lebua at State Tower สถานที่ที่ทุกอย่างลงตัว จนบ่าวสาวและครอบครัวประทับใจ
ทูน่า (เจ้าสาว) อยากมีงานแต่งเล็ก ๆ ฟีลอบอุ่น ได้ใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนสนิทและคนที่เรารัก จึงพาครอบครัวไปเทสต์อาหารของ lebua at State Tower (โรงแรม เลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์) ทางคุณพ่อคุณแม่ก็ประทับใจตั้งแต่บรรยากาศของโรงแรมไปจนอาหารและเบเกอรี่ ที่อร่อยทุกเมนู ทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าโรงแรมแห่งนี้เหมาะกับเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของทูที่สุดแล้วค่ะ
อีกทั้งโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับบ้านของพวกเราและแขกส่วนใหญ่ ทำให้ทุกคนเดินทางสะดวก แล้วยังมีโซนไฮไลท์ที่สามารถถ่าย Pre-wedding ได้ รวมไปถึงมีพื้นที่จัดงานแต่งทั้งชั้นที่ให้ความเป็นส่วนตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน สามารถจัดงานแต่งได้จบครบในที่เดียวเลยค่ะ
พิธีหมั้นแสนเรียบง่ายตามแบบฉบับไทย-จีน
ช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.00 น. เป็นพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตคู่ของพวกเรา จากนั้นเวลา 8.00 น. ทางฝั่งเจ้าบ่าวเริ่มตั้งขบวนขันหมากไทย คุณเอ (เจ้าบ่าว) ได้ออกแรงวิดพื้นนิดหน่อยเพื่อฝ่าด่านประตูเงินประตูทอง ระหว่างนั้นทูก็เก็บตัวอยู่บริเวณระเบียงชั้น 2 ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศตอนแห่ขั้นหมากได้ด้วย ทำให้ทูไม่พลาดสักโมเมนต์ ถือว่าพื้นที่จัดงานของโรงแรมมีการออกแบบมาดีมากเลยค่ะ
จากนั้นเจ้าบ่าวก็มารับตัวเจ้าสาวเข้าสู่พิธีสู่ขอและสวมแหวนตามธรรมเนียมไทย มีเสริมพิธีจีนเป็นการรับไหว้และยกน้ำชา แล้วจบด้วยการรดน้ำสังข์ในเวลาประมาณ 10.00 น. ญาติผู้ใหญ่ต่างกล่าวอวยพรด้วยความยินดี เป็นเหมือนงานแต่งงานเล็ก ๆ ภายในครอบครัวตามภาพที่เราต้องการเลยค่ะ
งานเลี้ยงฉลองแสนอบอุ่น ไม่เน้นพิธีการ แต่เน้นใช้เวลาบนโต๊ะอาหารร่วมกัน
ทางทีมรันคิวทำเวลาได้ดีมากบ่าวสาวจึงมีเวลาเปลี่ยนชุดและถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ภายในโรงแรม ซึ่งทูชอบที่โรงแรมแห่งนี้มีมุมถ่ายรูปแบบ Exclusive สวย ๆ เยอะ โดยเฉพาะโซน Sirocco Restaurant บริเวณ Rooftop ชั้น 63 ที่สามารถมองเห็นวิวได้ไกลแบบพาโนรามา ทำให้ภาพถ่ายที่ออกมาดูอลังการมากค่ะ
เวลาประมาณ 11.30 น. ทูกับเจ้าบ่าวก็ลงมาถ่ายรูปกับแขกที่ Backdrop สไตล์มินิมอล เน้นโชว์บรรยากาศของโรงแรมที่มีความสวยงามและหรูหรา ส่วนธีมสีใน Element ต่าง ๆ ทูเลือกใช้สีชมพูกลีบบัวที่ล้อไปกับชื่อของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการ์ดแต่งงานสีชมพูลายดอกไม้ ของชำร่วยที่เป็นเกลือชมพูหิมาลายันจากเนปาล ซึ่งเป็นประเทศที่เราสองคนมีความทรงจำร่วมกัน พร้อมประดับดอกแคสเปียร์ที่สื่อถึงความรักยืนยาว และโลโก้อักษร AT ที่พวกเราออกแบบให้คล้ายเครื่องหมาย Infinity หรือความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด
งานเลี้ยงฉลองของเราจัดที่ห้อง Pundarika Grand Ballroom แขกประมาณ 100 ท่าน แม้เป็นงานแต่งเล็ก ๆ แต่กลับอบอุ่นและเป็นกันเอง ทูตั้งใจจัดงานเลี้ยงฉลองที่ไม่มีพิธีทางการเลยค่ะ เน้นให้แขกได้รับประทานอาหารอร่อย บ่าวสาวสามารถใช้เวลากับแขกได้อย่างทั่วถึง ทำให้ทูได้สัมผัสถึงความยินดีจากใจจริง และเก็บเกี่ยวทุกโมเมนต์ได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
เติมเต็มวันสำคัญ ด้วยบรรยากาศสวยงามและบริการเหนือความคาดหมาย
นอกจากงานแต่งของทูเป็นงานเล็ก ๆ ที่ให้ฟีลอบอุ่นแล้ว บรรยากาศของ lebua at State Tower ยังช่วยเติมเต็มให้ภาพงานแต่งในแบบที่เราต้องการมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านคฤหาสน์ ที่มีการจัดตกแต่งออกมาอย่างสวยงาม หรูหรา และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
ทางด้านการบริการก็ได้รับการดูแลอย่างดี แม้ในสถานการณ์ที่คาดการณ์ได้ยาก แต่ทีมเซลล์ของโรงแรมก็ให้ความมั่นใจว่าพร้อมที่จะจัดงานแต่งให้กับเราได้ทุกเมื่อ รวมไปถึงความใส่ใจในเรื่องอาหาร ที่แขกหลายคนชมมาว่าเป็นอาหารไทยฟิวชั่นที่มีรสชาติกลมกล่อม ไม่ว่าจะเป็นเมนูกุ้งลายเสือผัดพริกปาปริก้า หรือปลากะพงอบราดซอสเลม่อน ก็รับประทานง่าย แถมอร่อยมากด้วยค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
Balance ความต้องการของทุกคน เพราะงานแต่งของทูเน้นแขกผู้ใหญ่ ฉะนั้นตอนจัดงานแต่ง ทูจึงให้ทั้งสองครอบครัวมานั่งคุยถึงความต้องการของแต่ละคน เพื่อหาตรงกลางที่ทุกคนสบายใจที่สุดค่ะ
การเตรียมตัว จากประสบการณ์ที่จัดงานแต่งในช่วงสถานการณ์โควิด ทูคิดว่าอย่างน้อยควรมีเวลาเตรียมงานแต่งประมาณ 6 เดือน สำหรับการจองสิ่งต่าง ๆ และวางแผนอย่างครบถ้วน จะทำให้เราได้งานแต่งในแบบที่เราต้องการค่ะ
Photographer : 21 Day wedding