Kimpton Maa-Lai Bangkok โรงแรม Pet-Friendly ที่มีสวนแสนสวย
ตาลกับกัญจน์ (เจ้าบ่าว) เลือกแต่งงานที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok(โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ) เพราะประทับใจสถานที่และทีมงานที่ช่วยดูแลและจัดการปัญหาต่างๆ ตั้งแต่งานแต่งของพี่สาวกัญจน์เมื่อปลายปี 2021 จนผ่านมาได้อย่างราบรื่นค่ะ ประกอบกับโรงแรมที่นี่ต้อนรับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) ทำให้เราพาน้องหมาที่รักเสมือนคนในครอบครัวมาร่วมงานแต่งงานของเราได้ด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือ ที่นี่มีสวนสวยและบรรยากาศร่มรื่นตรงใจ ตอบโจทย์กับความต้องการที่อยากจัดงานแต่งในสวน เราชอบมากถึงขั้นหาฤกษ์ใหม่ เพื่อให้สามารถจัดงานได้ที่สวนแห่งนี้ค่ะ
เติมความอบอุ่นด้วยคอนเซ็ปต์ Garden Archway ประตูสู่สวนหลังบ้าน
เราเลือกจัดงานหมั้นและฉลองในสวนด้วยคอนเซ็ปท์ Garden Archway ประตูสู่สวนหลังบ้าน เน้นบรรยากาศดีและเป็นกันเอง แขกที่เดินเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ด้วยการตกแต่งแบบมินิมอลธีมสี Green & White และอาศัยความเป็นธรรมชาติเข้าช่วยค่ะ โดยเราไม่มีสีเดรสโค้ดของแขกที่มางาน เพราะเราอยากให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมสีสันให้กับสวนสีเขียวแห่งนี้ และแจ้งแขกที่เป็นผู้หญิงว่า ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าส้นเข็มเพราะจัดงานในสวนค่ะ
ส่วนแบ็คดรอปถ่ายภาพและฉากเวที เราทำให้เหมือนซุ้มประตูทรงโค้งสีขาวประดับด้วยดอกไม้ ตำแหน่งการวางโต๊ะลงทะเบียน แกลเลอรีบ่าวสาว และแบ็คดรอปถ่ายภาพจะอยู่ใกล้กันหมดเลยค่ะ ส่วนเก้าอี้สำหรับแขกนั้นจะปรับเปลี่ยนไปตามพิธีการ อย่างช่วงเช้าจะเป็นเก้าอี้เรียงเธียร์เตอร์ ส่วนตอนเย็น เราจัดโต๊ะทั้งแบบ Long Table ไว้สำหรับแขก VIP ผสมผสานกับโต๊ะค็อกเทล บาร์ ที่รองรับแขกในงานประมาณ 150 ท่านค่ะ
พิธีหมั้นเช้ารื่นรมย์ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น
เราเริ่มต้นพิธีหมั้นช่วงเช้าด้วยการแห่ขันหมาก แต่จังหวะที่ต้องผ่านด่านประตูเงินประตูทองนั้น เราอยากให้เกมผ่านด่านดูสนุกและมีความหมาย จึงเลือกเกมถามตอบเรื่องราวบ่าวสาวแทนค่ะ เช่น เจอครั้งแรกที่ไหน, ภาพใดคือดวงตาของเจ้าสาว เป็นต้น เมื่อผ่านด่านได้แล้ว เจ้าบ่าวจะมารับตัวตาลที่นั่งรออยู่ที่ลานหินเพื่อมาทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน ยกน้ำชา และปิดท้ายด้วยพิธีรดน้ำสังข์ค่ะ
สำหรับการจัดเลี้ยงอาหารช่วงเช้า เรามีแขกประมาณ 100 ท่าน แขกที่มาถึงสามารถทานอาหารรองท้องได้เลย เพราะเรามีเมนูคอฟฟี่เบรกตั้งไว้บริเวณสวนค่ะ มีปอเปี๊ยะทอด และข้าวเหนียวหมูปิ้งที่อร่อยมาก ๆ ค่ะ หลังจากจบพิธี เราจะพาแขกขึ้นไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารชั้นห้า ซึ่งเป็นเมนูบุฟเฟ่ต์ เช่น ข้าวหมูแดง กะเพราเป็ด และเกี๊ยวน้ำกุ้งค่ะ
งานฉลองเย็นสุดชิลกับดนตรีในสวน
สำหรับงานเย็น เราเน้นชิล อบอุ่น และเป็นกันเอง มีดนตรีบรรเลงด้วยเปียโนและแซกโซโฟนเพื่อเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายภายในงานก่อนที่เราทั้งสองคนจะขึ้นไปพูดคุยบนเวที เมื่อพิธีเริ่ม พิธีกรจะเชิญประธานขึ้นกล่าวคำอวยพร สัมภาษณ์เราทั้งสองคน และรับฟังความในใจจากเพื่อน ๆ และปิดท้ายด้วยความในใจของเราที่มีให้กันค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงตัดเค้ก ที่มีคิวนี้เพราะอยากกินเค้กของโรงแรมแค่นั้นเลยค่ะ เพราะเค้กเขาอร่อย (หัวเราะ) และต่อด้วยโยนดอกไม้ก็จบพิธีทางการค่ะ ส่วน After Party ในแบบฉบับของคู่เรา จะเปิดดนตรีแจ๊สในสวนและร้องเพลงด้วยกันค่ะ
ส่วนรูปแบบจัดเลี้ยงอาหารช่วงเย็น เป็นเมนูหลักค็อกเทลหลากหลายเมนู และซุ้มอาหารที่เราให้ความสำคัญว่าแขกต้องอิ่มท้อง โดยเมนูในงานมีพาสต้าซอสมะเขือเทศ คาโบนาร่า ฮันนีแฮม สะเต๊ะหมู ขาลูกแกะ ที่ต้องบอกว่าเมนูนี้ คืออร่อยที่สุดค่ะ
ปลาบปลื้มใจงานแต่งงานในฝันกลายเป็นจริง
เราดีใจมากที่งานแต่งที่วาดฝันไว้กลายเป็นจริงตาม Mood & Tone ที่เราวางแผนไว้ แถมวันนั้นอากาศดี ลมพัดผ่านมากระทบผิวตลอด ยิ่งทำให้บรรยากาศเหมือนลานเบียร์ ชิลไปอีกค่ะ (หัวเราะ)
นอกจากนี้ เรารู้สึกประทับใจทีมตกแต่งที่ช่วยเนรมิตงานของเราออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่างภาพที่เป็นมืออาชีพ และความประทับใจที่ติดอยู่ในใจมาตั้งแต่งานพี่สาวของกัญจน์ คือ โรงแรม นอกจากสถานที่จะสวยตรึงใจแล้ว เซลล์และพนักงานทุกระดับที่ดูแลใส่ใจ มีเซอร์วิสมายด์ และเป็นกันเองมาก ๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ได้ดี คอยช่วยเหลือและบริการอย่างสุดความสามารถ อยากบอกว่าการจัดงานแต่งที่นี่ ทำให้เราได้พบเจอแต่เรื่องราวดี ๆ ค่ะ
คำแนะนำบ่าว-สาว
คิดธีมให้ชัดตั้งแต่แรก : อยากจัดงานสไตล์ไหน ให้ยึดความชอบและไอเดียที่เราอยากทำก่อน หากระหว่างทางเกิดปัญหาจะพบเจอทางแก้ไขได้เอง
การจัดงานแต่ง สิ่งสำคัญ คือ ความสุขของบ่าวสาว : อยากให้เลือกที่ในสิ่งที่เราสบายใจก่อน ส่วนดีเทลต่าง ๆ ที่พอยืดหยุ่นเพื่อครอบครัวได้ ก็ลองปรับตามความเหมาะสม
จัดงานแขกหลักร้อย ควรจ้างออแกไนซ์เพื่อความราบรื่น : จากประสบการณ์ส่วนตัว การมีออแกไนซ์จะช่วยได้เยอะมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวันงานจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือเปล่า แต่ออแกไนซ์จะสามารถช่วยแก้ปัญหาแบบฉุกเฉินได้
จัดงานเอาท์ดอร์ ตอนเช้าเช็คแสงแดด ตอนเย็นเช็คแสงไฟ :
สำหรับการจัดงานเอาท์ดอร์ อยากให้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมรอบข้างด้วย อย่างถ้าจัดพิธีหมั้นช่วงเช้า อยากให้ดูช่วงเวลาที่แดดสาดส่องลงมา ว่าแดดมาฝั่งไหน เพื่อจะได้จัดตำแหน่งวางเก้าอี้ให้แขกหลบแดดได้ได้เหมาะสม ส่วนตอนเย็นควรเช็คยุง แสงไฟ และเสียงให้ดี ต้องลองคุยกับออแกไนซ์ว่าเขาจะใช้จำนวนไฟเท่าไหร่ให้ดูสว่างพอดี ไม่มืดสลัวไป และคำนวณการวางลำโพงด้วยว่าควรตั้งวางจุดไหนบ้างให้เสียงกระจายได้อย่างทั่วถึง
Photographer : Marriage Roll, Beaver