รีวิวงานแต่งสไตล์ Warm & Natural สวยเรียบง่ายได้กลิ่นอายความอบอุ่น @ The Botanical House Bangkok

The Botanical House Bangkok สถานที่แต่งงานร่มรื่น แขกได้ชื่นชมธรรมชาติ

       เราจัดพิธีแต่งงานที่ The Botanical House Bangkok(เดอะ โบทานิคอล เฮ้าส์)ค่ะ สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเราทั้งคู่มีไลฟ์สไตล์เหมือนกันคือชอบความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น

และพื้นที่เปิดโล่ง บวกกับก่อนหน้านี้เราเคยไปงานแต่งเพื่อนซึ่งจัดที่นี่เหมือนกัน พอได้สัมผัสบรรยากาศจริงๆ ยิ่งชอบในบรรยากาศที่แฝงกลิ่นอายความอบอุ่น ผ่อนคลาย ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ก็คิดในใจมาตลอดว่าถ้าถึงตาเราบ้างจะเลือกที่นี่ กระทั่งถึงคิวเราก็ตัดสินใจทันทีโดยไม่ไปดูที่อื่นเลยค่ะ

บรรยากาศอบอุ่นด้วยสีเอิร์ธโทนและการตกแต่งด้วยของน้อยชิ้น

       ส่วนตัวเป็นคนชอบสีแนวธรรมชาติจึงเลือกสีเอิร์ธโทน อย่าง สีเขียว สีน้ำตาลและสีส้มอิฐ มาเป็นสีหลักในการจัดงาน ซึ่งเรามองว่าโทนสีทั้งหมดนี้ดูเข้ากันได้ดีกับสวนสีเขียว และยังสร้างบรรยากาศงานให้ดูอบอุ่นได้อีกด้วยค่ะ 

       สำหรับการตกแต่ง เราลดทอนความซับซ้อน วุ่นวาย เน้นใช้ของน้อยชิ้นเพื่อความเรียบง่ายเป็นกันเองและเพื่อผสมผสานกับบรรยากาศรอบข้าง ภายในงานและจุดต่างๆ อย่างตรงป้าย Welcome sign มินิแกลอรี่รูปพรีเวดดิ้ง โต๊ะลงทะเบียน Backdrop ถ่ายภาพหลัก จึงมีแค่ไม้ดอกไม้ประดับ เช่น ใบปาล์มแห้งและดอกไม้ชนิดต่างๆ ค่ะ โดยได้ทางสถานที่ตกแต่งให้ทั้งหมดด้วย และต้องบอกว่าทางสถานที่มีจุดเด่นในเรื่องของความสวยงามในตัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของประดับตกแต่ง รูปทรงและโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่อินดอร์ที่ดูดีมีสไตล์ ขณะที่สวนด้านนอกก็ให้ฟีลธรรมชาติ รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งทำให้เราแทบไม่ต้องตกแต่งอะไรเยอะเลยค่ะ

จัดงานช่วง COVID19 ได้ปลอดภัย ใช้วิธีจัดกลุ่มแขก แบ่งแยกเป็นสัดส่วน

       วันที่เราแต่งงานเป็นช่วงที่มี COVID19 พอดี ยอมรับเลยว่าการเตรียมงานทำให้ปวดหัวเหมือนกัน เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา เราต้องมาตั้งสติและเลือกสิ่งที่ทำได้ก่อน อย่างการเลือกของชำร่วยหรือการออกแบบการ์ดแต่งงาน ส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างเรื่องสถานที่นั้น เราจะคุยอัพเดทกับทางเจ้าของสถานที่เสมอ เพื่อจะได้รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร พอทำอะไรได้บ้าง 

       ด้านจำนวนแขกก็เป็นเรื่องกวนใจเช่นกัน เพราะช่วงนี้จะมีข้อจำกัดเรื่องการรวมตัวที่ห้ามเกินกว่าที่รัฐกำหนดไว้ ซึ่งตอนนั้นเราต้องพิมพ์การ์ดแจกแขกแล้ว จำนวนคนต้องชัดเจน จึงได้แก้ปัญหาด้วยการจัดกลุ่มแขกที่เชิญไว้สองร้อยท่าน แบ่งกันให้มาคนละช่วงเวลาไปเลย โดยตอนเช้าซึ่งเป็นพิธีทางการจะเน้นเฉพาะแขกญาติผู้ใหญ่ ส่วนพิธีฉลองจะเน้นแขกที่เป็นเพื่อนกันเสียส่วนมากค่ะ

       ถึงแม้จะมีอุปสรรคระหว่างการจัดงานอยู่บ้าง แต่เราก็อุ่นใจเพราะสถานที่ได้รักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID19 อย่างเข้มงวด อีกทั้งยังมีการบริการที่ดี ใส่ใจ เราได้เห็นถึงความแอคทีฟในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้รู้ตลอดเวลา และที่สำคัญยังปรับรูปแบบการจัดงานให้ได้ตามที่ต้องการในช่วงสถานการณ์นี้ด้วยค่ะ

พิธีการกระชับ เรียบง่าย ได้ความสุข ทุกช่วงเวลา

       เราจัดงานแต่งพิธีไทยจีน หมั้นเช้าและเลี้ยงฉลองช่วงเย็น สำหรับพิธีการเช้านั้นเริ่มตั้งแต่ 08.00 น.ค่ะ จะเป็นพิธีแห่ขันหมากผ่านพิธีกั้นประตูเงินประตูทอง ก่อนเจ้าบ่าวจะไปที่ห้องหมั้นเพื่อเจรจาสู่ขอ เสร็จแล้วถึงมารับตัวบุษที่นั่งรออยู่ที่สวนค่ะ จากนั้นก็เข้าสู่พิธีหมั้นสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ค่ะ 

       ถึงลำดับพิธีการนี้เราก็มีปรับเปลี่ยนนิดหน่อย โดยสลับพิธีเป็นรดน้ำสังข์ขึ้นมาก่อนพิธีรับไหว้ เนื่องจากพิธีรดน้ำสังข์เราจัดที่สวนด้านนอกกลัวว่าอากาศจะร้อนเกินไปสำหรับแขกค่ะ ซึ่งการตกแต่งส่วนพิธีรดน้ำสังข์จะประดับแค่โลโก้ชื่อบ่าวสาวสีขาวไว้ด้านหลังจุดวางชุดตั่งรดน้ำสังข์เท่านั้นและทางสถานที่ก็ได้จัดวางเก้าอี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับแขกที่มานั่งรอคิวรดน้ำสังข์ด้วยค่ะ 

       แล้วเมื่อเสร็จพิธีนี้ทั้งแขกและบ่าวสาวก็จะกลับไปห้องหมั้นเพื่อทำพิธีรับไหว้ ยกน้ำชาก็เป็นอันจบพิธี จากนั้นก็เป็นช่วงทานเลี้ยงที่จัดเป็นบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารไทย สปาเก็ตตี้ สเต๊ก โดยห้องทานอาหารเที่ยงจะใช้เป็นห้องเดียวกับพิธีเลี้ยงฉลองช่วงเย็นเลยค่ะ

       สำหรับพิธีเลี้ยงฉลองช่วงเย็นจะเริ่มราวๆ 17.30 น. แขกเริ่มมาลงทะเบียนและถ่ายภาพคู่กับบ่าวสาวที่ Backdrop ที่ดีไซน์ตกแต่งด้วยดอกไม้ที่ห้อยลงมาจากเพดานและโลโก้ชื่อบ่าวสาวเท่านั้น ซึ่งจุดนี้จะอยู่หน้าห้องเลี้ยงฉลองเลยค่ะ ส่วนจุดลงทะเบียนก็จะอยู่ไม่ไกลจากกัน ตรงนี้แขกที่มางานจะได้รับของชำร่วยเป็นสเปรย์การ์ดแอลกอฮอล์ขนาดพกพาที่มาพร้อมกระเป๋าห้อยใบเล็กแบบฉบับ DIY ด้วยนะคะ โดยที่เราเลือกของชำร่วยเป็นแบบนี้เพราะอยากให้ทุกคนนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในสถานการณ์ปัจจุบันค่ะ

       ในส่วนการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารทั้งงานตอนเช้าและตอนเย็นจะเหมือนเดิมเลย จะมีทั้งแบบโต๊ะกลมและแบบโต๊ะยาว ซึ่งจัดวางขนาบกันระหว่างทางเดินตรงกลางห้อง ส่วนอาหารเย็นก็เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม ต่างกันในแง่ของรสชาติที่เน้นรสจัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มแขกที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและมีประเภทอาหารที่เพิ่มมากขึ้นค่ะ

       ตลอดเวลาที่งานดำเนินไปเรื่อยๆ นั้นจะมีการเล่นดนตรีสดเคล้าคลอบรรยากาศให้ดูรื่นรมย์ขึ้น กระทั่งแขกมาจนครบถึงเปิด VDO Presentation และเมื่อ VDO จบแล้ว บุษและเจ้าบ่าวถึงเดินเข้าไปในห้องยังโต๊ะ Family long table ที่มีคุณพ่อคุณแม่ของเราสองคนนั่งรออยู่ ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดแทนเวทีเลยค่ะ และเมื่อเราไปถึงตรงโต๊ะแล้ว พิธีกรซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเราก็พูดเข้าพิธีการสำคัญ มีสัมภาษณ์บ่าวสาวนิดหน่อย ประธานกล่าวอวยพรและต่อด้วยตัวแทนเพื่อนทั้งสองฝั่งออกมาพูด 

       หลังจากจบช่วงสัมภาษณ์ก็เป็นการรดน้ำต้นไม้ที่เราเลือกแทนการตัดเค้ก เพื่อความหมายที่เป็นสิริมงคล อีกทั้งต้นไม้ยังสามารถนำกลับไปปลูกที่บ้านต่อได้ด้วย ซึ่งต้นไม้ที่เลือกคือต้นยางอินเดียด่างเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่สามารถปลูกอยู่อินดอร์ได้ด้วย แล้วเมื่อเสร็จจากพิธีนี้บุษกับเจ้าบ่าวก็จะเชิญแขกไปทำพิธีดึงริบบิ้นจากช่อบูเก้กันตรงสวนด้านนอก โดยเพื่อนเจ้าสาวจะตั้งวงล้อมเพื่อมาดึงริบบิ้นและรอลุ้นกันว่าใครจะได้ช่อบูเก้นี้ไป จากนั้นก็จะเข้าสู่งานกึ่ง After Party ที่ทุกคนได้ปลดปล่อยความสนุกได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ

ดั่งวันครอบครัว เป็นงานรวมตัวที่มีแต่คนรัก

       ช่วงที่เราประทับใจคงเป็นการเห็นรอยยิ้มจากญาติผู้ใหญ่และคนในครอบครัวที่มาร่วมงาน แน่นอนว่าพอมีสถานการณ์ COVID19 การพบเจอกันมันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน ฉะนั้นงานแต่งของเราจึงเปรียบเสมือนวันรวมญาติ วันที่ทำให้ทุกคนมาเจอกัน ได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์ท่ามกลางความสุขอบอวลไปทั่วพื้นที่ค่ะ 

       ความประทับใจต่อมาคือเรื่องอาหาร เรามองว่าอาหารเป็นตัวหลักของการจัดงานเหมือนกันนะคะ หากอาหารไม่อร่อยก็จบ ซึ่งอาหารของ Botanical นั้นรสชาติดีเลย เราจึงอยากให้คนที่มางานนี้มีความสุขไปกับเมนูอาหารต่างๆ เหมือนที่เรารู้สึกด้วย และสุดท้ายไม่พูดถึงไม่ได้คือโมเม้นต์ประทับใจจากเพื่อนสนิทของเราที่เป็นกลุ่มเดียวกัน นึกย้อนกลับไปวันนั้นทุกคนเต็มใจและสละเวลาส่วนตัวในการมาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มาทั้งวันซ้อมวันจริง แล้วยังช่วยเตรียมงาน ดูแลความเรียบร้อยไม่มีขาด ทำให้เรายิ่งปลื้มใจที่เห็นถึงความรักความเสียสละจากเพื่อนๆ ค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

ติดตามสถานการณ์ COVID19 : เราไม่มีทางรู้เลยว่าสถานการณ์ COVID19 จะจบลงเมื่อไหร่ ฉะนั้นหากใครมีแพลนจะแต่งงานช่วงนี้จัดได้นะคะ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรที่เราสามารถควบคุมได้ก็ให้ทำไปก่อน ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ก็พักไว้ แล้วคอยเช็คข่าวสาร อัพเดทสถานการณ์เป็นระยะ ถ้าเห็นจังหวะที่น่าจะจัดได้ก็จัดเลย แต่อย่าลืมรักษามาตรการตามประกาศของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของแต่ละคนด้วยนะคะ ถ้ากังวลและเครียดมากจริงๆ ก็อย่าจัดดีกว่า

ประเมินว่าทำเองไหวไหม หากไม่ ก็ต้องใช้ผู้ช่วย : บ่าวสาวคู่ไหนรู้ตัวแล้วว่าน่าจะยุ่ง ไม่มีเวลาในการตัดสินใจทุกๆ อย่าง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการให้งานแต่งราบรื่นด้วย การพึ่งตัวช่วยหรือจ้าง Wedding planner ในการจัดงานแต่งงานก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยประหยัดเวลาและลดความตึงเครียดของคู่บ่าวสาวไปได้เยอะเหมือนกันค่ะ