รีวิวงานแต่งแบบไทยโมเดิร์น ธีม Rustic Wedding @A’ La Campagne Pattaya

A' La Campagne Pattaya สถานที่แต่งงาน รายล้อมด้วยต้นไม้ อากาศและแสงแดด

       เนื่องจากสถานการณ์ COVID19 ทำให้ตองต้องเลื่อนงานแต่งงาน จึงมีเวลาเตรียมงานมากขึ้น งานนี้ตองจัดเป็นพิธีหมั้นเช้าและเลี้ยงฉลองบ่ายในวันเดียวกัน โดยเลือกสถานที่เป็น A' La Campagne Pattaya (อะลาคัมปาน พัทยา) เพราะไม่ไกลจากบ้านของตองที่อยู่สัตหีบ แล้วตองก็เคยมาร้านนี้หลายครั้ง รวมถึงตองมีความฝันอยากจัดงานแต่งแบบเอาท์ดอร์ เพราะชอบความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โทนภาพของงานที่ได้จะดูมีชีวิตชีวาและสามารถสร้างลูกเล่นจัดงานได้มากกว่า 

       นอกจากนี้ทางสถานที่ยังสามารถรองรับจำนวนแขกได้ตามต้องการประมาณ 250 ท่าน มีการตกแต่งร้านที่สวยผสมผสานความเป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว ที่สำคัญทางร้านรับจัดงานแต่งอยู่แล้ว มีบริการค่อนข้างครบวงจร ทั้งการตกแต่ง ให้เช่าสถานที่ มีอาหารอร่อยด้วย ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของเขา ทำให้ตองหมดห่วงเลยค่ะ

ขาวและส้มอิฐ สองสีที่ผสานธรรมชาติได้อย่างลงตัว

       ตองให้ความสำคัญกับบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง จึงไม่ได้ออกแบบตกแต่งที่หวือหวาอะไร จะเน้นเข้าถึงง่ายและรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า จึงเป็นเหตุผลที่แม้มีธีมสีหลักอย่างสีขาวและสีส้มอิฐ แต่บางส่วนของการตกแต่งจะมียืดหยุ่นบ้างตามความเหมาะสม เช่น การตกแต่ง Backdrop ทั้ง 3 ชิ้นงาน ได้แก่ Backdrop จุดทำพิธี,Backdrop ถ่ายภาพ และ Backdrop หน้าเวที ตองใช้ดอกไม้สีขาวเป็นหลักแซมด้วยใบไม้สีเขียวค่ะ 

       และเนื่องจากตองใช้ทีมตกแต่ง 2 ทีม ก็เลยอยากสร้างสีมาตรฐานให้เขาตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน จะได้ช่วยคุมโทนง่ายขึ้น ดังนั้นสีส้มอิฐจึงถูกใส่ลงไปในส่วนอื่นแทน อาทิ ชุดพานขันหมาก ชุดเพื่อนเจ้าสาว ฯลฯ 

       ในส่วน Backdrop ที่เป็นจุดขาย จะเป็น Backdrop ถ่ายภาพหลักที่มีความโมเดิร์นบนความสร้างสรรค์ ด้วยการออกแบบเป็นวงกลมซ้อนกัน อันหนึ่งแบบทึบ อีกอันแบบตาข่ายทำจากวัสดุเหล็กพ่นสีทอง ถูกตั้งวางส่วนเอาท์ดอร์ โดยไม่ไกลกันนักจะมีมินิแกลอรี่แนวยาวตลอดทางเดินไปจนถึงจุดลงทะเบียนที่เมื่อแขกลงทะเบียนแล้ว จะได้รับของที่ระลึกเป็นพวงกุญแจที่ตองทำเองหมดจากการใช้ผ้าของแบรนด์กระเป๋าตัวเองค่ะ

จัดงานงามอย่างไทย เรียบง่ายและอบอุ่น

       สำหรับกำหนดการพิธีเช้า เริ่มด้วยการตักบาตรทำพิธีสงฆ์ประมาณ 7:00 น เสร็จแล้ว ถึงเริ่มขบวนแห่ขันหมาก โดยเจ้าบ่าวจะมารับตัวเจ้าสาวที่นั่งรออยู่ตรงสวน จากนั้นถึงเดินเข้ามาทำพิธีในห้องที่อยู่ในส่วนของส้มตำวิลล่าอีกที 

       ในส่วนห้องทำพิธีนี้จะเล็กหน่อย จุแขกได้เพียง 50 ท่าน เสร็จแล้วก็ต่อด้วยทำพิธีสวมแหวน มอบสินสอดและรับไหว้ ก็จบพิธีตรงจุดนี้ค่ะ หลังจากนี้เราก็จะย้ายออกไปด้านนอก เพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์ที่ตั้งตั่งอยู่ในสวนเป็นพิธีสุดท้ายของงานเช้าค่ะ

       หลังจบช่วงพิธีเช้า บ่าวสาวก็จะไปเปลี่ยนเป็นชุดสำหรับงานฉลองค่ะ ซึ่งระหว่างนี้แขกทั้งหมดสามารถจับจองที่นั่งเพื่อรับประทานอาหารมื้อเที่ยงได้เลย ตองจัดวางโต๊ะแบบ Long Table มีทั้งส่วนอินดอร์ในพื้นที่ส้มตำวิลล่าสำหรับแขกผู้ใหญ่ และส่วนเอาท์ดอร์สำหรับเพื่อนๆ ซึ่งตองจัดเลี้ยงอาหารเป็นค็อกเทลบุฟเฟต์ค่ะ

       หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ได้เวลาเปิดตัวบ่าวสาวอย่างเป็นทางการ เราสองคนจะเดินเข้างานผ่านเพื่อนเจ้าสาวเพื่อขึ้นไปบนเวทีขนาดมินิที่ตั้งอยู่ส่วนเอาท์ดอร์ จากนั้นประธานก็จะมากล่าวอวยพร และเป็นช่วงมีโมเม้นต์บ่าวสาวพูดความในใจถึงกันเล็กน้อย ต่อมาเราก็จะเดินไปตัดเค้ก โยนดอกไม้ แล้วก็จบงานอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้ก็มีเก็บตกถ่ายภาพร่วมกันกับแขกบ้าง แต่เบ็ดเสร็จแล้วไม่เกิน 15:00 น. ค่ะ

แค่งานราบรื่น ทุกคนชื่นมื่น นั่นคือที่สุดของความประทับใจ

       ตองประทับใจที่วันนั้นแขกทุกคนตั้งใจมางานจริงๆ แม้ว่าเราต่างรู้ดีถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID19 แต่ทุกคนเต็มใจที่จะมาร่วมแสดงความยินดี บางคนมาตั้งแต่เช้า เข้าร่วมแทบทุกพิธี ทำให้ตองตื้นตันใจและมีความสุขมากๆ งานวันแต่งงานนั้น ตองสามารถทำทุกพิธีการได้อย่างสบายใจไม่มีอะไรให้วิตกกังวลเลยค่ะ

       ส่วนอีกมุมหนึ่งตองรู้สึกโชคดีที่ได้เจอซัพพลายเออร์แต่ละเจ้าที่มีความรับผิดชอบและคอยสนับสนุนช่วยเหลือให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างเช่น คุณฟิล์ม ที่เป็นช่างภาพของงานนี้ ก็มีความเอาใจใส่ในทุกดีเทลมาตั้งแต่เช้า เพื่อเลือกหามุมดีๆ และทำให้ภาพวันนั้นตรงตามที่ตองหวังไว้ หรืออย่างชุดเจ้าสาวงานหมั้นและงานเลี้ยง 2 ชุดของตองก็ถูกใจมาก ชุดงานเลี้ยงนั้นเป็นชุดแบรนด์ NICHp ที่ตองเล็งมานานมากตั้งแต่ที่ร้านไปออกบูธในงาน Sabuywedding Festival ที่พารากอน ตองจองแพ็กเกจเลย นับจากวันนั้นจนถึงวันที่แต่งงาน จริงๆ ก็ถือว่านานอยู่ค่ะ(หัวเราะ) 

แนะนำบ่าวสาว

เมื่อเราชัดเจน การทำงานก็จะง่ายขึ้น : บ่าวสาวควรชัดเจนในเรื่องสไตล์งานของตัวเอง อย่าลังเล เพราะถ้าตัวเราเองยังไม่ชัด จะส่งผลให้การทำงานร่วมกับคนอื่นเป็นไปได้ยากลำบาก และจะช้ากว่าเดิมด้วย ที่สำคัญเมื่อคนร่วมงานไม่เข้าใจในสิ่งที่เราสื่อ เขาจะไม่สามารถตอบโจทย์ให้เราได้อย่างแท้จริง 

ดูฤดูให้แมทช์กับสถานที่แต่งงาน : เมื่อได้ฤกษ์แล้ว ให้ดูว่าวันจัดงานตรงกับฤดูใด เพราะหากบ่าวสาวชื่นชอบงานเอาท์ดอร์ แต่ได้ฤกษ์มาช่วงฤดูฝนก็อาจต้องมีแผนสำรองเพื่อรับมือกับความเสี่ยง หรือต้องปรับประยุกต์สถานที่ให้ใกล้เคียงกับที่ใจอยากได้ไหมก็ต้องลองพิจารณาดูค่ะ

ใช้ซัพพลายเออร์เจ้าไหน ควรดูผลงานเขาให้เยอะ : ก่อนจะใช้ซัพพลายเออร์ อยากให้ดูผลงานของเขาให้มากๆ เพื่อจะได้นำมาคิดต่อว่าเจ้านั้นๆ มีสไตล์งานที่สอดคล้องกับความชอบเราหรือเปล่า เพราะถ้าได้ซัพพลายเออร์ที่ตรงใจ จะยิ่งช่วยหนุนภาพรวมของงาน รวมถึงบ่าวสาวให้ดูดีมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่าเราแต่งงานครั้งเดียวก็จริง แต่ภาพและความทรงจำวันนั้นยังอยู่กับเราอีกนานค่ะ