VIVARIUM BY CHEF MINISTRYสถานที่แต่งงานแนวใหม่ เปิดกว้างให้ใส่ไอเดียได้เต็มที่
บูมมีเวลาเตรียมงานทั้งหมดครึ่งปี โดยมีธีมงานเป็น LOVEBOLOGY ว่าด้วยเรื่องของบุพเพและผงปาฏิหารย์ ณ เรือนกระจกสมุนไพรศาสตร์ค่ะ ที่บูมจัดงานแนวนี้ เพราะอยากให้สอดคล้องกับตัวเองที่ชอบอ่านวรรณกรรมเยาวชน ชอบเรื่องแม่มด เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ บูมลิสต์สถานที่แต่งงานที่ตรงกับความต้องการมา 3 แห่ง แล้วเข้าไปดู สุดท้ายลงตัวที่ VIVARIUM BY CHEF MINISTRY (วิวาเรียม บาย เชฟส์ มินิสทรี) พระราม 4 ตัวร้านเองก็ได้อารมณ์เหมือนเรือนสมุนไพร แล้วเราก็ดีลกับร้านว่าเราโอเคที่งบเท่าไหร่ จะได้พอดีกัน
ตอนเตรียมงานบูมทำพรีเซนเทชั่นตั้งต้นให้ตัวเองก่อนเลย ว่า Journey ของการจัดงานครั้งนี้จะเป็นยังไงบ้าง สีแบบไหน เพื่อให้การเตรียมงานง่าย Follow ตามแพลนนั้นได้
งานนี้เราเลือกเชิญแต่เฉพาะคนสนิท เพราะงานหมั้นเราทำบุญที่วัด สวมแหวนง่ายๆ กันไปแล้ว งานฉลองเลยเหมือนเป็นงานประกาศให้ผู้ใหญ่สองฝั่งรับรู้ มีแต่ญาติและเพื่อน รวมแล้วประมาณ 150 คนค่ะ
เทพนิยายสไตล์เรา
บูมเลือกใช้ธีมสีน้ำเงินอมม่วง เพราะเป็นสี Magical เหมือนท้องฟ้าเวลากลางคืน ส่วนสีชุดแขกเป็นสีฟ้า น้ำตาล เทา และเงิน ซึ่งทุกคนน่ารักมาก ให้ความร่วมมือ ภาพรวมจึงออกมาสวยงาม
สำหรับชุดเจ้าสาว บูมเป็นคนไหล่ตั้งตรง ถ้าใส่คอปิดจะดูแข็ง จึงเลือกเป็นแบบปาดข้าง ไหล่เบี่ยง เพื่อให้ดูนุ่มนวลขึ้น ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสายชิลล์ ตัดล่วงหน้าก่อนงานแค่ 3 สัปดาห์ กิมมิคอื่นๆ ที่เราใส่ใจมากก็อย่างเช่นที่ติดอกเจ้าบ่าวกับสร้อยข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ที่บูมซีเรียสว่าขอให้เป็นผีเสื้อปลอมสวยๆ กับดอกไม้ จะได้เข้ากับงานเราที่สุดค่ะ
ดีเทลสนุกที่ทุกคนเอนจอย
แรกสุดเวลาแขกเดินเข้ามาในงานจะเจอมุมลงทะเบียนก่อน ตรงจุดนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งคนจะไม่ต้องเขียนอวยพร แต่เราจะให้ปั๊มลายนิ้วมือ เป็นไอเดียของเพื่อนสนิทช่วยทำให้ เก๋ไก๋มาก ถัดจากนั้นเพื่อนเจ้าสาวก็จะบอกให้แขกหันหลังกลับ เจอกับวงล้อหมุนที่มีข้อความ ‘ความรักของคุณในอนาคตจะเป็นแบบไหน’ เป็นเหมือนการพยากรณ์
ตัววงล้อนี้จะแบ่งเป็น 5 ส่วน มีเครื่องรางความรัก 5 สี เช่น ยูนิคอร์นฮอร์น เมอร์เมดเพิร์ล สตาร์ดัส และอื่นๆ แล้วก็จะมีคำแปลตามนั้น ทั้งหมดถูกดีไซน์โดยน้องสาวบูม ซึ่งเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ แขกหมุนได้อันไหนก็จะได้ขวดแบบนั้นกลับไปเป็นของที่ระลึกค่ะ
โมเม้นท์ที่ตลกมากของจุดนี้คือแขกผู้ใหญ่บางท่านมีภรรยาแล้ว ทีนี้พอหมุนไปเจอพยากรณ์ว่าจะมีความรักครั้งใหม่ อันนี้ก็สตั้นท์ไปเลยค่ะ (หัวเราะ) เป็นซีนขำๆ ที่เอามาเล่าต่อกัน เรียกว่าเพื่อนเจ้าสาวที่อ่านคำทำนายนี้ก็แทบขอโทษกันไม่ทันเลย
ตรงโซนงานบูมเซ็ทเพื่อนไว้ให้พาแขกผู้ใหญ่ไปนั่ง มีแท็กรูปขนนกบอกอยู่ว่าใครนั่งตรงส่วนไหน อาหารเราจัดเป็นค็อกเทล มีลองเทเบิ้ล 5 โต๊ะ ส่วนตัวบูมซ่อนอยู่ในห้องไวน์ มีคนคอยอัพเดทตลอดว่าแขกมาแล้วกี่คน อาหารพร่องไปไหมยังไง ช่วงนี้เจ้าบ่าวจะรับแขกไปคนเดียวก่อน
เพลงที่เราเลือกใช้ในงานจะเป็นเพลงบรรเลงแบบ Fairy Tale มาก มีทั้งดิสนีย์ ทั้งแฮร์รี่ เปิดตามเพลย์ลิสต์เลย บรรยากาศเหมือนอยู่อีกมิตินึง
ตอนเริ่มพิธี รุ่นน้องสองคนของบูมจะขึ้นไปยืนบนเวทีตรงกลาง ด้านบนมีขนนกกับผีเสื้อห้อยเป็นพร็อพ พอกล่าวต้อนรับทุกคนเสร็จ ก็จะเชิญเจ้าบ่าวขึ้นมาบนเวที คุยกันขำๆ แซวเรื่องพ่อบูมที่ดุมาก แต่เจ้าบ่าวเราสายฮาอยู่แล้ว ทุกคนก็ฟังกันเพลินๆ แล้วพอถึงเวลาก็ถามว่าอยากเจอเจ้าสาวรึยัง ทีนี้ก็จะมีเพื่อนเจ้าสาว 8 คนยืนเป็นคู่ๆ เดินตามเพลง โปรยกลิตเตอร์มาตามพรมให้ แล้วบูมก็เดิมมาพร้อมกับคุณพ่อ เปิดเพลงซินเดอเรลล่า แล้วขึ้นไปหาเจ้าบ่าวบนเวทีค่ะ
วินาทีต้องมนต์
ถัดจากนั้นพิธีกรก็จะเกริ่นว่า Love is not happily ever after เหมือนรักที่เหมือนในเทพนิยายมันไม่มีอยู่จริง เป็นการบอกเล่าว่ารักมันมีหลายแบบมากบนโลกใบนี้ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะขีดเขียนยังไง แต่ของคู่เรา Love is magical
เราเจอกันในมหาวิทยาลัย เจ้าบ่าวเปิดร้านอาหาร บูมไปเจอเขาที่ร้านแล้วชอบมาก แต่เขาไม่รู้จักบูมเลย ก็แอบดูอย่างนั้นจนวันนึงร้านเขาปิดตัว ไม่ได้เจอเขาอีกเลย พอเราจบออกมาทำงานได้สองปีกว่า บูมไปเจอเขาใน Facebook มีน้องเป็นคนกดแอดไปให้ แล้วเขาก็ทักบูมมา คุยกันปีกว่าโดยไม่เจอหน้ากัน (ตอนนั้นยังคิดในใจอยู่ว่าเจ้าชู้จังเลย ทักมาโดยที่ไม่ได้รู้จักกัน) จนมีอยู่วันนึงที่เขาขอมาเจอที่บ้าน เอาสมุดเล่มนึงมาให้ เปิดมาเป็นรูปวาดของบูมสมัยมหาลัย ใส่พลีท มีปิ่นปักผม รองเท้าผ้าใบตามที่เราเคยใส่เป๊ะ ไปเดินอยู่หน้าร้านอาหารของเขา บูมร้องไห้เลย ตอนคบกันนี่เพื่อนทุกคนกรี๊ด เพราะรู้ว่าบูมชอบคนนี้ พอคบกันได้ 6 ปี เราถึงจัดงานค่ะ
เชื่อมทุกสิ่งไว้ให้เป็นหนึ่งเดียว
ลงท้ายเราก็บอกว่าอยากให้ทุกคนได้ Create your own magical แล้วเราก็เข้าสู่พิธี (แบบสองภาษา) มีการรับคู่สมรสเป็นสามีภรรยา ส่วนตอนหมั้นเราใช้แหวนเพชรไปแล้ว งานนี้จึงใช้เป็นแหวนหิน เพราะเจ้าบ่าวชื่อศิลา เป็นกิ่งไม้พันรอบนิ้วทั้งสองคน และผูกไว้ด้วยมูนสโตน หินแห่งความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้พิธีกรก็เล่าให้ทุกคนฟังด้วยในระหว่างงานด้วยค่ะ
ถัดจากนั้นก็มีถ่ายรูป เชิญผู้ใหญ่ขึ้นมาพูด แต่ไม่มี Cheers เพราะอยู่ในช่วงไว้อาลัย เจ้าสาวและเจ้าบ่าวกล่าวความรู้สึกและขอบคุณ แล้วเข้าสู่ช่วงตัดเค้ก ซึ่งอันนี้พิเศษมาก เพราะเพื่อนสนิททำให้ เค้กจะถูกวางไว้บนขอนไม้ โดยที่เค้กเป็นสีม่วง และด้านในมี Sprinkles สีๆ เวลาตัดออกมาจะดูคัลเลอร์ฟูลสุดๆ เลยค่ะ
จบช่วงนี้เรามีพักเบรกทานข้าว บูมลงไปเดินตามโต๊ะทักทายผู้ใหญ่ ระหว่างนั้นวงดนตรีก็เข้ามาเช็คความเรียบร้อย มีจับริบบิ้นดอกไม้ แต่ของที่คนจับได้จะได้เป็นจริงๆ จะเป็นมงกุฏเจ้าหญิง เหมือนเป็นราชินีคนต่อไปค่ะ
ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้เราเริ่มจากเพลงเพราะๆ ที่ไม่เร็วมากก่อน บ่าวสาวมีไปถ่ายรูปกับแขกผู้ใหญ่ที่กำลังจะกลับ สักพักพอเปลี่ยนชุดเสร็จก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเพลงเร็วค่ะ
บูมชอบงานแต่งงานตัวเองมาก เพราะต้องกับความต้องการของเราจริงๆ คิดกลับไปกี่ครั้งก็ยังต้องเป็นงานแบบนี้ บูมชอบทุกอย่างถึงแม้ว่าบางอย่างมันอาจจะพลาดไปบ้าง แต่ที่สุดแล้วโดยรวมมันดีมาก ประทับใจเพื่อนๆ และคนที่มาร่วมงานทุกคน ที่รู้ว่าบูมเป็นคนยังไง แล้วเต็มที่กับมันมากจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ชุดที่ใช่ ต้องไปลอง! : บางครั้งเราจินตนาการไปก่อนว่าเราชอบแบบนี้ แต่ที่จริงมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เวิร์คเสมอไปค่ะ ต้องไปลองให้รู้ไปเลยว่าแบบไหนเข้า แล้วถึงเพิ่มสิ่งที่ตัวเองชอบไปในชุดนั้นๆ สร้างจากสิ่งที่มีอยู่แล้วง่ายกว่าจริงๆ ค่ะ
เผื่องบไว้อีกหน่อย : เพราะเป็นเรื่องปกติที่ค่าใช้จ่ายจะงอกขึ้นมาบ้าง มันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้เลือกสิ่งที่ชอบมากที่สุด การที่เราเผื่อเงินไว้จะทำให้เราไม่เครียดกับมันมาก ใช้เงินไปกับสิ่งที่ควรใช้ค่ะ