แบ่งหน้าที่งานแต่งงานระหว่างบ่าวสาวยังไง...ให้ลงตัว

Photo : Smallmoonphoto

        แต่งงานทั้งที มีอะไรให้ต้องเตรียมความพร้อมกันหลายอย่างเลยค่ะ การแบ่งงานระหว่างบ่าวสาวจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้แต่ละฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการจัดงานแต่งแล้ว ยังทำให้งานราบรื่น มีคนดูแลจัดการแต่ละเรื่องเป็นสัดส่วน

          1. เจ้าบ่าวคุมงบ เจ้าสาวใช้งบให้คุ้ม! : โดยมากแล้วเจ้าสาวมักจะเป็นฝ่ายหาสิ่งที่ชอบมานำเสนอเจ้าบ่าวค่ะ ส่วนเจ้าบ่าวก็ช่วยตัดสินใจโดยดูงบประกอบไปด้วย ส่วนนี้ถ้าเจ้าบ่าวของเราไม่ได้ออกความเห็น หรือหาอะไรมาเสนอมาก ก็ไม่ต้องคิดมากไปนะคะ ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกว่างานแต่งงานเป็นงานของผู้หญิงมากกว่า (แถมแยกไม่ค่อยออกด้วย ว่าแบบไหนคือสวยหรือไม่สวยค่ะ) เขาแค่อยากให้เราได้สิ่งที่ชอบที่สุด ฟินที่สุด ถ้าจะมีเสริมบ้าง ก็มักจะเป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทางบ้าน หรือถ้าได้คู่เป็นเจ้าบ่าวสายอาร์ต สายติสท์ อันนี้ก็ชิลล์เลย เขามีอินเนอร์เรื่องการตกแต่งชัวร์ค่ะ (เผลอๆ ทำจริงจังมากกว่าเราอีก สบายไปค่ะ)

          2. ลิสต์แขกฝั่งตัวเองมาให้ครบ : ลงดีเทลไปเลยว่าช่วงรับไหว้เราจะมีใครบ้าง โต๊ะ VIP มีใคร รวมไปถึงแขกอื่นๆ ญาติ เจ้านาย คนในที่ทำงาน เพื่อนๆ

          3. ดูแลชุดบ่าวสาวในวันแต่งงานของตัวเอง : โดยเจ้าสาวอาจใช้วิธีบอกสีหรือลักษณะชุดแต่งงานของตัวเอง แล้วให้เจ้าบ่าวหาสิ่งที่แม็ตช์กันมาค่ะ (หรือถ้าคู่ไหนไปด้วยกันได้ก็เริ่ดสุดๆ)

          4. เจ้าบ่าวช่วยตรวจเช็คหน้างาน : ยิ่งถ้าไม่ได้ใช้เวดดิ้งแพลนเนอร์ ระหว่างที่เจ้าสาวกำลังแต่งหน้า คุณเจ้าบ่าวก็สามารถใช้เวลาตรงนี้ลงไปตรวจดูหน้างานได้เลยค่ะ ให้เจ้าสาวทำเช็คลิสต์ให้ ดูว่าจุดตกแต่งครบรึเปล่า มีของพร้อมไหม อีกเรื่องที่ควรเช็คกันพลาดก็คือเรื่องการทดสอบไฟล์ แปลงไฟล์วิดีโอพรีเซนเทชั่นแต่งงานทั้งหลาย ที่สาวๆ อาจเข้าไม่ถึง ฝากรบกวนคุณเจ้าบ่าวช่วยรีเช็คอีกสักที ลดความกังวลของคู่ของคุณได้ในตัว

          สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เพราะสำคัญมาก ก็คือเรื่องการซัพพอร์ตทางอารมณ์และจิตใจค่ะ เจ้าสาวจะมีความลังเลและเซนซิทีฟกับคำคอมเม้นท์ของเจ้าบ่าวมากเป็นพิเศษ (โดยเฉพาะช่วงเตรียมงานแต่ง) เพราะฉะนั้นหากคุณเจ้าบ่าวไม่ได้ติดขัดอะไร ไม่ได้ไม่เห็นด้วย ก็ให้ตอบรับ Say Yes หรือให้ฟีดแบคกลับไป ก็จะทำให้เจ้าสาวตัดสินใจได้ง่ายขึ้น รู้สึกถึงการลงความเห็น รับผิดชอบงานร่วมกัน (ไม่ได้ลุยงานอยู่คนเดียวนั่นเอง)

          การจัดงานแต่งงานเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการดูแลกัน เป็นการตัดสินใจเรื่องใหญ่ครั้งแรกที่มีเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยว หากผ่านไปได้  ก็ถือว่าเป็นการปูทางที่ดีในชีวิตคู่เลยล่ะค่ะ