รีวิวงานแต่งสไตล์ Homey ในสวน เรียบง่าย อบอุ่นทุกอณู @Siloo’et House

Siloo’et House สถานที่จัดงานแต่งงานสไตล์โรงนาสีขาว สวยสะอาดตา พร้อมบริการแบบ One Stop service

       ถุงทองกับพี่พิช (เจ้าบ่าว) อยากได้สถานที่จัดงานแต่งใกล้บ้านเราและครอบครัว ในย่านฝั่งธน-นนทบุรี หลังจากรวบรวมลิสต์และไปสำรวจมาก็ตัดสินใจเลือกที่ Siloo’et House  (ซิลูเอท เฮ้าส์) เพราะประทับใจในบรรยากาศของสวนสีเขียวร่มรื่น มีไฮไลต์เป็นต้นก้ามปูขนาดใหญ่ อีกทั้งชอบสถาปัตยกรรมสไตล์บ้านโรงนาที่สบายตา โดยเฉพาะตัวอาคารสีขาวล้วนช่วยให้ตกแต่งง่ายขึ้นด้วยค่ะ ไม่ว่าเราจะแต่งแต้มสีอะไรเข้าไปก็ออกมาสวย ด้านในโปร่งโล่งด้วยเพดานสูงกว่า 10 เมตร มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ เสริมบรรยากาศให้ดูอบอุ่นขึ้น และอีกเหตุผลสำคัญที่เราเลือกที่นี่คือทีมงานซิลูเอท ที่คุยถูกคอและให้คำแนะนำดี พอได้เห็นองค์ประกอบทุกอย่างจึงมั่นใจว่าจัดงานที่นี่ต้องออกมาดีแน่ ๆ ค่ะ

งานแต่งน้อย แต่สวยมาก ท่ามกลางบรรยากาศสุด Cozy 

       ที่นี่มีบริการแบบ One stop service นับว่าเป็นข้อดีสำหรับเรา ที่ไม่ต้องเสียเวลาหาทีมงานตกแต่ง พิธีกร รันคิว หรืออาหารจัดเลี้ยงเลยค่ะ เพราะเขามีครบครันเลย งานนี้เราเชิญแขกเพียง 100 ท่าน จึงเน้นการตกแต่งที่อบอุ่น เรียบง่าย ดูสวยเป็นธรรมชาติ ผสานไปกับสภาพแวดล้อมรอบด้านค่ะ โดยเราเลือกดอกไม้ตกแต่งธีม Terracotta โทนสีเขียว ส้ม ชมพู พีช แต่แซมสีเหลืองเข้าไปด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการ์ดงานแต่งงาน ซึ่งเราประทับใจทีมตกแต่งมาก เพราะเขาไม่ได้เพิ่มแค่สีเหลืองเท่านั้น แต่ยังใส่ใจถึงขั้นตามหาชนิดดอกไม้ที่อยู่ในการ์ดมาไว้ในงานด้วยค่ะ

       การตกแต่งมีตั้งแต่สวนด้านนอก โดยวางป้าย Welcome Mirror และภาพบ่าวสาวตรงทางเข้าตัวอาคาร ส่วนด้านในใช้ดอกไม้ตกแต่งแบ็คดรอปถ่ายภาพและบนเวที รวมถึงเค้กจริงที่ทางสถานที่ก็ดูแลให้ด้วยค่ะ

       ก่อนงานเริ่ม เรานัดเพื่อนสนิทมาถ่ายรูปกัน จนได้เวลา เพื่อนเจ้าบ่าวถึงไปยืนตรงบูธเวลคัม ดริ๊งค์ คอยแจกเครื่องดื่มเหล้าบ๊วย เพื่อเติมความสดชื่นให้กับแขก ส่วนของชำร่วยเป็นเทียนหอม มีให้เลือกทั้งกลิ่นวานิลลาและกลิ่นพีโอนี

       ในโซนไลบรารี่ แขกสามารถถ่ายภาพร่วมกับบ่าวสาวและถ่ายโฟโต้บูธได้ เราเลือกปริ้นท์แบบ 2 ใบ ให้แขกเก็บไว้และเอามาแปะบนสมุดอวยพรด้วยค่ะ

       ช่วงเปิดตัว เราเปิดเพลงโปรดคลอขณะที่เดินเข้าไปในงาน ผ่านเพื่อนทั้ง 14 คนที่โปรยคอนเฟตติ พิธีการทุกอย่างกันเองมาก เพราะเราไม่มีประธาน จึงเริ่มคิวแรกด้วยการเชิญเพื่อนบ่าวสาวรวม 4 ท่านมาเผยความรู้สึกต่อกัน จากนั้นเราก็พูดความประทับใจนิดหน่อย ตามด้วยขอบคุณแขก และเข้าสู่ช่วงตัดเค้ก โยนดอกไม้ ที่เหลือก็สังสรรค์กับวงดนตรีอะคูสติกที่มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ไปร่วมแจมอย่างสนุกสนานค่ะ

       เมนูจัดเลี้ยงเราเลือกเป็น Food Station จัดรูปแบบโต๊ะกลมทั้งหมด 6 โต๊ะ เป็น VIP 2 โต๊ะสำหรับคุณพ่อ-คุณแม่บ่าวสาว จะอยู่ด้านหน้าติดเวทีค่ะ ส่วนโต๊ะกลมอีก 4 โต๊ะกับโต๊ะค็อกเทลจะเป็นของเพื่อน ๆ ค่ะ โดยทางซิลูเอทมีให้เทสต์อาหารก่อนวันงานด้วย เมนูที่เราเลือกมาก็มีข้าวมันไก่ ปอเปี๊ยะสด อุด้งเทมปุระ พาสต้า และของหวานอย่างวาฟเฟิลไอศกรีมวานิลลาค่ะ ซึ่งเป็นอย่างแรกที่เลือกเลย เพราะส่วนตัวชอบและอร่อยมากค่ะ

เติมไอเดียแสนเก๋ ด้วยการฉายรูปภาพบนผนัง

       ด้วยความที่เราจัดงานเลี้ยงฉลองตอนกลางคืน ทางสถานที่จึงเสนอไอเดียใช้โปรเจคเตอร์ฉายรูปภาพบ่าวสาวลงบนผนังสีขาวด้านนอกอาคารค่ะ ซึ่งพี่พิชรับหน้าที่ทำสไลด์โชว์ภาพพรีเวดดิ้งเอง แขกก็สามารถมาถ่ายรูปได้ ถือว่าเป็นอีกกิมมิกที่ช่วยทำให้งานแต่งเราดูมีลูกเล่นขึ้นค่ะ

ชื่นใจ งานเรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

       เราสองคนประทับใจบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ใกล้ชิด เวลาอยู่บนเวทีมองลงไปก็เห็นแต่รอยยิ้มของแขก ภาพเหล่านั้นยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ โฟโต้บูธและช่างภาพก็ถ่ายภาพเราสองคนได้อารมณ์สุด ๆ อีกทั้งโชคดีที่วันนั้นฟ้าฝนเป็นใจ เพราะก่อนจัดงาน 2-3 วัน ฝนตกบ่อยมากจนเริ่มกังวล แต่พอถึงวันแต่งงาน ฟ้าสวย อากาศดี ลมโกรกตลอด ช่วงก่อนเปิดตัว บ่าวสาวที่ยืนรออยู่ข้างนอกได้เห็นวานิลลาสกายยิ่งชอบมาก รวมถึงทีมงาน ซึ่งใช้ใจทำมากกว่าหน้าที่ ช่วยให้งานเราผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

คำแนะนำบ่าว-สาว

แรกเริ่มต้องหาฤกษ์แต่งงานและสถานที่ : สองสิ่งนี้สำคัญมาก หากเราได้มาแล้ว ที่เหลือจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของงานได้ชัดเจนว่าจะเลือกธีมงานอะไร รวมถึงการหาเวนเดอร์ต่าง ๆ ด้วย

คุยให้เคลียร์ อยากให้มู้ดแอนด์โทนของงานเป็นแบบไหน : บ่าวสาวอาจมีสไตล์งานที่ชอบต่างกัน ควรหาจุดร่วมเพื่อสรุปว่าเราอยากได้งานแบบไหน เช่น พิธีการจ๋า ชิล สบาย หรือ ปาร์ตี้ เมื่อเข้าใจตรงกันจะช่วยลดการทะเลาะลงได้ และร่วมมือกันทำงานได้ไวขึ้นด้วย

เพิ่มกิมมิกให้งานมีความเป็นตัวเองมากขึ้น : การจัดงานแต่งงานเป็นหนึ่งในความทรงจำ ถ้ามีเวลาพอ ลองหากิมมิกที่สะท้อนตัวตนของคู่เรา เช่น ทำเพลย์ลิสต์เพลงโปรดไว้ช่วงคิวต่าง ๆ คิดวิธีเปิดตัว หรือกิจกรรมในงาน เมื่อเราย้อนกลับมาดูจะมีความสุขที่ได้งานในแบบที่เป็นตัวเองซ่อนอยู่ในนั้น

บ่าวสาวต้องแบ่งหน้าที่กัน : บ่าวสาวควรแบ่งหน้าที่ให้ชัดตั้งแต่แรก เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง ถ้าคนใดคนหนึ่งรับบทหนักจะรู้สึกกดดันจนเครียด เมื่อแบ่งหน้าที่แล้ว หากติดขัดอะไรควรพูดคุยกันอย่างเปิดใจ โดยระลึกไว้เสมอว่าเป็นงานของทั้งสองคน