Le Méridien Bangkok สถานที่จัดงานสุดชิค สไตล์โมเดิร์น
ผมกับเจ้าสาว (คุณเบล) เราเลือกจัดงานแต่งงานที่โรงแรม Le Méridien Bangkok (เลอ เมอริเดียน กรุงเทพ) ครับ ตอนแรกเราไปดูมาหลายที่มากๆ เกือบ 30 โรง แต่ไฟนอลที่นี่ เพราะสถานที่เขาตรงใจ แบ่งโซน ได้ตามคอนเซ็ปต์ของเรา
ตัวห้องเขาเพดานสูงโปร่งถึง 9 เมตร มีชั้นลอยที่สามารถมองเห็นบรรยากาศภายในงานทั้งหมดได้ ข้อดีของจุดนี้คือทำให้เราจัดโซนที่นั่งให้กับแขกผู้ใหญ่ VIP และแขกวัยรุ่นได้เลย จัดงานแนวปาร์ตี้ขนาดไหนก็ไม่กวนกัน แถมยังสามารถถ่ายภาพจากชั้นลอยลงมาได้ ทำให้ได้ภาพมุมสูง แปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วยครับ
สำหรับการเดินทาง ตัวโรงแรมจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีศาลาแดง ส่วนรถไฟใต้ดินจะเป็นสถานีสามย่าน หากแขกเยอะก็ไม่ต้องกังวลเพราะ ที่จอดรถที่รร เขาก็มีเพียงพอถึง 200 คัน นอกจากนั้นรร มีการประสานงานกับ รร. ใกล้เคียง สำหรับสำรองที่จอดรถให้กับแขกที่มาจัดงานซึ่งรองรับได้อีกมากถึง 400 คัน โดยไม่เสียค่าจอดรถเพิ่มเติม ด้วยแขกของผม 300 คนก็ไม่ได้มีปัญหานะครับ ไม่มีใครบ่นเรื่องการวนหาที่จอดรถเลย
โทนโดยรวมของโรงแรมนี้น่าจะถูกใจบ่าวสาวสายโมเดิร์น ที่อยากจัดงานได้อารมณ์วัยรุ่น เพราะเขาตกแต่งมีสไตล์ ตั้งแต่ออกจากลิฟท์ก็จะเจอทางเดิน Illuminating ที่ตื่นตายาวถึง 10 เมตร ถัดมาจะเป็นโซนที่ดูเป็นกึ่งบาร์ ห้องบอลรูมก็ไม่เหมือนที่อื่นเลย มีแพทเทิร์นที่สวยงามชัดเจน แชนเดอเลียมีเอกลักษณ์
จัดงานสบายใจ ไร้กังวลด้วยทีมงานมืออาชีพ
อีกเรื่องที่ประทับใจคือเซลล์ที่นี่มีเซอร์วิสมายด์ ใส่ใจ และตอบคำถามได้ดีครับ ตัวผมเองเป็นช่างภาพอยู่แล้ว (Chakkrit Maduang) เลยผ่านงานแต่งมามาก ผมจะเน้นถามสิ่งที่ทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งบางสถานที่เขาก็จะมีข้อจำกัดแบบของเขา แต่ที่ Le Méridien Bangkok เขายืดหยุ่นได้โอเคเลย เราจุดพลุกระดาษแบบแรงได้ แล้วเขาก็ยืดเวลาอาฟเตอร์ปาร์ตี้ให้เราด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอาหารที่เขาให้คำแนะนำได้ดี เราจัดบุฟเฟ่ต์สำหรับผู้ใหญ่ 80 ท่านบนชั้นลอย เพราะเน้นให้ทานอิ่ม ส่วนชั้นล่างเป็นค็อกเทลกับซุ้มอาหารอื่นๆ ที่สั่งเพิ่ม เพราะแขกวัยรุ่นจะเน้นเครื่องดื่มมากกว่า งานนี้เราจัดเต็มแอลกอฮอล์ 10 ลัง เบียร์อีก 3 ถังใหญ่
อาหารที่ไม่ควรพลาดของที่นี่คือข้าวมันไก่ครับ เป็นทีเด็ดเลย เราสั่งท็อปอัพเฉพาะอย่างนี้ไปเกือบ 300 จาน นอกจากนั้นในตัวห้องจะมีเตาเทปันเหมือนครัวเปิด ทีมเชฟของโรงแรมทำกันสดๆ โชว์วัตถุดิบ และปรุงอาหารให้เห็นกันเลย เรามีสั่งแฮมเบอร์เกอร์ แล้วก็สปาเก็ตตี้ที่เพื่อนๆ ชมกันเยอะครับ
ดีไซน์งานให้ถ่ายรูปสวยได้ทุกจุด
แนวทางการจัดงานของผม คือเราอยากให้แขกที่มาได้อารมณ์เหมือนมาเที่ยวผับ เราตั้งใจให้มีพิธีการน้อยที่สุด เพื่อเข้าสู่งานปาร์ตี้ให้เร็วที่สุด การจัดพื้นที่เน้นให้กว้าง โต๊ะเก้าอี้มีไม่มากนัก รับกับความมันส์ที่กำลังจะเกิดขึ้นครับ
คอนเซ็ปต์งานของเราเป็น ‘Into the galaxy’ เวลาแขกเดินเข้างานมาจะเจอกับรูปขนาดใหญ่ก่อน แล้วจะเจอซุ้มทางเข้าที่ห้อยไฟ LED สีขาวเป็นวงกลมไว้ เหมือนเดินเข้าไปในหมู่ดาว แถมจุดนี้ยังมีประโยชน์หลายอย่าง เช่นเรื่องของการถ่ายรูป เวลาใช้กล้อง Professional ก็จะเกิดเป็น Bokeh (วงกลมลอย) ทำให้ดูสวยงามครับ
ถัดเข้ามาอีกนิดจะเป็นจุดลงทะเบียน เราเลือกของชำร่วยเป็นปฏิทิน เพราะงานเราเป็นงานสิ้นปี อยากให้ทุกคนได้ใช้ปฏิทินกันในปีหน้า เป็นแบบพกพาง่าย ไซส์มินิเลยครับ อีกฝั่งนึงจะเป็น Backdrop งานแต่ง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานนี้ ภาพพื้นหลังเป็น galaxy สีฟ้าส้มชมพูที่ผมลงทุนซื้อรูปมาทำ แล้วเรายังทำไวนิลตรงพื้นให้ต่อเนื่องกันไปด้วย เวลาถ่ายภาพออกมา ไม่ว่าจะแนวตั้งแนวนอน ก็จะเหมือนยืนบนสเปซที่เป็น galaxy ทั้งหมดเลย
สำหรับจุดอื่นๆ จะมีพวกกรอบรูปที่เราวางไว้ตรงเคาน์เตอร์ และแสตนดี้จำลองทั้งแบบเดี่ยวแบบคู่ตามจุดต่างๆ ให้เพื่อนๆ ที่รอถ่ายรูปกับเรา ไปถ่ายรูปกับมุมเหล่านี้ก่อนได้ครับ นอกจากนี้จะมีจุดเขียนอวยพรบนรูป 30 นิ้ว มาเซ็นกันตรงนี้ได้ด้วย ซึ่งผลออกมาคงสนุกกันมาก เละไปหมดเลยครับ (หัวเราะ)
งานสุดกระชับ รับอาฟเตอร์ปาร์ตี้มันส์ๆ
พิธีการของเราเริ่มจากการเดินเปิดตัว ตั้งแต่หน้า Backdrop เข้าไปเลย ซึ่งเรามีกองเชียร์เยอะมาก เพื่อนยืนปรบมือให้ตั้งแต่บาร์ด้านนอก ระหว่างทางที่เดินไป เราเจอใครก็แวะทัก แอบแนะนำบ่าวสาวเผื่อไว้ตรงนี้ ว่าซีนนี้ต้องห้ามเดินเร็วนะครับ ไม่อย่างนั้นช่างภาพจะเก็บภาพไม่ทัน ช้าไว้ ยิ้มไว้ ไม่ต้องกังวลครับ
หลังจากเข้างานก็จะมีประธาน เป็นพี่ชายที่ผมเคารพขึ้นไปกล่าวอวยพรสั้นๆ ยกแก้วโทสต์กัน ไม่ถึง 5 นาทีก็จบแล้วครับ (หัวเราะ) ถัดมาเราก็เทแชมเปญ ตัด Croquembouche ขนมซิกเนเจอร์ของโรงแรม แทนการตัดเค้ก ซึ่งบอกเลยว่าอันนี้อร่อยมาก เลือกสีตามต้องการให้เข้าธีมได้ด้วย อย่างของงานเราก็ใช้สีน้ำเงินชมพูครับ
ท้ายสุดเจ้าสาวจะโยนดอกไม้ ส่วนเจ้าบ่าวโยนกล่องเหล้า แต่ไม่ว่าใครจะรับได้อันไหน รางวัลจะเป็น Double Black ครับ (หัวเราะ) ซึ่งของเพื่อนเจ้าบ่าวจะต้องได้ดื่มแบบเพียวๆ 5 วิด้วย เป็นการเปิดตัว ปิดด้วยบูมสวนกุหลาบให้บ่าวสาว ตามธรรมเนียมของโรงเรียนเราครับ
พอเข้าช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เจ้าสาวของเราก็จะไปเปลี่ยนชุด เป็นเดรสขาว ร้อยไฟ LED ให้กะพริบเปลี่ยนสีได้ตรงชายกระโปรง ส่วนเจ้าบ่าวถอดสูทใส่แต่กั๊ก มีพร็อพเป็นแว่นตาครับ
ช่วงนี้แสงสีไฟจะมาเป็นผับ ผมเปิดตัวด้วยการร้องและเต้นเพลง Heartbreaker ของ G-Dragon เป็นการเปิดตัว ส่วนดนตรีเราเน้นเพลงยุค 90’s ให้เหมาะกับสาวๆ สลับกับเพลงร็อกให้ได้อารมณ์มันส์ๆ งานยิงยาวถึงเที่ยงคืนครึ่งเลยครับ
งานนี้สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือเราอยากให้ทุกคนสนุก แล้วมันก็ออกมาได้ตามนั้นจริงๆ ทุกคนเต้นกันสุดตัว ให้ความร่วมมือกันดีมาก ขอบคุณพี่ๆ ช่างภาพหลักของเราทั้ง 3 ท่าน (Cheeranat Chiarakul , Eakkorn Weerawong , Oat Thitiphun) เพื่อนๆ ที่มาช่วยเก็บภาพนิ่งและทีม Cinema ด้วย เป็นสุดยอดทีมโปรดักชั่นจริงๆครับ
แนะนำบ่าวสาว
อย่าลืมเช็คไฟที่เวที : เพื่อความชัวร์ว่าจะได้ภาพที่ดี ไม่ควรใช้ไฟแบบที่ผสมสีเยอะๆ ครับ เพราะจะทำให้ถ่ายภาพยาก ช่วงนี้ใช้ไฟเคลียร์ๆ โทนสีขาวดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าสลับสีไปมา มองด้วยตาอาจจะสวย แต่ทำให้ได้รูปที่ไม่สวยครับ
ดูผลงานจากพอร์ท : โดยเฉพาะช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ว่างานของเขาตรงกับคอนเซ็ปต์ สไตล์ที่เราอยากได้ไหม หรือเขาเคยมีประสบการณ์ในการทำแบบนั้นมาก่อนรึเปล่า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ