Sriwiang Heritage House สถานที่จัดงานสไตล์โคโลเนียล รายล้อมด้วยวิวธรรมชาติ
งานแต่งครั้งนี้ เตยถือเป็นแม่งานเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะคุณแซนเดอร์ (เจ้าบ่าว) เป็นชาวต่างชาติ และพักอยู่ที่เนเธอร์แลนด์จึงไม่สามารถมาช่วยดูได้ แต่ก็มีอัพเดทผ่าน Video Call กันบ้าง
เตยเข้าไปอ่านบทความรีวิวในเว็บสบายเวดดิ้ง ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน เพื่อดูว่าบ่าวสาวคู่อื่นเขาจัดงานกันอย่างไร ไอเดียจัดงานเป็นแบบไหนและเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง พออ่านมาหลายคู่ๆ ก็รวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับงานของตัวเองค่ะ
ส่วนเหตุผลที่เลือก Sriwiang Heritage House(ศรีเวียง เฮอริเทจ เฮ้าส์) ในการจัดงานหมั้นนั้น เพราะชอบตัวบ้านที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลโทนสีสวยงามมีเสน่ห์แบบคลาสสิก ด้านหน้าของตัวบ้านกรุด้วยผนังกระจกทำให้มองเห็นวิวด้านนอก ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ส่วนเฟอร์นิเจอร์และพร็อพโทนสีไม้ในบ้าน ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นเป็นกันเองมากขึ้น ที่สำคัญ เตยชอบทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เหมาะมากสำหรับแขกที่ไม่อยากเจอรถติด และตอนไปคุยงานกันเซลล์ให้คำแนะนำที่ดีด้วยค่ะ
สวย สบายตา กับ ธีมสี Greenery และ Dusty Blue
เตยต้องการให้งานหมั้นเรียบง่ายและดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานผ่อนคลายทั้งกายและใจ สำหรับธีมสีหลักในงาน เตยเลือกสีที่แซนเดอร์ชอบคือสีฟ้าคราม (Dusty Blue) เสริมด้วยสีเขียวและสีขาว ซึ่งพอสีเหล่านี้มารวมอยู่ด้วยกัน ยิ่งทำให้งานดูสวยสบายตา
สำหรับการตกแต่งจะเน้นดอกไม้จริง ไล่เรียงมาจากด้านนอกตรงเฉลียงบริเวณทางเข้า จะมี Welcome Sign และภาพบ่าว-สาว เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน จะพบโต๊ะจัดเลี้ยงแบบ Long Table ประมาณ 3 แถว ซึ่งบริเวณนี้จะมีตกแต่งเพียงโต๊ะ Long Table ของบ่าว-สาว ที่บนโต๊ะจะใช้ผ้าผืนบางสีฟ้าคราม ส่วนด้านหน้าโต๊ะจะติดคำว่า Bride และ Groom ค่ะ นอกจากนี้ จะมีโต๊ะกลมอีก 1 โต๊ะสำหรับญาติผู้ใหญ่ ซึ่งพื้นที่นี้ใช้สำหรับทั้ง Coffee Break และมื้อเที่ยง รวมถึงมีจุดวางของชำร่วยเป็นช้อนส้อมด้วย
สำหรับชั้น 2 จะมีการตกแต่งมากกว่าชั้นล่าง พอเดินขึ้นไปปุ๊บจะเห็นฉากหลังทำพิธีที่ประดับด้วยดอกไม้และชื่อบ่าว-สาว โดยฝั่งตรงข้ามกัน จะเป็น Backdrop ถ่ายภาพค่ะ
พิธีแต่งงานแบบไทย สร้างประสบการณ์ใหม่ให้เขยต่างชาติ
แม้จะต่างวัฒนธรรม แต่แซนเดอร์ก็ไม่ต้องปรับตัวมากนัก เพราะเคยไปงานแต่งงานของเพื่อนที่ไทยบ่อยๆ จึงพอจำได้ว่ามีพิธีอะไรยังไง ก่อนวันงานมีบรีฟและนัดซ้อมคิวเพื่อเตรียมความพร้อมยังสถานที่จริง ซึ่งครอบครัวและเพื่อนคุณแซนเดอร์ต้องเข้าร่วมด้วยเพื่อให้เข้าใจธรรมเนียมบ้านเราอย่างละเอียด เช่น สินสอดคืออะไร? ขันหมากคืออะไร? แม้จะต้องใช้เวลาพอสมควรในการอธิบายเพราะต้องสื่อสารกันถึง 3 ภาษา ทั้งไทย อังกฤษและดัตช์ แต่เตยรู้สึกดีนะคะ มันเป็นอีกเรื่องราวที่น่าจดจำ และเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับฝั่งเจ้าบ่าวด้วยค่ะ
สุข สบายใจ กับ งานหมั้นบรรยากาศ Homey
สำหรับพิธีหมั้นเป็นไปด้วยความกระชับและเรียบง่าย เพราะเตยมีแขกเพียง 50 ท่านเท่านั้น และไม่มีพิธีสงฆ์เนื่องจากเจ้าบ่าวไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ พิธีการเริ่มจากแห่ขันหมาก โดยเจ้าบ่าวตั้งขบวนแห่ขันหมากที่หน้าบ้าน ผ่านการกั้นประตูเงินประตูทอง เมื่อผ่านด่านสำเร็จ เจ้าบ่าวถึงขึ้นไปเจรจากับผู้ใหญ่ที่ชั้น 2 เสร็จแล้วถึงลงมารับเจ้าสาวที่นั่งรอตรงจุดรับตัวตรงเฉลียงหน้าบ้าน และขึ้นไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน รับไหว้กัน จบพิธีเหล่านี้ถึงขยับมารดน้ำสังข์ โดยเตยเลือกมุมตรงผนังกระจก เพราะอยากให้ฉากด้านหลังระหว่างทำพิธีเป็นวิวธรรมชาติด้านนอกค่ะ
จบพิธีรดน้ำสังข์ก็เข้าสู่มื้อเที่ยง ที่บ่าว-สาวจะไปเปลี่ยนชุดให้ดูสบายๆ มากขึ้น ซึ่งระหว่างนี้ แขกสามารถรับประทาน Coffee break รอได้ โดยมีเมนูหลายอย่าง เช่น พายหมูแดง ครัวซองค์แฮมชีส แยมโรล
ขณะรับประทานอาหารมื้อเที่ยงกันนั้น เราเพิ่มคิวพิเศษด้วยการให้เพื่อนและคนในครอบครัวทั้งฝั่งเตยและเจ้าบ่าวมากล่าวสุนทรพจน์กัน เตยชอบช่วงเวลานี้มาก โดยเฉพาะตอนที่น้องสาวพูดความในใจมีแอบร้องไห้ด้วย ส่วนแซนเดอร์เองก็ชอบเหมือนกัน เพราะแขกที่มาพูดความในใจนั้นล้วนเป็นคนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนโต พอเขามาอวยพรจึงทำให้เจ้าบ่าวซาบซึ้งและอบอุ่นหัวใจ
สำหรับอาหารเที่ยง เตยเลือกเป็นเมนูไทยฟิวชั่นเสิร์ฟแบบเซ็ตเมนูค่ะ ก็มีทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย จานหลัก และขนมหวาน เช่น สเต็กหมูพริกไทยดำ มันบดเห็ดทรัฟเฟิล หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว ปลากะพงย่างซอสมะขาม ซึ่งนอกจากทุกเมนูจะตกแต่งออกมาอย่างสวยงามน่ารับประทานแล้ว แขกยังชื่นชอบรสชาติอาหารโดยรวมด้วยค่ะ
หลงเสน่ห์วัฒนธรรมไทย ได้ทั้งความอบอุ่น เป็นมิตร ชาวต่างชาติติดใจ
แม้ว่าคุณแซนเดอร์จะเป็นคนต่างชาติ แต่เขาไม่เลือกจัดงานแบบตะวันตก เพราะเขาชอบวัฒนธรรมไทยที่ดูมีเสน่ห์ อีกทั้งอยากแสดงความเคารพครอบครัวฝั่งเตยด้วยการจัดงานตามธรรมเนียมไทย นอกจากนี้ เพื่อนสนิทและครอบครัวของแซนเดอร์เองก็โอเคมากที่จะมาเมืองไทย เพราะเขาวางแผนจะไปเที่ยวกันต่อค่ะ (หัวเราะ)
หลังจบงานหมั้นแล้ว คุณแซนเดอร์ยังบอกว่าชอบพิธีแต่งงานของไทยมาก โดยเฉพาะพิธีกั้นประตูเงินประตูทองที่สนุกและมีสีสัน ซึ่งบ้านเขาไม่มีลูกเล่นอะไรแบบนี้
จัดงานแต่ง 2 สัญชาติ พิธีกร 2 ภาษาก็สำคัญ
สำหรับใครที่จะจัดงานแต่งแบบมีชาวต่างชาติเข้าร่วมด้วยนั้น เตยว่าการเลือกพิธีกรสองภาษาสำคัญมาก เพราะเขาจะเป็นตัวกลางที่ช่วยสื่อสารพร้อมให้คำแนะนำต่างๆ แก่ชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการแต่งงานแบบไทยจะมีวัฒนธรรมและความรู้ใหม่ที่ชาวต่างชาติไม่รู้อีกมาก หากได้พิธีกรสองภาษาที่ให้ความรู้อย่างมืออาชีพ และสามารถเอนเตอร์เทนแขกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในงานให้มีอารมณ์ไปในทางเดียวกันจะยิ่งช่วยให้งานราบรื่นและสนุกยิ่งขึ้น
จบงานด้วยความสุข สนุก ทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นปลื้ม
เตยชอบบรรยากาศงานหมั้นมาก เพราะมีแต่คนที่เรารักมาร่วมงาน จะมองไปมุมไหนก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเป็นกันเอง แถมได้ผ่อนคลายจากการใกล้ชิดธรรมชาติด้วย
ส่วนทางแซนเดอร์และเพื่อนของเขาก็มีความสุขมากเหมือนกัน ซึ่งมันก็มีช่วงเวลาน่ารักๆ ที่เตยชอบ ด้วยความที่เขาเป็นชาวต่างชาติ เขาก็ไม่รู้ว่ามางานแล้วจะต้องมาหยิบของชำร่วยก่อน พอมาถึงเขาก็เข้าไปกินเลย จบงานแล้ว เตยถึงต้องเอาไปให้พวกเขา (หัวเราะ) เตยมองว่าเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ เป็นเรื่องขำปนสุขใจได้นะ
เตยประทับใจทุกทีมงานที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี และบ้านศรีเวียงเป็นสถานที่แบบที่อยากได้ ทั้งมีความเป็นส่วนตัว ตลอดการทำพิธีก็ไม่ร้อน เพราะในบ้านติดแอร์ (หัวเราะ) เหมาะกับชาวต่างชาติที่อยู่แต่เมืองหนาว ที่สำคัญจัดงานที่นี่จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย โดยเฉพาะเวลาถ่ายภาพท่ามกลางแสง Daylight มันสวยปังมากค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกทีมงาน ควรดูที่ผลงานและความสบายใจ : ก่อนจัดงานแต่ง ไม่ว่าจะใช้ซัพพลายเออร์เจ้าไหน นอกจากดูผลงานเขาแล้ว อยากให้เลือกทีมงานที่ทำให้สบายใจด้วย เพราะการจัดงานแต่ง เป็นเหมือนการออกเดินทางที่พอเราเลือกแล้ว เราจะต้องคุยงานกับพวกเขาไปอีกยาว ถ้าเราเอาความสบายใจของเราเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าวันงานจะมีความราบรื่นค่ะ
Photo : Sunchai Photography