U Sathornสถานที่แต่งงานสวยสบาย ได้อารมณ์เป็นส่วนตัว
แพรวมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า ก่อนถึงวันงานจริงประมาณ 8 เดือนค่ะ เราเริ่มจากหาสถานที่กันก่อน ซึ่งไปลงตัวที่ U Sathorn (ยู สาทร) เพราะส่วนตัวแพรวเองไม่ได้อยากได้สถานที่หรือโรงแรมที่เป็นตึก แต่จะเป็นสวนล้วนๆ ก็กลัวลำบากแขกผู้ใหญ่ ที่นี่เหมือนผสมผสาน ลงตัวกำลังดี แถมสงบ เป็นส่วนตัว เรียกว่าเลี้ยวรถเข้าไปในซอย เจอกำแพงสีขาวของเขาก็ตกหลุมรักแล้ว หันไปบอกพี่โน้ต (เจ้าบ่าว) เลยค่ะ ว่าเอาที่นี่ (หัวเราะ)
ระหว่างเตรียมงานแพรวยังอ่าน SabuyWedding บ่อยๆ ด้วย บทความรีวิวงานแต่งนี่อ่านเกือบทุกอันเลยค่ะ โดยเฉพาะอันไหนที่จัดที่สถานที่ที่เราจะจัดงาน แพรวก็ยิ่งอ่านละเอียด ได้ไอเดียดี แถมยังได้เก็บทริคเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละงานที่เราชอบ มาประยุกต์ใช้กับงานเรา
สื่อตัวตนผ่านภาพสุดน่ารัก
คอนเซ็ปต์งานของแพรวเริ่มตั้งแต่การ์ด โดยมีคนรู้จักช่วยทำเป็นของขวัญวันแต่งงานให้ แพรวดึงเอาความชอบของตัวเองออกมา ทั้งที่เป็นคนชอบเดินตลาดนัด ตรงนี้ก็จะเป็นไอคอนรูปธงสามเหลี่ยม หรืออย่างการที่เป็นคนชอบดื่มกาแฟ ชอบกินไอศกรีม ชอบดอกไม้ใบไม้ สิ่งเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นลายเส้นน่ารักๆ นอกจากนี้ยังมีนกสองตัวแทนบ่าวสาว แล้วก็มีตัวโน้ตตรงกับชื่อเจ้าบ่าว ตอนได้เห็นดีไซน์การ์ดครั้งแรกก็ถูกใจเลยค่ะ ดูเป็นตัวเราจริงๆ
การจัดวางงาน เวลาแขกเข้ามาซ้ายมือจะเป็นโต๊ะลงทะเบียนก่อน มีกล่องใส่ซองกับของชำร่วยลายเดียวกับการ์ด ซึ่งอย่างหลังเราเลือกใช้เป็นสมุด ด้านในมีคำว่า Better together แล้วก็มีภาษาญี่ปุ่นเขียนไว้ แปลว่า ‘อยู่ด้วยกันตลอด’ สื่อถึงทริปแรกของเราที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันค่ะ
งานแฮนด์เมดทำเองก็มา!
ขวามือถัดจากนั้นจะเป็นที่เซ็นอวยพร รูปทุกใบแพรวทำเองกับมือ นำเอาดอกไม้ที่ใช้ในการ์ดดึงออกมาตกแต่ง เพื่อให้มีลวดลายสวยงาม แขกสามารถเซ็นได้อิสระเลย ที่ขำคือคุณแม่แพรวจะมายืนแซว บอกว่าถ้าวัยรุ่นก็เซ็นบนรูปนะ ส่วนถ้าแก่หน่อยไปเซ็นสมุด กลายเป็นว่าเพื่อนแม่เลยพยายามเซ็นบนรูปกันหมดเลยค่ะ (หัวเราะ)
หลังจากนั้นพอเดินเข้ามาอีกนิด จะเจอกับแกลอรี่รูปสองฝั่ง บนโต๊ะที่เป็นเคาน์เตอร์เล็กๆ เราก็วางรูปถ่ายประดับไว้ และสุดท้ายถึงจะเป็นแบ็คดรอป ตรงมุมนี้เราใช้ลายที่มีมาจัดวางใหม่ ตรงพื้นก็ทำให้มีดีเทลขึ้นมา ภาพรวมจะได้ดูมีชีวิตชีวาทั้งหมดเลย
เตรียมงานด้วยความตั้งใจ ใส่ดีเทลในทุกจุด
ภายในงานเรายังมีมุมให้เด็กเล็กได้นั่งด้วย เพราะแพรวเคยไปงานแต่งที่เพื่อนพาลูกไป พอเป็นงานค็อกเทลยิ่งไม่สะดวก ดูแลกันลำบาก พอมีที่ทางจัดไว้ให้เรียบร้อยแบบนี้ ทุกอย่างเลยสบายมาก ถึงขั้นว่าจบงานเพื่อนลูกไม่ยอมกลับ ติดสมุดระบายสีกับดินน้ำมันที่เราเตรียมไว้ แล้วไม่ใช่แค่เด็กนะคะ ผู้ใหญ่บางคนก็ไปนั่ง เรียกว่าจบงานนี่เราได้ผลงานศิลปะมาหลายอันเลยล่ะ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดคือซุ้มกาแฟที่เราเตรียมมา เลือกจากหนึ่งในร้านโปรดของเรา Lonely Barista เราอยากเสิร์ฟกาแฟดีๆ แบบที่เราชอบดื่มให้กับแขก เมนูก็จะมีอเมริกาโน่ ลาเต้ ชาเขียว แล้วเราใส่ดีเทลตรงแก้วกับเมนูให้มีโลโก้ติดด้วย อันนี้ที่ร้านช่วยทำให้ ปริ้นท์มาจัดการให้เสร็จสรรพ น่ารักสุดๆ ร่วมด้วยช่วยกันมาก ถัดไปอีกนิดก็จะเห็นเป็นธงอันใหญ่มีชื่อเรา กับแฮชแท็กไว้ให้แขกติดในงาน เป็นจุดที่คนถ่ายรูปเยอะที่สุดเลย
ไฮไลท์สุดคิ้วท์จากเค้กครีมสด
ห้องจัดเลี้ยงด้านใน เราขอเปลี่ยนการตกแต่งจากเดิมที่ทางโรงแรมเสนอดอกไม้ให้เป็นพุ่มกลมๆ มาเป็นแบบแจกัน บนเวทีก็จะวางไล่เลเยอร์กันไป เค้กเปลี่ยนไปใช้ผลไม้ครีมสด ด้านในเป็นสตรอเบอร์รี่ เพื่อนๆ ชมว่าอร่อยมาก
ส่วนอาหารเราเลือกเป็นค็อกเทล ที่นี่อาหารอร่อยเลย มีเพิ่มซุ้มอีก 6 ซุ้ม ที่คนชอบกันเยอะคือข้าวมันไก่ ขาหมูทอด ส่วนขนมหวานจะเป็นเครปไอศกรีมค่ะ
เปิดตัวเก๋เว่อร์ไม่เหมือนใคร ใช้เป็นเกมส์ได้ในตัว
พิธีการเราเปิดตัวด้วยการเดินแจกลูกโป่ง ซึ่งใต้ลูกโป่งจะมีเลขห้อยไว้ แต่เรายังไม่ได้บอกใครค่ะ พิธีกรจะแค่บอกว่าให้แขกมารับลูกโป่งด้วย จะมีเซอร์ไพรส์เล็กน้อย คนเลยมารับกันเยอะ หมดเกลี้ยงเลยค่ะ (หัวเราะ) ถัดจากนั้นก็เป็นการคุย สัมภาษณ์ บวกกับบ่าวสาวเราทำงานที่เดียวกัน ประธานในงานเลยเป็นประธานบริษัท แขกกว่าครึ่งก็มาจากที่ทำงานด้วย บรรยากาศเลยอบอุ่น สนิทสนม เหมือนทุกคนได้กลับมาเจอกัน
เซอร์ไพรส์ลับๆ แด่เจ้าบ่าวที่รัก
ตบท้ายด้วยการเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวจากแพรว ด้วยการพาพี่แพท นักร้องวง Klear ที่เจ้าบ่าวชอบมาร้องเพลงให้ในงาน เพลงแรกเขาร้องบนเวที เพลงที่สองให้เราลงมาเต้นรำด้านล่าง แล้วพี่อ๊บ Luvvery (ที่ช่วยดูแลเรื่องการตกแต่งและแคนดิดภาพให้) ก็บอกให้ทุกคนเปิดแสงโทรศัพท์ให้เป็นดาว พี่แพทก็ช่วยบอกจนโมเม้นท์นั้นทุกอย่างสวยงามเหมือนฝันไปหมดเลย
ก่อนตัดเค้ก เรามีเฉลยเซอร์ไพรส์ โดยแพรวกับพี่โน้ตเลือกไว้คนละเลข เป็นเลข 27 กับ 8 คือวันที่แต่งงานค่ะ คนที่ได้ก็ออกมารับของรางวัล ของเจ้าบ่าวจะเป็นหมอนมูมินไซส์ใหญ่ ส่วนของแพรวเป็นบัตรและแก้วสตาร์บัคจากญี่ปุ่น หลังจากนั้นก็ดึงริบบิ้นดอกไม้ ซึ่งอลวนมาก เพราะมันพันกัน ดึงไม่หลุด กลายเป็นโมเม้นท์ขำๆ ไปค่ะ (หัวเราะ)
สำหรับแพรว งานแต่งงานไม่ใช่แค่งานของคนสองคน แต่เป็นการส่งต่อความรักของเราให้ไปถึงยังทุกคนจริงๆ วันงานแพรวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากบรรยากาศรอบตัว และได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่จริงๆ เป็นครั้งเดียวในชีวิตเลย ที่คนที่เรารักมารวมกันได้เยอะขนาดนี้ ตอนอยู่บนเวที มองลงมาเห็นสายตา เห็นรอยยิ้มของคนที่มาร่วมงาน ประทับใจมากๆ เลย
แนะนำบ่าวสาว
เป็นตัวของตัวเองที่สุด : พี่โน้ต (เจ้าบ่าว) เคยบอกแพรวไว้ว่า ‘แต่งครั้งเดียว อยากทำอะไรให้ทำเลยค่ะ’ บางอย่างถึงจะยุ่งยากหน่อย (อย่างรูปที่ทำให้แขกเซ็น ที่ต้องทำทีละใบตั้ง 300 รูป หรือของชำร่วยที่คิดนานมาก) แต่ถ้ามันเป็นความตั้งใจของเราจริงๆ สุดท้ายก็จะทำให้แฮปปี้มาก ทั้งบ่าวสาวและแขกที่ได้รับค่ะ