






อีฟและเบสท์ ทำงานเป็นแพทย์ทั้งคู่ มีตารางงานที่แน่นและสลับเข้าเวรตลอด การเตรียมงานแต่งงานที่มีแขกเกือบ 400 คน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ เราจึงตัดสินใจเลือกใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพและเลือกสถานที่แต่งงานที่ตรงใจที่สุดอย่าง The Ritz-Carlton Bangkok (โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ) เพื่อเนรมิตภาพฝันให้ออกมาเป็นจริง



เราอยากได้งานแต่งงานที่สะท้อนตัวตนและมีสไตล์เรียบหรู Modern Luxury โดยโจทย์สำคัญ คือ สเกลงานค่อนข้างใหญ่ แขกเยอะ แต่เรายังคงอยากได้มู้ดงานที่ดูอบอุ่น จึงตั้งใจให้มี Live Jazz Band เพราะนอกจากพี่เบสท์จะชื่นชอบดนตรีแจ๊สแล้ว เสียงแซกโซโฟนยังช่วยเติมความอบอุ่นให้กับบรรยากาศงานเลี้ยงฉลองได้ด้วยค่ะ

ให้ความสำคัญกับการเลือกทีมงานและสถานที่แต่งงานเป็นอันดับแรก
จุดที่ยากที่สุดของการเตรียมงาน สำหรับอีฟไม่ใช่เรื่องการเลือกชุด หรือดอกไม้ แต่คือการเลือกทีมงาน เพราะถ้าเริ่มต้นผิดพลาด อาจต้องมาแก้ไขปัญหายิบย่อยในภายหลังค่ะ อย่างเวดดิ้งแพลนเนอร์ เราก็คัดและนัดคุยกับหลายเจ้า แต่ในที่สุดก็เลือก PaR Wedding Planner เพราะแค่ได้คุยกับพี่เส่ยครั้งแรก ก็รู้สึกสบายใจเหมือนคุยกับพี่สาว และพี่เส่ยใส่ใจในรายละเอียด ถามถึงดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังคุยเสร็จ อีฟกับพี่เบสท์มองหน้ากันเลยว่า ทีมนี้แหละที่เราจะฝากงานแต่งไว้ในมือได้

เมื่อเราได้เวดดิ้งแพลนเนอร์แล้ว ในช่วงที่กำลังตัดสินใจเรื่องสถานที่จัดงาน พี่เส่ยก็แนะนำให้ลองมาดู The Ritz-Carlton Bangkok โรงแรมใหม่ใจกลางเมือง ซึ่งพอเห็นปุ๊บ ตัดสินใจได้เลย เพราะบางโรงแรม เราติดตรงจุดรับตัวมืดไป บางที่ก็กลางแจ้ง กลัวร้อน บางที่มู้ดดี แต่จุแขกไม่พอ จนมาเจอที่นี่ เราติ๊กถูกหมดทุกข้อเลยค่ะ ทั้งดีไซน์ที่ดู Modern Luxury ตรงกับภาพงานที่คิดไว้ เพดานสูง โปร่ง โล่ง ทำให้งานดูไม่อึดอัด ห้องบอลรูมรองรับแขกของเราได้แบบสบาย ๆ และไฮไลต์ที่อีฟชอบที่สุดคือระเบียง เปิดรับแสงธรรมชาติ มองเห็นวิวสวน เหมาะกับการใช้เป็นจุดรับตัวเจ้าสาวและการแห่ขันหมากในพิธีเช้ามาก ๆ



งานเช้าอบอุ่นด้วยแสง Daylight พร้อมพิธีการครบครัน
บรรยากาศงานเช้าจะค่อนข้าง Lively การตกแต่งดูแลโดยโรงแรม เน้นตรงเวทีที่ใช้ใบไม้สีเขียวเป็นหลัก แซมด้วยดอกไม้สีชมพูและส้ม กับจุดรับตัวเจ้าสาว ซึ่งอีฟขอให้ฟีลลิ่งดูหวานและอบอุ่นกว่างานเลี้ยงฉลอง เน้นแสงธรรมชาติ อย่างพิธีแห่ขันหมากก็จัดริมระเบียง ส่วนแขกผู้ใหญ่ก็สามารถนั่งรอในห้องได้ค่ะ เพราะพื้นที่อยู่บริเวณเดียวกันหมด



เราจัดงานแบบไทย–จีนค่ะ เริ่มด้วยแห่ขันหมาก ผ่านเกมกั้นประตู 5 ด่าน ยากที่สุดคือด่านเรียงรูปสมัยคบกันให้ถูก ว่าเหตุการณ์ไหนเกิดก่อน-หลัง ซึ่งพี่เบสท์จำไม่ได้ จนเพื่อนเจ้าสาวต้องมาช่วยค่ะ (หัวเราะ) จากนั้นก็มารับตัวอีฟ และพาเข้าไปในห้อง Gallery เพื่อเรียงสินสอด สวมแหวน ทานขนมอี๊ และยกน้ำชาค่ะ








งานฉลองเที่ยงในบรรยากาศ Jazz, Love & Modern
สำหรับงานเลี้ยงฉลองตอนเที่ยง เราเลือกตกแต่งงานในโทนโอลด์โรส แดง และเขียว ผสมผสานกันให้ดูลงตัว ไม่อยากเน้นไปที่สีใดสีหนึ่ง ซึ่งเรามองดูแล้วคิดว่าโทนนี้ไม่หวานเกินไป แถมยังให้ความรู้สึกเรียบหรูด้วยค่ะ ตัวแบ็คดรอปใช้ฉากสีขาวเรียบ ๆ วางดอกไม้แนวเฉียง เว้นตรงกลางไว้ให้มีสเปซ เวลาถ่ายรูปออกมา ทั้งคนและดอกไม้จะได้ไม่บังกันค่ะ



ด้านในห้องบอลรูม เราใช้จอ LED มาทำโมชั่นกราฟิก 4-5 ฉาก เปลี่ยนไปตามมู้ดของแต่ละพิธีการค่ะ ตั้งแต่ท้องฟ้า ก้อนเมฆ ไปจนถึงฉากสีดำตัดกับความขาวของฉาก



หลังจากเราเปลี่ยนชุดและลงมาถ่ายรูปกับแขกหน้าแบ็คดรอปเรียบร้อยแล้ว อีฟจะเดินเปิดตัวเข้าไปในงาน พร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ โดยมีพี่เบสท์รออยู่และเดินมารับตรงกลางห้อง ระหว่างนี้ก็มีนักดนตรีบรรเลงเพลงแจ็สสด ๆ ด้วยค่ะ ก่อนจะขึ้นไปบนเวทีด้วยกัน โดยมีประธานกล่าวอวยพรงานแต่ง 2 ท่าน ตามด้วยครอบครัวของเราทั้งคู่ แล้วก็มีเพื่อน ๆ มาพูดสปีชอีก 3 ท่าน เสร็จช่วงนี้ เราก็พูดความในใจต่อกัน ต่อด้วยโมเมนต์ตัดเค้กค่ะ





เราอยากให้งานมีความสนุกนิดนึง ไม่อยากให้ซีเรียสมาก เลยมีเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แขกมีส่วนร่วม โดยแจกการ์ดให้ขูด ผู้โชคดี 3 ท่านที่ขูดเจอหน้าบ่าวสาว จะได้รับกล้องโพลารอยด์ไว้ถ่ายเก็บความทรงจำในงานค่ะ และปิดท้ายด้วยการโยนช่อดอกไม้




หลังจบงานแขกชมเรื่องอาหารเยอะมาก ๆ แม้จะเป็นรูปแบบค็อกเทล แต่เราก็เสริมด้วยซุ้มอาหารถึง 6 ซุ้ม เลือกจากลิสต์ของโรงแรมได้เลยค่ะ รับประกันว่าอร่อยทุกเมนู



เพราะวันแต่งงาน คือ วันที่รู้สึกพิเศษที่สุดในชีวิต
อีฟกับพี่เบสท์อยากขอบคุณทุกคนที่มาร่วมยินดี และทำให้วันแต่งงานเป็นความทรงจำที่ล้ำค่าที่สุด ขอบคุณทีมงานที่ช่วยดูแลเราอย่างดี วันนั้นบ่าวสาวแทบไม่มีเรื่องอะไรให้ปวดหัว มีแต่ความสุขอย่างเดียว ที่เสียดายคงเป็นการได้พักโรงแรมแค่คืนเดียว เพราะหลังจบงานเราต้องไปต่างประเทศ อยากบอกว่าห้องพักดีมาก หรูหรา กลิ่นหอม ตอนเช็กอินมีดอกไม้และการ์ดอวยพรต้อนรับ ไปจนถึงเสิร์ฟแชมเปญร่วมยินดีตอนจบงาน ทุกดีเทลเล็ก ๆ ทำให้เรารู้สึกเป็นคนพิเศษจริง ๆ ค่ะ

คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว
ใช้เวลาเลือกในสิ่งที่ “ใช่” : อย่ารีบตัดสินใจ ทั้งเรื่องสถานที่ ชุดแต่งงาน ช่างภาพ ฯลฯ ถ้ามีอะไรไม่ถูกใจ ให้หาก่อน จนกว่าจะมั่นใจ
บ่าวสาวที่ไม่มีเวลา เวดดิ้งแพลนเนอร์คือคำตอบ : การมีเวดดิ้งแพลนเนอร์จะช่วยตั้งแต่การหาทีมงาน วางแผน วางไทม์ไลน์ บ่าวสาวจะเบาใจและลดความกังวลไปได้เยอะ
วางงบประมาณชัดเจน : ถ้ามีงบจำกัด ควรบรีฟกับแพลนเนอร์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ช่วยบาลานซ์ค่าใช้จ่ายได้ถูกจุด
Photographer : Impressshot, Pisarnphoto, nuchitphoto






