พิธีหมั้นแสงธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศ Rooftop @SO Sofitel Bangkok (SO/ BANGKOK)
งานแต่งงานของอิ๊บ เราจัดทั้งหมด 3 ช่วงด้วยกันค่ะ มีพิธีหมั้น, Sit down lunch, Sit down dinner เหตุผลหลักที่เลือกสถานที่แต่งงานที่ SO Sofitel Bangkok (SO/ BANGKOK) (โรงแรมโซ แบงคอก) เพราะธีมงานของเราเหมาะกับโรงแรมนี้มาก ทุกอย่างตอบโจทย์ อย่างพิธีหมั้น เราอยากได้บรรยากาศ Outdoor เขาก็มีส่วน Rooftop ตรงชั้น 29 เป็นร้าน Park Society ให้จัดได้ จากที่ตอนแรกทีมโรงแรมเซอร์ไพรส์กันหมด เพราะบ่าวสาวส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่นี้ในการจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราก็เปลี่ยนมาจัดงานหมั้นกันค่ะ
พิธีการช่วงนี้ เราอยากให้กระชับ เรียบง่าย เลยจัด Sequence ให้เป็นการกั้นประตู สวมแหวนหมั้น ยกน้ำชา โดยมีโจทย์ว่าเราอยากจัดเวทีให้เห็นวิวของสวนลุมที่อยู่ด้านหลังพอดี Backdrop จุดนั้นต้องไม่บังวิวข้างหลังของเรา เวลาถ่ายออกภาพออกมา จะได้ติดพื้นหลังสีเขียวของสวนทั้งหมดเลย
โชคดีที่ทีมตกแต่งของเรามีเทสต์ในการเลือก การจัดวางดี เป็นมืออาชีพ เขาจัดดอกไม้ออกมาให้ดูเป็นสไตล์ฝรั่ง ด้วยเฉดสีส้มที่บ่าวสาวชอบ พอมาบวกกับคาแรกเตอร์เจ้าสาวที่ไม่ใช่สายหวานๆ แต่ชอบอะไรแนวเปรี้ยวเก๋ ดอกไม้ก็จะออกมาแนวแปลกตาหน่อย ไม่ได้เป็นทรงกลมเหมือนงานอื่นๆ เสมอไปค่ะ
เพราะคุณคือแขกคนสำคัญที่สุด
ส่วนงาน Sit down lunch กับ Sit down dinner เราใช้ห้องบอลรูมตรงชั้น 8 ทั้งสองช่วง ต่างกันนิดเดียวตรงที่พิธีหมั้นจนถึงเลี้ยงกลางวัน เราจัดด้วยแนวคิดที่อยากจะขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ แต่งานเลี้ยงเย็นจะเน้นเป็นเพื่อนๆ เน้นความรักระหว่างคู่บ่าวสาวมากกว่า
คีย์เวิร์ดของเราคืออยากทำเซ็ตติ้งให้เหมือนการทานข้าวใต้แสงเทียน ให้งานได้อารมณ์อบอุ่น เป็นกันเอง ไม่พิธีการมาก ประกอบกับเราเชิญแขกไม่เยอะ ช่วงละ 145 คน เมื่อคิดว่าจัดงานเล็ก เลยอยากให้สถานที่ดูพิเศษที่สุด ที่ SO Sofitel Bangkok (SO/ BANGKOK) จึงตอบโจทย์
สถานที่แต่งงานสุดเป๊ะ เข้ากับคอนเซ็ปต์แบบฝรั่ง
ที่รู้สึกว่าเพอร์เฟ็กต์มากคือห้องบอลรูมที่นี่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้จัดโต๊ะ Sit down ได้ง่าย อินทีเรียของโรงแรมก็โมเดิร์น เป็นจุดขายของเขาซึ่งตรงกับภาพที่เราอยากสื่อ ได้อารมณ์แบบฝรั่ง ตัวห้องจะสีเทา ขรึมๆ หน่อย แต่ดูไม่อึดอัด เสริมบรรยากาศคนที่อยากจัดงานสไตล์เราได้ดี บ่าวสาวสมัยใหม่น่าจะชอบ พวกรายละเอียดเรื่องเครื่องเสียงก็ดีเลยค่ะ เทียบกับโรงแรมอื่นๆ 4-5 ดาว ที่นี่ถือว่าใหม่ และชนะเลิศในด้านนี้ เซลล์กับเซอร์วิสที่ได้รับก็แฮปปี้เลย
การตกแต่งในส่วนนี้ เราจัดโต๊ะยาวสองฝั่ง มีแค่แบ็คดรอป ไม่มีเวที สิ่งที่เราอยากเน้นเป็นพิเศษคือความรู้สึกของคนที่ให้เกียรติมาร่วมงาน อยากให้เขารู้สึกเซอร์ไพรส์ อย่างการ์ดแต่งงานกับ Backdrop เราจะมินิมอลมาก โทนขาวดำ ทำเป็นลายเซ็นเรียบๆ แขกก็คิดว่างานนี้ต้องเรียบตลอดทั้งงานแน่ๆ แต่พอเดินเข้ามาถึงด้านใน เขาจะเห็นเลยว่าเรามีการจัดวางดอกไม้เป็นแนวยาว บรรยากาศมืดๆ เน้นความอบอุ่นของแสงเทียน มีเพลงแจ๊สประกอบ แล้วเราเตรียมพนักงานเชิญแขกเข้ามาทีละคน บนโต๊ะมีป้ายชื่อของแต่ละท่าน มีโลโก้ของเราบนจาน
ทุกรายละเอียดคือความใส่ใจ
อาหารที่จัดเลี้ยง เราเสิร์ฟแบบ Western 4 คอร์ส โดยเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทางโรงแรม ใช้เป็นซีฟู้ด เมนคอร์สทั้งงานกลางวันและเย็นจะเป็นปลา ต่างกันที่การปรุง เราเทสต์เองทั้งหมด และขอให้ทางโรงแรมช่วยปรับให้ ซึ่งเขาก็ให้ความร่วมมือได้ดีมาก
เครื่องดื่มเราเสิร์ฟน้ำสมุนไพรซิกเนเจอร์ของโรงแรม เป็นน้ำอัญชัญสีม่วง ช่วงกลางวันมีไวน์แดง ส่วนช่วงเย็นเป็นไวน์ขาว อยากให้แขกอิ่มอร่อย และประทับใจที่สุดค่ะ
ของชำร่วยภายในงาน เราใช้ปากกาสีทองยี่ห้อ HAY (HAY Bullet Pen / Gold) ซึ่งครอบครัวเจ้าสาวเป็น Distributor เจ้าเดียวในเมืองไทย ตัวแบรนด์จะขายเฟอร์นิเจอร์กับ accessories จากเดนมาร์ก ในไทยมีขายที่ Siam discovery ชั้น 3 ค่ะ
ส่วนชุดเจ้าสาว งานเช้าเราอยากให้ดูคลาสิก ด้านหน้าจึงเรียบๆ แต่เล่นดีเทลให้มีเส้นพาดที่ด้านหลัง งานกลางวันเลือกใช้เกาะอกดีไซน์โค้ง กระโปรงแบบสุ่มบาน เท็กซ์เจอร์ผ้ามีลายเฉพาะตัว สำหรับงานเย็น อิ๊บใช้ชุดสายเดี่ยวงานปัก บานตรงช่วงปลายคล้ายทรงหางปลา สีออกครีม ฝั่งเจ้าบ่าวงานเช้าเขาใช้สูทโทนเทา ให้ดูเบาๆ ส่วนงานเย็นก็เปลี่ยนเป็นสูทดำโบว์ไทด์ ให้เข้ากับบรรยากาศของงานค่ะ
พิธีการเรียบง่าย ได้ความเป็นกันเอง
พิธีการช่วงเลี้ยงเที่ยง คนที่นั่งด้านหน้าเวทีจะเป็นบ่าวสาวและครอบครัว เราเริ่มกันด้วยการเดินเปิดตัวก่อน หลังจากนั้นจึงเปิดวิดีโอพรีเซนเทชั่นพรีเวดดิ้ง มีการกล่าวสปีชจากญาติๆ บ่าวสาวกล่าวขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็เป็นการตัดเค้ก มอบเค้ก
ส่วนงานเย็น แขกเป็นเพื่อนสนิทของเราทั้งสองฝั่ง เราเริ่มจากการเปิดตัว ชมวิดีโองานเช้า เสร็จแล้วเป็นการกล่าวสปีชจากเพื่อนสนิท ปิดท้ายด้วยบ่าวสาวพูดถึงกันและกัน โดยเราเปลี่ยนการตัดเค้กช่วงนี้ เป็นการรินแชมเปญ แล้วต่อด้วย First dance ค่ะ
การเตรียมงานทั้งหมดนี้ อิ๊บไม่ได้ใช้ Wedding Planner บ่าวสาวเราชอบงานอาร์ต งานแฟชั่น มีความต้องการชัดเจน พอรู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากได้งานโทนไหน ก็เลยเลือกจัดเองดีกว่า ส่วนที่เราเลือกจ้างคือทีมรันคิว แนวคิดของเราคืออยากเลือกทำในสิ่งที่เรามีความสุขจริงๆ โดยที่ไม่ได้ฉีกแนวเกินไป ให้ความต้องการในการจัดงานมาจากบ่าวสาวเอง ไม่ต้องตามแพทเทิร์นเป๊ะๆ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา เรากำหนดได้เองค่ะ
ฟีดแบคจากงานนี้เกินคาดมากๆ แขกผู้ใหญ่แฮปปี้ อิ่มเอมกับบรรยากาศ สัมผัสถึงความแปลกใหม่ โดยมากจะกล่าวว่าไม่เคยไปงานแบบนี้ จัดออกมาได้สวยงาม ทุกอย่างมีรายละเอียด หลายคนเอ่ยปากว่าเป็นงานที่ดีที่สุดที่เคยไปมาเลย ไม่เหมือนงานอื่นๆ มีทั้งความอบอุ่น เรียบง่าย กันเอง แถมอาหารอร่อย ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมดค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
(เจ้าบ่าว) แบ่งงบส่วนหนึ่งไว้ใช้กับช่างภาพ : เพราะสิ่งที่เหลืออยู่หลังจบงานก็คือภาพให้เราดู อย่างของเรา เราใช้หลายทีมมาก ทั้งทีมหลักทีมแคนดิด เลือกจากความชอบ เน้นให้ได้ภาพหลายมุม จากหลายๆ สไตล์ที่แต่ละทีมถ่ายออกมาแตกต่างกัน
(เจ้าสาว) หาให้เจอว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร : งานเราอยากได้แบบไหน Sit down หรือค็อกเทล แล้วคุยกับทางบ้าน เรื่องพิธีการ อะไรทำได้ไม่ได้ ให้รู้ขอบเขต อย่ากลัวที่จะทำอะไรแตกต่างจากคนอื่น เพราะการจัดงานมันคือการทำให้แขกประทับใจก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมที่จะคงความชอบ ความเชื่อของบ่าวสาวและครอบครัวไว้ด้วยเหมือนกัน