งานหมั้นเช้า สีขาวทอง @Swissotel Nai Lert Park Bangkok
งานหมั้นช่วงเช้า นุ่นเลือกสถานที่แต่งงานเป็นที่โรงแรม Swissotel Nai Lert Park Bangkok (สวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค) ค่ะ ได้ยินมาว่าเขามีสวนภายในที่สวยมาก พอได้ไปดูสถานที่ด้วยตัวเองจริงๆ ก็ยิ่งรู้สึกถูกใจไปกันใหญ่ โชคดีที่เราได้ฝั่งที่เป็นศาลาไทยด้วย เลยจัดงานทั้งหมดได้สะดวกมาก ไล่สเต็ปไปตามพิธีได้โดยที่ไม่ต้องย้ายของไปมา ยกเว้นตอนเลี้ยงพระที่ต้องขยับกันไปในห้องเท่านั้นเอง
ส่วนธีมสีที่นุ่นใช้คือ โทนสีขาว ทองค่ะ เพราะฉะนั้นดีเทลทุกอย่างจะถูกจัดเป็นสีขาวหมด แม้แต่พรมที่ทางโรงแรมเสนอให้ใช้เป็นพรมไทย นุ่นก็ขอเปลี่ยนเป็นพรมขนมิ้งค์สีขาวแทนจะได้เข้ากับธีม แขกคนไหนที่ได้รับการ์ดเชิญของเราไป จะสามารถสังเกตเห็นได้ว่าตรงแบ็คดรอปจะมีลักษณะเหมือนการเอาการ์ดแต่งงานออกมาขยายใหญ่ ไอเดียนี้เราประยุกต์ใช้ทั้งกับงานเช้าและงานเย็น ซึ่งทั้งสองแบบจะมีการเลือกใช้สีสันและคำบรรยายที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับธีมสีที่เรากำหนดไว้เลยค่ะ
แบ็คดรอปงานเย็น จุดเด่นอยู่ที่ซ่อนไฟ LED
ตอนแรกงานเลี้ยงเย็นเราอยากจัดเป็นธีมสีขาว ดำ เพราะเป็นสีที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบด้วยกันทั้งคู่ค่ะ แต่เพราะเกรงใจผู้ใหญ่ เลยรู้สึกว่าถ้าปรับไปเป็นสีขาว เทา เงินน่าจะโอเคกว่า ซึ่งก็ถือว่าเป็นธีมสีที่ล้อไปกับงานเช้าที่เป็นขาว ทอง ดีเหมือนกัน ช่วงพาร์ทนี้ แบ็คดรอปจะต่างกับตอนเช้า โดยเฉพาะตรงชื่อบ่าวสาวจะมีไฟ LED ซ่อนไว้ที่ด้านหลัง ตัวอักษรทำจากโลหะสีเงิน เวลาถ่ายรูปออกมาแล้ว ดูมีลูกเล่นสวยงามดี ส่วนพื้นแบ็คดรอปนุ่นก็ตั้งใจเลือกให้เป็นแบบด้าน ไม่ขึ้นเงาเหมือนงานอื่นๆ เรียกว่าขอเก็บหมดให้สวยครบถูกใจเราในทุกรายละเอียดเลยค่ะ
พรีเวดดิ้งก็เท่ได้ ไม่ต้องหวาน
บริเวณหน้างานจะมีภาพพรีเวดดิ้งประกอบอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่คู่เราไม่ชอบถ่ายภาพเอ้าท์ดอร์ตามสถานที่ธรรมชาติ เลยขอเลือกแบบที่ใช่ ในสไตล์ที่เป็นตัวเองดีกว่า พอตั้งคอนเซ็ปต์ไว้ว่าเราอยากได้แนวดาร์กๆ เท่ๆ ในโทนขาวดำ ก็เลยเกิดเป็นไอเดียตามมาว่าจะจัดภาพทั้งหมดให้เหมือนอยู่ในนิทรรศการศิลปะค่ะ ภาพส่วนใหญ่จะเป็นอารมณ์แหวกแนก ฉีกกฎภาพพรีเวดดิ้งอยู่สักหน่อย คือจะไม่ค่อยยิ้ม เน้นเท่ๆ ใส่เสื้อหนังบ้าง ใส่สูทแม็ตช์กับกางเกงขาสั้นบ้าง และตลอดทั้งงานแทบจะไม่มีดอกไม้ประดับอยู่เลย นุ่นจะเน้นไปที่การใช้พรมสีขาวปูเป็นแนวยาวแทนมากกว่า คนที่เคยมาโรงแรมนี้แล้ว จะรู้สึกได้ถึงมุมที่แตกต่างออกไปจากเดิมค่ะ
ส่วนเรื่องลำดับพิธีการต่างๆ ภายใน เราจัดไว้ให้จบเร็วมาก เพราะอยากจะเน้นไปที่ความสนุกในช่วง After Party มากกว่า แพทเทิร์นที่คู่แต่งงานส่วนใหญ่เขาทำกัน อันไหนเราเลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยง ไม่อยากให้บรรยากาศออกมาดูจำเจน่าเบื่อ อย่างการไชโยให้บ่าวสาวแล้วค่อยดื่มเราก็ตัดออก โชคดีที่ประธานเข้าใจ ก็บอกแค่ว่าให้ดื่มให้เจ้าสาวเจ้าบ่าวก็พอ แต่จังหวะนั้นบังเอิญว่ามีเด็กเล็กอยู่ในงานด้วย อายุน่าจะประมาณ 3 ขวบ เขาได้ยินเสร็จ แล้วเขาก็โพล่ง ‘ไชโย’ ออกมาคนเดียวดังๆ กลายเป็นซีนที่ประทับใจและอยู่ในความทรงจำมากๆ เพราะน่ารักสุดๆ ทุกคนพากันหลุดขำหมดด้วยความเอ็นดูค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ใช้เครือข่ายจากคนที่เรารู้จักก่อน : อย่างแพลนเนอร์ที่นุ่นใช้ก็เป็นคนที่เคยจัดงานให้พี่สาวแฟนนุ่นมาก่อนค่ะ พวกการ์ดที่เราทำ เราก็ให้ญาติที่ทำเกี่ยวกับโรงพิมพ์ช่วยจัดพิมพ์ให้ เหมือนเราได้อุดหนุน ได้ช่วยเหลือ และเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ยิ่งแน่นแฟ้นไปในตัว เป็นอะไรที่ดีมากๆ เลย
แต่งทั้งทีเอาให้ดีที่สุด : เคยได้ยินมาว่า ถ้าเลือกซื้อชุดเช้าชุดเย็นในที่เดียวกัน อาจจะประหยัดเงินได้มากกว่า แต่สำหรับนุ่น นุ่นคิดว่าเราเลือกแยกร้านไปเลยก็ได้ค่ะถ้าชอบคนละแบบ ทุ่มทุนหน่อย เอาแบบที่ใส่ได้ แล้วดูสวยด้วย ถูกใจเราไว้ก่อนดีที่สุด
ได้ฤกษ์ช้าก็ไม่เป็นปัญหา : แค่บ่าวสาวคุยกัน เข้าใจกัน มีเหตุผลให้กันว่าทำไมเราถึงเลือกแบบนี้ ทำไมถึงไม่เลือกแบบนี้ แล้วเคลียร์ให้จบเป็นเรื่องๆ ไป ก็ไม่มีอะไรให้ปวดหัวหรือกลุ้มใจแล้วค่ะ