ้าที่ใช้ทำรองเท้าก็เลือกผ้าไหมที่ผิวลื่น เพื่อให้รองเท้าไม่ดูดซับกับสุ่มในกระโปรง ซึ่งอาจทำให้เดินยากค่ะ

เปี่ยมสุขงานสวยและราบรื่นดั่งใจ

       ก่อนวันงาน เรามีความกังวลว่างานจะราบรื่นไหม แต่เราโชคดีที่ได้ทีมซัพพลายเออร์ที่เข้าใจความต้องการและพยายามช่วยเหลือ ทำให้เราประทับใจ อย่างช่างภาพพอรู้ว่าเราเป็นยูทูปเบอร์ก็ไปทำการบ้าน ดูผลงานเราจากสื่อต่าง ๆ จนรู้ว่ามุมไหนที่เจ้าสาวชอบ ถ่ายภาพออกมาแล้วสวย

       เราประทับใจทีมออแกไนซ์ ที่ทำงานได้ตรงใจเรามากที่สุด อีกทั้งไม่รำคาญความดีเทลเยอะของเรา (หัวเราะ) เพราะเราตัดต่อภาพตัวเองที่ใส่ชุดเจ้าสาวแบบต่าง ๆ ไปอยู่บนเวทีส่งไปให้ทางออแกไนซ์ช่วยเลือกค่ะ

       สุดท้ายเราขอบคุณโรงแรมที่คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเราอย่างเต็มที่ สถานที่ก็สวยตรงใจ ได้ทีมพนักงานบริการดี และที่สำคัญ มีอาหารอร่อยจนแขกปลื้ม แค่นี้ก็ดีมาก ๆ แล้วค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

สวดมนต์เพิ่มแต้มบุญให้เจอทีมงานที่ดี : การจะเลือกใช้ซัพพลายเออร์เจ้าไหน เราควรศึกษาสไตล์ที่ตัวเองชอบและควรดูสไตล์ผลงานของซัพพลายเออร์ด้วย เมื่อดูผลงานและความมืออาชีพของเขาว่ามันตรงใจเราแล้ว อย่าลืมเพิ่มแต้มบุญด้วยการสวดมนต์บ่อยๆ (หัวเราะ) พลังแต้มบุญอาจทำให้เราเจอแต่ซัพพลายเออร์เจ้าที่ดี ๆ ไม่โดนโกงหรือโดนเอาเปรียบได้

ฟังใครบอกต่อว่า 'อาหารอร่อย' ยังไม่เท่า 'ชิมเอง' : หากได้ยินใครมาบอกต่อว่าเจ้านี้ดี เจ้านี้อร่อย อย่าเพิ่งเชื่อ ต้องไปลิ้มรสด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รู้ว่าถูกปากเราหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่างานเราได้อาหารที่อร่อยจริง ๆ

ก่อนวันงานควรนอนให้พอ : สำหรับใครที่จัดงานหมั้นและฉลองในวันเดียวกัน ก่อนวันงาน ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อถึงวันจริงเจ้าสาวแทบจะไม่มีโอกาสได้พัก เพราะต้องตื่นมาแต่งหน้าตั้งแต่ตีสอง พอจบงานช่วงเช้า ก็ต้องเตรียมอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเข้าสู่งานฉลองเย็นอีก การนอนให้พอช่วยป้องกันความอ่อนเพลีย หรือการเป็นลมระหว่างวันได้เป็นอย่างดีค่ะ