7 เรื่องฤกษ์แต่งงานที่คุณต้องรู้
วันแต่งงานสำหรับคนไทยเรามักยึดวันฤกษ์ดีเป็นหลัก แต่บางครั้งวันฤกษ์ดีก็อาจจะมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างในการจัดงานแต่ง ซึ่งนำพาความปวดหัวมาให้กับว่าที่บ่าวสาว เราจึงอยากแบ่งปันความรู้ ความเข้าใจที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับฤกษ์แต่งงาน
1. ฤกษ์ดีที่ได้ เหมือนๆ กันทุกคู่ คุณคงคิดว่าเมื่อเอาวันเดือนปีเกิดของเราทั้งคู่ไปดูดวง วันดีที่ได้มาคงจะเป็นวันดีเฉพาะของเราเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว วันแต่งงานของบ่าวสาวแต่ละคู่ส่วนใหญ่จะซ้ำกัน เพราะการดูฤกษ์ยังคงอิงกับวันมงคลตามปฏิทิน ซึ่งในปีหนึ่งๆ ฤกษ์ดีมีอยู่ไม่กี่วัน ดังนั้นเมื่อได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ให้เลือกวันและรีบจองโรงแรมด่วนๆ เพราะยังมีอีกหลายคู่ที่จ่อคิวแต่งงานวันเดียวกับเรา
2. ฤกษ์ดีไม่ได้มีวันเดียว คุณสามารถขอวันแต่งงานกับพระหรือซินแส สำรองเผื่อไว้ 2-3 วัน เพื่อเป็นทางเลือก แล้วให้เลือกจากความสะดวกของตัวคุณเอง พร้อมกับเช็คสถานที่แต่งงานและร้านค้าอื่นๆ ที่คุณอยากใช้บริการ วันไหนที่รู้สึกสะดวกและทำให้คุณรู้สึกแฮปปี้มากกว่าก็เลือกวันนั้นค่ะ
3. การถามนำช่วยได้ ในกรณีที่ว่าที่บ่าวสาวมีวันเจาะจงในใจ เช่น อยากให้วันแต่งงานของเราตรงกับเสาร์ - อาทิตย์เท่านั้นแขกจะได้เดินทางสะดวก เราสามารถใช้คำถามถามนำเพื่อถามพระหรือซินแสได้ “ซินแสคะ มีวันเสาร์ - อาทิตย์ไหนที่ฤกษ์ดี เหมาะกับคู่เราบ้างคะ” เพียงเท่านี้ ซินแสก็จะทราบความต้องการของคุณ และเลือกวันที่ตรงกับที่คุณต้องการมาให้
4. เน้นการขอ “ช่วงเวลาดี” หรือ “วันที่ดีทั้งวัน” เนื่องจากบ่าวสาวยุคใหม่ไม่ค่อยถือฤกษ์ผานาที ว่าต้องเป๊ะเหมือนคนสมัยก่อน ความคิดข้อนี้อาจทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งกับผู้ใหญ่บางท่านซึ่งเคร่งครัด เพราะกลัวลูกหลานไม่เป็นมงคล เพื่อป้องกันปัญหานี้ ตอนที่ขอฤกษ์ดี ให้บ่าวสาวขอฤกษ์แต่งงานที่เป็นช่วงเวลาแทนการขอเวลาเป๊ะๆ เพื่อไม่ให้กดดันบ่าวสาวมากเกินไป และให้เกิดความสบายใจกับผู้ใหญ่ที่หวังดี
5. เลี่ยงฤกษ์ปลายปี บ่าวสาวส่วนใหญ่มักจะเลือกเอาฤกษ์แต่งงานปลายปีเพราะคิดว่าจะได้มีเวลาเตรียมงานนานๆ แต่จริงๆ แล้วเจ้าสาวที่จะแต่งงานงานปลายปียิ่งต้องเตรียมงานตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะปลายปีเป็นช่วง High season ของการแต่งงาน การจองสินค้าและบริการต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานคิวจะแน่นเป็นพิเศษ การตัดสินใจเลือกใช้บริการต่างๆ จึงต้องรวดเร็ว ดังนั้นใครที่พอเตรียมงานแต่งไหวสนับสนุนให้จัดช่วงกลางปีไปโลด
6. การแยกวันพิธีการกับวันฉลองออกจากกัน ช่วยลดความเครียด ฤกษ์ที่เป็นมงคลต่างๆ ที่ผู้ใหญ่ค่อนข้างเคร่งคือ พิธีการช่วงเช้า ไม่ว่าจะเป็นการแห่ขันหมาก สวมแหวน หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พิธีรับตัว - ส่งตัว งานแต่งงานในช่วงเย็นถือเป็นการเลี้ยงฉลอง เรื่องเวลาจึงไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นมงคลมากนัก ถ้าวันที่คุณได้ฤกษ์มาเป็นวันดีสุดๆ คุณว่าที่เจ้าสาวที่ยังหาสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองไม่ได้ ให้ลองใช้วิธีแยกพิธีหมั้นช่วงเช้า ซึ่งใช้ห้องขนาดเล็กกว่า หาสถานที่ง่ายกว่าออกจากงานเลี้ยงช่วงเย็น เพื่อที่จะยังคงฤกษ์ที่ทำให้พ่อแม่สบายใจ แล้วเลือกวันจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเป็นวันอื่น ซึ่งหาสถานที่ได้ง่ายแทน
7. แก้ปัญหาฤกษ์ชนกับปีชง ถ้าฤกษ์ดีชนกับปีชง อย่าเครียดไป ถ้าชงก็ให้แก้ชงค่ะ โดยสามารถสอบถามกับซินแสหรือพระได้เลยว่า จะต้องแก้ชงอย่างไร แก้ชงแล้ว ก็เดินหน้าเตรียมงานแต่งต่อไปไม่ต้องนอยค่ะ
เรื่องฤกษ์แต่งงานนั้นจะสำคัญแค่ไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่สำคัญกว่าฤกษ์นั้นก็คือ ความสุขและความรักที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวมีให้แก่กัน และเมื่อได้ฤกษ์แต่งงานแล้วอย่าลืมมอบความรักให้กันอย่างสม่ำเสมอทุกวันนะจ๊ะ
แชร์บทความนี้ไปที่
บทความที่เกี่ยวข้อง
