กรีนกับเซร่าไม่เคยมีภาพงานแต่งงานของตัวเองไว้ในหัวเลยค่ะ เราเคยจดทะเบียนสมรสกันที่ออสเตรเลียเมื่อปีก่อน ในช่วงที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม และเคยจัดงานฉลองเล็ก ๆ กับเพื่อนสนิทเพียง 60 คน พอกรีนจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่ไทย คุณแม่ของกรีนก็ชวนให้จัดงานแต่งงาน เพื่อให้ทุกคนร่วมยินดีด้วย ตอนแรกเราก็กลัวว่าญาติผู้ใหญ่จะไม่เข้าใจ แต่โชคดีมากที่ครอบครัวเราทั้งคู่สนับสนุน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานครั้งนี้ค่ะ
เตรียมงานในเวลาแค่ 3 เดือน แต่ทุกอย่างลงตัว
เมื่อรู้ว่าจะกลับไทยเดือนสิงหาคม เราทั้งคู่มีเวลาเพียง 3 เดือน ในการเตรียมงานทั้งหมดจากออสเตรเลีย ซึ่งกรีนเป็นคนดูแลหลัก โดยเริ่มจากการหาสถานที่ก่อน เนื่องจากเรามีไม่เวลาสำรวจสถานที่จริง จึงดูรีวิวจาก SabuyWedding เน้นโรงแรมที่เดินทางสะดวกสำหรับแขกที่บินมาร่วมงานจากต่างประเทศ สุดท้ายก็ลงตัวที่ Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa (เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา) เพราะโลเคชันใกล้สนามบิน มี Shuttle Bus รับ-ส่ง และให้บรรยากาศเป็นส่วนตัว มองเห็นวิวสนามกอล์ฟสีเขียว ดูผ่อนคลาย ที่สำคัญ เราต้องดีลงานออนไลน์ แล้วเวลาของไทยกับออสเตรเลียห่างกัน 3-4 ชั่วโมง ซึ่งทางโรงแรมตอบไวมาก ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาเลยค่ะ
หลังจากได้สถานที่แล้ว ทางโรงแรมยังช่วยเหลือด้วยการส่ง Contact ของทีมงานอื่น ๆ มาให้เราเลือกด้วย ทำให้สามารถเตรียมงานได้ค่อนข้างทันเวลา รวมถึงในแพ็กเกจของโรงแรมก็มีค่อนข้างครบ ทั้งอาหาร ห้องพัก การตกแต่ง
อย่างแบ็กดรอป แกลเลอรี การตกแต่งเวที เราก็สามารถเลือกแบบและปรับธีมสีได้เลย สำหรับงานเราเป็นโทน Dusty Rose – ขาว – ชมพูพาสเทล ซึ่งเรามองว่าดูละมุน แต่ไม่หวานจนเกินไปค่ะ พอมาเห็นวันจริง ก็ออกมาสวยอย่างที่วาดภาพไว้เลยค่ะ
ชุดแต่งงานสะท้อนตัวตน สวยในแบบที่ตัวเองอยากเป็น
กรีนเคยถามเซร่าว่า ในวันแต่งงานอยากใส่ชุดแบบไหน กางเกงไหม? แต่เขากลับบอกว่าอยากใส่เดรส นั่นทำให้เราทั้งคู่เลือกใส่ชุดในฝัน ที่เรามั่นใจว่าเหมาะกับตัวเอง เพราะเราต่างก็อยากสวยที่สุดในสำคัญ โดยกรีนเลือกเป็นเดรสทรงเปิดไหล่และกระโปรงบานพรางสะโพก ส่วนเซร่าเลือกเดรสสไตล์มินิมอล ซึ่งเรามีโอกาสลองชุดครั้งแรก ก่อนวันงานเพียง 4 วันค่ะ ทางร้านจึงแนะนำให้ใช้แบบคอร์เซ็ตผูกหลังเพื่อความความสะดวกในการปรับไซส์ค่ะ
ปกติเซร่าจะแต่งตัวเรียบง่าย แนวสปอร์ต แต่พอวันงานทุกคนเซอร์ไพรส์มาก เพราะไม่เคยมีใครเห็นลุคนี้ของเซร่าเลยค่ะ กรีนเองยังประทับใจ เพราะวันนั้นเขาสวยมากจริง ๆ
พิธีแต่งงานผสมผสาน 2 วัฒนธรรม พร้อมออกแบบให้เข้ากับคู่ตัวเอง
ครอบครัวของกรีนเป็นไทย ส่วนครอบครัวเซร่าเป็นชาวสิงคโปร์ งานนี้จึงจัดเป็นพิธีไทยผสมจีนค่ะ มีทั้งขบวนขันหมาก รดน้ำสังข์ และยกน้ำชาตามธรรมเนียมจีน ซึ่งเราทั้งคู่มองว่าเป็นพิธีที่ได้แสดงความเคารพต่อครอบครัวทั้งสองฝ่าย
แต่เราก็มีปรับพิธีการให้เข้ากับคู่หญิง-หญิงด้วยนะคะ โดยเซร่าจะยกขันหมาก “สู่ขอ” กรีนตามสัญลักษณ์ เหมือนเขาเป็นฝ่ายขอพากรีนไปอยู่ด้วยที่ต่างประเทศ แต่บนเวทีจะไม่ได้กล่าวคำสู่ขอแบบจริงจัง พอถึงช่วงสวมแหวนหมั้น ก็ปรับเป็นการแลกแหวน และเราก้มกราบกันและกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเท่าเทียมกันค่ะ
กรีนเลือกจัดงานในช่วงกลางวัน ต่อด้วยเลี้ยงฉลองเย็น เริ่มขบวนขันหมากตอน 12.30 น. เพราะไม่มีพิธีสงฆ์ค่ะ จึงไม่จำเป็นต้องจัดช่วงเช้า และเราทั้งคู่อยากใช้เวลาชิล ๆ ตื่นมาทานข้าวเช้า แล้วค่อยแต่งหน้า และให้เพื่อนที่เพิ่ง Landing เช้าวันนั้นได้มีเวลาพักสักนิดก่อนค่ะ
สำหรับงานช่วง Reception จะไม่ได้มีพิธีรีตองเยอะ เน้นการพูดคุยแสดงความยินดี โดยมีคุณลุงของกรีนให้เกียรติเป็นคนกล่าวอวยพรคนแรก ตามด้วยเพื่อน ๆ ของกรีนและเซร่ามาพูด Speech ซึ่งบางคนรู้จักกันมา 20-30 ปี ก็ไม่คิดว่าเราจะมีวันนี้ ทำเอาซาบซึ้งจนเสียน้ำตากันเลยค่ะ
อีกพิธีการที่เป็นไฮไลต์ของงาน คือ “หยำเซ็ง” ประเพณีการดื่มฉลองในงานแต่งงานของชาวสิงคโปร์ค่ะ โดยจะพูดคำว่า “หยำ” ซ้ำ ๆ และลากเสียงยาวก่อนยกแก้วแชมเปญดื่มจนหมดแก้ว ทำพร้อมกันทั้งฮอลล์ยิ่งสนุกค่ะ
เซอร์ไพรส์สองต่อในคืนวันงาน
เราเคยแชร์ให้กันและกันฟังว่า ในงานแต่งงาน กรีนอยากให้มีคนร้องเพลงให้ ส่วนเซร่าก็อยากดูกรีนเต้นสักครั้ง พอช่วงรินแชมเปญกำลังจะมาถึง จู่ ๆ เซร่าก็หยิบไมค์ขึ้นมาร้องเพลง “Perfect” ของ Ed Sheeran สด ๆ เพื่อเซอร์ไพรส์กรีนกลางงาน โดยไม่มีใครรู้ แม้แต่ออแกไนซ์ก็เพิ่งทราบก่อนเริ่มงาน 30 นาที กรีนรู้สึกดีใจมากที่เซร่าจำได้ และยอมทำแม้ตัวเองจะขี้อายมากก็ตามค่ะ
พอถึง After Party กรีนก็เซอร์ไพรส์เซร่ากลับ ด้วยการโชว์เต้นเพลง “Can’t Take My Eyes Off You” ต่อด้วย “ยายแหล่ม” เรียกรอยยิ้มจากเซร่าและแขกทั้งงานเลยค่ะ โดยกรีนแอบไปซ้อมกับเพื่อน ๆ แค่ 1 ชั่วโมง ช่วงที่เพิ่งกลับมาไทย แล้วก็ไม่กล้าเปิดเพลงฟังบ่อย เพราะกลัวความลับแตกค่ะ (หัวเราะ)
ได้งานอบอุ่น น่ารัก หนือความคาดหวัง
งานนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีครอบครัวของเราทั้งคู่คอยสนับสนุน และแม้จะมีเวลาเพียง 3 เดือน แต่ด้วยทีมงานมืออาชีพ ทั้งโรงแรม ออแกไนซ์ และเพื่อน ๆ ทำให้ทุกอย่างราบรื่นค่ะ ส่วนมุมมองของเซร่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการจัดงานแต่ง LGBTQ+ มาก สัมผัสได้เลยว่าทุกทีมยินดีและพร้อมช่วยเหลือ ไม่มีใครมีคำถามในใจกับเราเลย ก็หวังว่างานนี้จะ Inspire อะไรใหม่ ๆ ให้กับทุกคนนะคะ
คำแนะนำสำหรับคู่แต่งงาน
คู่รักควรวางแผนร่วมกัน : การแต่งงานคือเรื่องของสองคน คู่แต่งงานควรคุยกันให้เข้าใจ มองเห็นภาพเดียวกัน และมีส่วนร่วมในการเตรียมงานไปด้วยกัน เพราะภาพนี้จะเป็นความทรงจำไปตลอดชีวิตคู่
ไว้ใจทีมงานที่เลือก : เมื่อเลือกทีมงานมาแล้ว ควรเชื่อมั่นในฝีมือและปล่อยให้ทุกคนทำงานในบทบาทของตัวเอง แล้วงานจะออกมาสมบูรณ์แบบ
โฟกัสคนที่รักในความเป็นเรา : ถ้าคู่ไหนที่ครอบครัวไม่ได้สนับสนุน เรายังมีเพื่อน มีกลุ่มที่รักในความเป็นเรา ถ้าอยากจัดงานแต่ง ให้จัดเลย โฟกัสในสิ่งที่เรามีความสุข และคนที่พร้อมจะมีความสุขไปกับความรักของเราดีกว่า
Photographer : Trust Cinema
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa