เข้าสู่ระบบสำเร็จ
ออกจากระบบสำเร็จ
บทความ
3 วิธีจัดการเรื่องฤกษ์ ตามแบบฉบับเจ้าสาวยุคใหม่

3 วิธีจัดการเรื่องฤกษ์ ตามแบบฉบับเจ้าสาวยุคใหม่

โดย SabuyWedding
5,950 Views · 11 พ.ค. 2016
3 วิธีจัดการเรื่องฤกษ์ ตามแบบฉบับเจ้าสาวยุคใหม่

เจ้าสาว,ฤกษ์แต่งงาน 3 วิธีจัดการเรื่องฤกษ์ ตามแบบฉบับเจ้าสาวยุคใหม่

       “ฤกษ์” คงจะเป็นสิ่งแรกที่บ่าวสาวหลายๆ คู่นึกถึงเมื่อจะจัดงานแต่งงาน เป็นความเชื่อแบบ Thailand only ที่แต่ละบ้านให้ความสำคัญและเคร่งครัดไม่เท่ากัน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ่าวสาวยุคใหม่ยังคงยึดถือเรื่องฤกษ์ยาม และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เหมือนแต่ก่อนรึเปล่า จากการสัมภาษณ์บ่าวสาวมาหลายคู่ เราสรุปได้แบบนี้ค่ะ

          1.บ่าวสาวสายชิลล์ อันนี้เป็นตัวอย่างคนรุ่นใหม่ที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ บ่าวสาวกลุ่มนี้ที่ไม่สนใจเรื่องฤกษ์มากนัก และถ้าคุณพ่อคุณแม่ก็สมัยใหม่ ไม่สนใจเรื่องฤกษ์ผานาที บ่าวสาวกลุ่มนี้ก็จะได้ไฟเขียวอย่างเต็มที่ ในการจัดเรื่องเวลาทุกอย่างตามต้องการ เช่น ถ้าเจ้าสาวอยากตื่นสายๆ หน่อยสัก 9 โมงเช้า เธอก็จะกำหนดให้พิธีการต่างๆ อยู่ในช่วงบ่ายแทน ตื่นมากินข้าว ใช้เวลาแต่งหน้าประมาณ 3 ชม. (รวมกินข้าวกลางวัน) และเริ่มพิธีแต่งงานตอนบ่าย 2  

ข้อดีที่เราชอบมากก (ก.ไก่ร้อยตัว) คือไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องเลี้ยงข้าวกลางวัน
ปล. เท่าที่ทราบมา ตัวจริงของคู่นี้ก็ยังรักกันดีอยู่นะคะ (และแอบสวีทมากๆ ด้วย)

          2.บ่าวสาวสายเคร่ง อันนี้นอกจากที่บ้านจะถือเรื่องฤกษ์ยามมากแล้ว ตัวบ่าวสาวเองก็มีความเชื่อเรื่องนี้สูง รู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างตามเวลาเป๊ะ พิธีแต่งงานมีทั้งหมด 3 วัน (เป็นพิธีแต่งงานแบบจีน) ก็กำหนดไปเลยว่าให้มีอากู๋ 1 ท่านคอยดูนาฬิกาตลอด รถเจ้าบ่าวตอนเข้าบ้าน ต้องจอดหันไปทางทิศไหน  ก้าวขาอะไรเข้าบ้านก่อน ตามพิธีบอกว่าตอนกินข้าวเจ้าสาวไม่ควรพูด เพราะจะได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน  เพื่อนเราที่เคยเป็นคนร่าเริงคุยเก่ง ก็เปลี่ยนเป็นสาวเงียบขรึมซะอย่างนั้น จนเพื่อนๆ ในกลุ่มดูแล้วรู้สึกอึดอัดแทน แต่เจ้าสาวบอกทำแล้วสบายใจ ซึ่งอันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

           3. บ่าวสาวสายชิลล์ แต่พ่อแม่ไม่ชิลล์ คิดว่านี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นเยอะที่สุด เพราะพ่อแม่ยังถือเรื่องฤกษ์ยาม แต่รุ่นลูกๆ สบายๆ อยากทำพิธีตามตารางเวลาที่สะดวกเป็นหลัก ถ้าเป็นแบบนี้บ่าวสาวอาจจะอึดอัดอยู่บ้าง วิธีจัดการจึงมักเป็นการพูดคุยแบบประณีประนอม โดยทำตามฤกษ์บางอย่างที่พ่อแม่พูดถึงแบบไม่เลิกรา และบางอย่างก็ละเว้นไว้บ้าง ตามใจบ่าวสาวเพื่อความสะดวก เช่น คุณแม่เจ้าบ่าวบ้านนึง ถือเรื่องฤกษ์ปรองดองมาก บอกว่าเจ้าสาวต้องเข้าบ้านเวลา 11 โมง ตามฤกษ์ที่ซินแสให้มา จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ ทั้งๆ ที่งานนั้นมีพิธีหมั้นที่โรงแรมกลางเมืองตอน 9 โมงเช้า ส่วนบ้านเจ้าบ่าวอยู่ชานเมืองเกือบถึงสุพรรณ แต่สุดท้ายบ่าวสาวก็ต้องยอมกลับบ้านตามฤกษ์ และเดินทางกลับมาแต่งหน้าแต่งตัวที่โรงแรมอีกทีสำหรับงานเลี้ยงช่วงเย็น  เพื่อจะได้ไม่เป็นประเด็นติดใจคุณแม่สามีในอนาคต
          ส่วนฤกษ์ที่บ่าวสาวไม่ทำตาม คือฤกษ์ส่งตัวที่บ้านเจ้าบ่าวก่อนเที่ยงคืน (อย่างกับซินเดอเรลล่า) เพราะอยากจัดเต็มกับช่วง After Party เลยขอใช้สิทธิค้างที่โรงแรมดีกว่า โดยให้เหตุผลว่าเดี๋ยวขับรถไม่ปลอดภัย ก็เป็นการพบกันครึ่งทาง ให้ทั้งพ่อแม่และบ่าวสาวได้ในสิ่งที่ต้องการ

          สุดท้ายถึงบ่าวสาวจะจัดการเรื่องฤกษ์ด้วยวิธีไหน แต่ส่วนตัวเชื่อว่า การแต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การแสดงออกของคนสองคนตอนอยู่ร่วมกัน  ซึ่งน่าจะสำคัญกว่าเรื่อง ‘เราสวมแหวนนาทีที่เท่าไหร่’  ‘ใช้น้ำมนต์จากวัดไหน’

         พิธีการต่างๆ ที่มี ก็เพียงเพื่อให้เราได้รับรู้ถึงความปรารถนาดีจากคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นถ้าคุณพ่อคุณแม่จะจริงจังกับเรื่องไปสักหน่อย ก็อย่าลืมยิ้มไว้ ทำใจร่มๆ เดี๋ยวทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีเองค่ะ

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

แชร์บทความนี้ไปที่

บทความที่เกี่ยวข้อง
อยากได้ไอเดียเพิ่ม? ลองดูบทความอื่นๆ สิคะ
วางแผนจัดงานแต่ง
12 เรื่อง อย่าหาทำในงานแต่ง!
โดย SabuyWedding
8,211 Views · 24 ม.ค. 2024
Slide 1 of 69
รวมไอเดียแต่งงานและร้านค้าคุณภาพ
ติดตามเราได้ที่
สำหรับผู้ใช้งาน
รวมสินค้า&บริการสถานที่แต่งงานรวมไอเดียบทความ
ติดตามเราได้ที่
ติดต่อทีมงาน Sabuy Wedding
© 2020 SabuyWedding All rights reserved.
คัดลอกลิงค์สำเร็จ