Nai Lert Park Heritage Home สถานที่โดนใจ ใช้พื้นที่ได้ทั้ง Indoor & Outdoor
วิคกี้ได้ฤกษ์ล่วงหน้าก่อนถึงวันงานจริงประมาณ 1 ปีค่ะ โจทย์ของเราคือไม่อยากได้โรงแรม อยากให้เป็นกึ่งๆ outdoor ได้อารมณ์งานเล็กๆ อบอุ่นแบบฝรั่ง มีเต้นท์สีขาว ช่วงนั้นมีงานของคุณเจน-เจนสุดา ปานโต ที่จัดที่ Nai Lert Park Heritage Home (บ้านปาร์คนายเลิศ) เราเลยวอล์คอินเข้าไปดู รู้สึกว่าใช่เลย ตรงกับภาพในฝันของเราจริงๆ
ตัวบ้านเรือนไทยของเขาสามารถจัดพิธีหมั้นได้สวย โดยที่ไม่ต้องตกแต่งอะไรมาก มีลานกว้างที่วางเต้นท์ได้เยอะ รองรับแขกได้มากสุดถึง 500 คน ของเรา 350 คน กำลังสบายๆ เรียกว่าไม่ต้องย้ายสถานที่เลย แค่ย้ายจากเรือนไทยลงไปที่เต้นท์ เหมาะสำหรับจัดงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยงมากๆ ค่ะ
วิคกี้ขอยกเครดิตหลายๆ ส่วนให้กับทีมเซลล์ของทางสถานที่ด้วย ทั้งคุณภัทร, คุณพลอย ที่คุยกับเราเหมือนเป็นเพื่อน อะไรช่วยได้ก็พร้อมช่วย ซัพพอร์ตเต็มที่ เป็นทีมเล็กๆ ที่น่ารักมาก แล้วเขาเก็บทีมเชฟ ทีมบริกรของโรงแรมปาร์คนายเลิศไว้ ทำเป็นทีม Catering ดูแลอาหารการจัดงานให้เรา ดังนั้นมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรมเลย สบายใจได้แน่นอน ทุกคนคอนเฟิร์มว่าอาหารอร่อย ไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์ของเขาอย่างหมี่น้ำปาร์คนายเลิศ ที่อร่อยจนแขกบางท่านทานไป 2-3 ชาม เรียกว่าจบงานไปแล้วเพื่อนยังชมอยู่เลยค่ะ (หัวเราะ)
ในส่วนของการเก็บข้อมูลเตรียมงาน ปกติวิคกี้อ่าน SabuyWedding อยู่แล้ว เป็นเว็บอันดับ 1 ที่เราดูเลย อ่านง่าย สไตล์การเขียนต่างๆ รวมไปถึงบทความรีวิวงานแต่งก็เป็นตัวอย่างให้เราเรียนรู้ได้เยอะมาก บอกว่าใช้ทีมงานไหนยังไง ทำให้เราเก็บทีมที่น่าสนใจไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งเราได้คนที่เหมาะกับงาน กับความต้องการของเราจริงๆ อย่างทีมช่างภาพ Coffee Photo กับช่างแต่งหน้า พี่ปั๋ม Atisorn Makeup วิคกี้ก็ได้มาจากเว็บนี้เลยค่ะ พอจัดงานจบเลยก็อยากรีวิวงานตัวเองบ้าง เผื่อเป็นประโยชน์กับเจ้าสาวท่านอื่นๆ
เตรียมงานเองได้ ใส่ใจทุกรายละเอียด
งานนี้วิคกี้ไม่ได้ใช้ออแกไนเซอร์ เราเลือกและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ดีลตรงกับซัพพลายเออร์ แม้แต่ไฟ เครื่องเสียง ร่มเช่าตามจุดต่างๆ เราก็จัดการเองหมด ส่วนตัววิคกี้ทำงานด้านวางแผนกลยุทธ์อยู่แล้ว เราก็ใช้สกิลตรงนี้เข้ามาช่วย ที่สำคัญคือคุมงบได้ ยิ่งอ่านข้อมูลเยอะ เราจะรู้แหล่งเลยว่าถ้าเราจ้างออแกไนซ์ เขาจะไปจ้างใครต่ออีกที พอรู้ความต้องการตัวเองชัด เราก็ทำได้เอง งานนี้ไม่มีทะเลาะกับเจ้าบ่าวเลย ทุกคนแฮปปี้ ไว้ใจให้เราเลือกได้เต็มที่ค่ะ
พิธีการช่วงเช้าของเราจะมีพิธีสงฆ์ พิธีหมั้น สวมแหวน รับไหว้แบบไทย และรดน้ำสังข์ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาถึงแค่ 10.30 น. ค่อนข้างกระชับมาก ของรับไหว้คุณแม่วิคกี้เป็นคนทำให้ เป็นปลอกหมอนใส่หมอนอิง ปัก WK ชื่อย่อบ่าวสาว เป็นงานทำมือทั้งหมด 22 ใบเลย มีพวงกุญแจดอกไม้ตรงหูหิ้วด้วยค่ะ
เรียบเก๋ สวยสะดุดตาด้วยชุดเจ้าสาว
ส่วนชุดเจ้าสาวที่เราใช้ โจทย์คืออยากได้แบบฝรั่ง ไปเดินเลือกซื้อลูกไม้เองเลยค่ะ Facetime เลือกผ้ากับเพื่อน (หัวเราะ) ธีมงานเราไม่หวานมาก เลยออกมาเป็นแบบปักมุกทั้งตัว ลายเส้นกราฟฟิก ความยาวถึงแค่ช่วงเข่า ส่วนช่วงกลางวันเราอยากให้ชุดดูเรียบที่สุด แต่งลูกไม้นิดเดียวเบาๆ ให้ดูหวาน แล้วใส่เวล เลือกใช้ผ้าโทนสีงาช้าง เข้ากับดอกหญ้าที่เราตกแต่งในเต้นท์ ดูนวลตาค่ะ
ชุดเจ้าสาวทั้งหมดนี้ คนที่ตัดให้เป็นลูกศิษย์ของ ดร.กรกลด คำสุข อาจารย์ด้านออกแบบทัศนศิลป์ ออกแบบแฟชั่น (มศว) เพื่อนรักสมัยเรียนที่อังกฤษของวิคกี้เองค่ะ ทุกคนมาช่วยกันออกแบบ ให้คำแนะนำ เลือกสิ่งที่เป็นตัวเราที่สุด ได้ชุดออกมายูนีคไม่เหมือนใครจริงๆ
ตกแต่งสวยพร้อม เหมือนหลุดมาจาก Pinterest
ธีมงานของเราเลือกเป็นแบบ Botanical ใบไม้ที่ใช้จะเป็นใบยูคาลิปตัสแห้ง มีดอกหญ้ามาประดับ เข้ากับสถานที่ วิคกี้เลือกจุดที่ควรตกแต่ง โดยมีทีมงานเข้ามาช่วยดูสถานที่ให้ ซึ่งปรากฏว่าเข้าทางเขามาก เพราะกำลังอยากลองทำงานแบบ outdoor เหมือนกัน เลยได้แสดงฝีมือเลยค่ะ
เรื่องโต๊ะที่จัดเลี้ยงช่วงเที่ยงในเต้นท์ เรามีทั้งโต๊ะ VIP ที่เป็นโต๊ะยาว 16 ที่นั่งรวมบ่าวสาว และโต๊ะญาติๆ โต๊ะเพื่อนที่ทำงาน ซึ่งเป็นโต๊ะวงรีทรงไข่ ทั้งหมด 8 โต๊ะ โต๊ะละ 10 ที่นั่ง ผสมกันออกมา วางเลเอ้าท์แล้วสวยเลยค่ะ โต๊ะยาวอยู่กลาง โต๊ะทรงไข่ล้อมสองข้าง ที่เหลือเป็นโต๊ะสตูสูงๆ สำหรับให้เพื่อนๆ ยืนทานค็อกเทลได้
ความทรงจำที่แสนอบอุ่น
คอนเซ็ปต์ของเราคือ เราไม่อยากยืนถ่ายรูปที่แบ็คดรอปนาน แต่อยากใช้เวลาพูดคุยกับแขกในงานมากกว่า ตอนเปิดตัวก็ไม่มีไฟฟอลโล่ว แค่จูงมือกันเดินขึ้นเวทีเลย ประกอบกับเราอยากให้งานสื่อตัวตนของเราจริงๆ งานนี้เลยไม่มีพรีเซนเทชั่น หลังจากประธานซึ่งเป็นรัฐมนตรีทั้งสองท่านกล่าวอวยพรจบ เราก็เซ็ตเก้าอี้นั่งคุยกับแขก
งานนี้มีพิธีกรเป็นเพื่อนสนิท เล่าได้ แซวได้ ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องเขินเลยค่ะ ทุกความรู้สึกมาจากใจจริงๆ ไม่มีสคริปต์ แชร์กันได้ทุกเรื่อง บรรยากาศตอนนั้นสนุกมาก หลายคนชมว่างานแปลกใหม่ดี บ่าวสาวเป็นตัวเองจริงๆ
ความรู้สึกของการจัดงานครั้งนี้ สำหรับวิคกี้ มันเหมือนการชวนเพื่อน ชวนคนที่เรารักมาพูดคุย กินข้าวกันในสวนหลังบ้าน พิธีการเราเรียบง่าย ไม่ทางการ กิมมิคคือทุกคนในงานเป็นคนที่เราสนิทจริง แม้แต่ประธานตอนอวยพรยังแซวเราเลย (หัวเราะ) คนในงานเองก็รู้จักกันหมด บ่าวสาวไม่ต้องกลัวใครเคว้ง เพราะทุกคนเอนจอย มีความสุขกับบรรยากาศและคนที่มาร่วมงานจริงๆ เป็นภาพที่อบอุ่นมากๆ เลย
นอกจากทีมงานที่ดีแล้ว งานนี้วิคกี้ขอขอบคุณเพื่อนเจ้าสาวมากๆ ที่ช่วยกันดูแลทุกอย่าง ก่อนวันจริง วิคกี้ไม่สบายก็มารับบรีฟกันที่โรงพยาบาล (หัวเราะ) วันงานจริงช่วงรดน้ำสังข์ เจ้าสาวไข้ไม่ซาก็ไปเอายามาให้ น่ารักมากๆ รวมไปถึงทีมรันคิว คุณหญิงคุณแบงค์ คู่สามีภรรยาสุดน่ารัก ที่เป็นเพื่อนสนิทของเรา ที่พาทีมมาช่วยงานให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน อะไรตกหล่นก็ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ จนงานออกมาราบรื่นจริงๆ ค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
หาความชอบของตัวเองให้เจอ : คุยกันสองคนระหว่างบ่าวสาวให้เคลียร์ แล้วปรึกษาผู้ใหญ่ บางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่ได้จุกจิกอย่างที่เราคิดค่ะ ท่านรักเรา อยากให้เรามีความสุขในวันงาน ที่สำคัญคืออย่าเอาความต้องการของคนรอบข้างมากดดันตัวเอง เลือกสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ
จัดงานเอง เหนื่อยแต่สนุก คุ้มค่าที่สุด : นอกจากจะภูมิใจแล้วยังคุมงบได้ ความทรงจำ ความประทับใจในส่วนที่เราทำเอง มันจะยังอยู่กับเราเสมอค่ะ ใครมาชมจุดนั้นจุดนี้ในงาน เราก็ยิ่งมีความสุข เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเราก็ยังเก็บเกี่ยวความรู้สึกนี้ได้อีก
อ่านข้อมูลเยอะๆ : อย่างวิคกี้เองอ่าน SabuyWedding บ่อยมากเลยค่ะ เป็นเว็บที่เราคิดว่าดีที่สุด ได้ดูสไตล์ของแต่ละทีม เห็นงานจริงๆ แนะนำต่อเลย เวลาอ่านเขาก็ดึงจุดเด่นแต่ละงานออกมาได้ดีมาก ทำให้แต่ละงานมีความเฉพาะตัว ไม่เหมือนกัน เราหยิบเอาไอเดียออกมาใช้ได้จริง แต่งจบแล้วก็ยังมาอ่านต่อ เป็นกำลังให้ทีมงานเลยค่ะ
เตรียมพร้อมมาดีแล้ว วันจริงไม่ต้องกดดันค่ะ : ยิ้มอย่างเดียว ไม่เครียด ปล่อยทุกอย่างสบายๆ ค่ะ ให้จบงานไปแล้วมีความสุข เรายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนอยู่ ร้านไหนดีก็แนะนำให้คนอื่นใช้ต่อ เขาจะได้มีประสบการณ์ดีๆ เหมือนเราค่ะ