งดงามละเมียดละไม พิธีไทยในบ้าน งานฉลองที่Plaza Athénée Bangkok
งานหมั้นกับงานฉลองของน้ำหวาน เราจัดแยกวันกันค่ะ เพราะคุณแม่ท่านเป็นสาย Traditional อยากให้อิงจากสมัยโบราณที่คนไทยจะต้องหมั้นกันก่อน ทิ้งระยะ ดูใจ แล้วค่อยแต่งงาน ดังนั้นงานทั้งสองของเราจึงจัดห่างกันประมาณ 3 เดือน งานหมั้นเราจัดที่บ้าน ส่วนงานฉลองเลือกสถานที่แต่งงานที่ Plaza Athénée Bangkok (พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ)
ในส่วนของงานหมั้นที่จัดที่บ้าน น้ำหวานจะมีคุณแม่เป็นแม่งานหลัก และมีทีมออแกไนซ์คอยช่วย แขก 200 คน คอนเซ็ปต์เราเน้นความเป็นกันเอง ฝั่งญาติเจ้าสาวเราจะให้ใส่ธีมสีชมพู ส่วนฝั่งเจ้าบ่าวเป็นสีฟ้า การตกแต่งใช้ดอกไม้ทั้งสดและประดิษฐ์ ในส่วนของดอกไม้ในแจกันก็ได้ญาติๆ และครอบครัวคนสนิทมาช่วยจัดให้ โดยจุดที่ใกล้คนมากๆ ก็จะเป็นดอกไม้สดทั้งหมด ตรงบริเวณจัดพิธี เราจะใช้กล้วยไม้ฟาแลนสีอ่อนๆ ส่วนโลโก้เพื่อนสนิทเป็นคนออกแบบให้ค่ะ
พิธีการของเราจะชูโรงที่ขันหมาก พานฝั่งเจ้าบ่าวก็สั่งทำมาอย่างดี นำวงดนตรีจริงๆ มาเล่น มีกลองยาวครบชุด ทางฝั่งน้ำหวานไฮไลท์อยู่ที่ประตูเยอะ เลยโดนไปหนักมาก (หัวเราะ) เพราะแต่ละประตูไม่ใช่เล่นๆ ญาติบางท่านถึงขนาดเอาประตูมาเองด้วยเลยค่ะ
หลังจากที่ฝ่าหลายๆ ด่านกันมาแล้ว ประตูสุดท้ายจะเป็นน้องชาย ซึ่งจะไปรับน้ำหวานลงมา แล้วต่อด้วยพิธีหมั้นซึ่งคือสวมแหวนอย่างเดียว ยังไม่จัดรดน้ำ เพราะตามความเชื่อรดน้ำจะถือว่าแต่งงานแล้วค่ะ
ครบเครื่องเรื่องความอร่อย
ฟีดแบคของงานหมั้นนี้ นอกจากเรื่องบรรยากาศที่อบอุ่นแบบครอบครัวจริงๆ แขกยังชมเรื่องอาหารกันมาก เพราะคุณแม่คัดมาแต่ร้านเด็ดเจ้าดัง อร่อยทุกอย่างตั้งแต่ซูชิ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูกรอบหมูแดง มาการอง Pinkberry ไปจนถึงขนมครก จัดเต็ม วาไรตี้สูงมาก หลากหลายสุดๆ เลย (หัวเราะ)
รวบยอดพิธีการ งานจัดเลี้ยง @Plaza Athénée Bangkok
ถัดจากนั้นเราก็จัดงานที่ Plaza Athénée Bangkok (พลาซ่า แอทธินี กรุงเทพ) เหตุผลที่เลือกสถานที่แต่งงานที่นี่ เพราะรองรับแขกของเราได้ดี มีทีมงานมืออาชีพค่ะ เราเริ่มจากพิธีรับไหว้ รดน้ำ ต่อด้วยงานฉลองตอนเที่ยง มีแขกประมาณ 700 คน
พิธีการจะมีสองช่วง คือรับไหว้เริ่มตั้งแต่ 9 โมง เชิญแต่ญาติผู้ใหญ่ ซึ่งปกติเขาจะเรียกทีละคู่ แต่งานของเราแขกเยอะเกือบ 100 คน เลยต้องเรียกทีละ 3 คู่เลย ส่วน 11.30 น. เป็นต้นไปจะเป็นแขกเพื่อนๆ และคนที่ทำงานค่ะ
ธีมงานฉลองของเราจะดึงมาจากความชอบของบ่าวสาวเรื่องการดำน้ำ จึงใช้เป็นธีมใต้ทะเล การจัดงานทุกอย่างน้ำหวานก็พยายามทำให้รวบรัดที่สุด อย่างเวทีกับ Backdrop เราก็รวมเป็นจุดเดียวกันเลย ทำให้ทุ่มงบได้เต็มที่ ทั้งสวยและใหญ่ พอเปลี่ยนจากจุดถ่ายรูปด้านนอกมาเป็นเวที ก็ทำให้แขกไม่ต้องต่อแถวกันด้านนอกงาน ทุกคนมารวมตัวด้านในจริงๆ
การตกแต่งส่วนนี้จะเห็นได้ว่ามีผ้าขาวๆ ทำเป็นเลเยอร์ ไล่ชั้นระดับสูงต่ำดูมีมิติ แทนความหมายของฟองคลื่น พวกดอกไม้ที่ใช้ทั้งหมดก็จะดูคล้ายๆ ปะการังค่ะ
สุดยอดไอเดียของชำร่วย
ของชำร่วยเราไม่อยากให้ชิ้นใหญ่ พกยาก งานนี้เราเลยทำสติกเกอร์ไลน์มาให้โหลด เป็นรูปมาสคอตที่ถอดคาแรกเตอร์มาจากเราสองคนเลย ที่มามาจากนิกเนมที่ใช้เรียกกัน ของคุณเจ้าบ่าวเป็นลาบลาดอร์ ส่วนน้ำหวานเป็นบันนี่ ทุกคนแฮปปี้ ใช้ง่าย โหลดง่าย น่ารัก และสำหรับผู้ใหญ่บางท่าน เราก็มีเยลลี่รูปหัวใจเตรียมไว้ให้ค่ะ
การจัดเลี้ยงของน้ำหวานเป็นค็อกเทล แล้วเติมบูธอาหารเข้าไปประมาณ 6 บูธ ที่ป็อปปูล่าร์ที่สุดคืออาหารญี่ปุ่น เรานำเข้ามาจากข้างนอก ราคาดี ปริมาณเยอะ แต่ทางทีมแพลนเนอร์ก็แนะว่าควรเอาไว้ในสุด เพราะคนจะได้เดินเข้าไปในงาน แถวยาวก็ดูไม่น่าเกลียด แขกจะได้เห็นอาหารตรงอื่นด้วยค่ะ
บรรยากาศแห่งความอบอุ่น
พิธีการช่วงกลางวันนี้ เริ่มจากเปิดตัวเจ้าบ่าว หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็จะพาน้ำหวานไปส่งค่ะ จังหวะนั้นเจ้าบ่าวเขาก้มลงไปกราบคุณพ่อคุณแม่ที่พื้น เขาบอกเราว่าคิดในทางกลับกันว่าถ้าเขาเป็นพ่อเป็นแม่บ้าง มีลูกสาวคนเดียว เขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ถือเป็นอีกหนึ่งโมเม้นท์ซึ้งๆ ในงานเลย
พอเดินขึ้นเวทีไปแล้วก็จะมีประธานอวยพร พิธีกรเป็นเพื่อนของเราเอง มีสัมภาษณ์กันนิดหน่อย ดื่มไชโย และรับประทานอาหาร
น้ำหวานรู้สึกว่าการจัดงาน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เป็นเหนื่อยที่คุ้มค่าจริงๆ ทุกอย่างออกมาสวยงาม ฟีดแบคที่ได้จากแขกก็ดี รู้สึกเลยว่าทุกคนมาแสดงความยินดีกับเราจริงๆ เพื่อนๆ ญาติๆ ฝั่งเจ้าบ่าวก็ต้อนรับเราอย่างดี เป็นหนึ่งวันที่เราจะได้เจอทุกคนในฐานะครอบครัวเดียวกันอย่างครบถ้วนจริงๆ
แนะนำบ่าวสาว
ห้ามเครียดเลยค่ะ : เพราะบางเรื่องไม่เป็นไปตามที่เราคิด ก็มีแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ อย่างงานน้ำหวานเอง ธีมเราเป็นธีมทะเล น้ำหวานก็ไปสั่งปลาบินมา กะจะเอามาหลอกล่อเด็กๆ หลานๆ ปรากฏทำออกมา มันบิน แต่บินไปติดแชนเดอเลียบ้าง หล่นบ้าง ไม่เป็นไปตามที่เราแพลนเลย แต่สุดท้ายคนที่รู้ก็มีแค่เรา เราก็ช่างมัน ไม่งั้นจะไม่แฮปปี้ โอเค...ไม่บินก็ไม่บิน (หัวเราะ)