อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในงานแต่งงาน นอกจากจากการกำหนดธีมงานแต่งให้ชัด จัดงานให้น่าสนใจ ก็อยู่ที่บรรยากาศที่เกิดขึ้นระหว่างงานนี่แหละค่ะ ซึ่งผู้ที่จะช่วยให้ทุกลำดับงานไหลลื่นไปได้ด้วยดี มีปัญหาอะไรก็จัดการให้ได้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับเหล่า ‘พิธีกรงานแต่งมืออาชีพ’
วันนี้ Sabuywedding เลยได้โอกาสเหมาะ ขอเชิญคุณบีม MC Beam by Fahever มาช่วยแชร์ถึงเรื่องฟินๆ อินๆ ที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกพิธีกรงานแต่งงานกันสักหน่อย การันตีด้วยโปรไฟล์เริ่ด ระดับพิธีกรมืออาชีพผู้ผ่านเวทีงานแต่งงานมากว่า 200 งาน แถมยังเคยเป็นอาจารย์สอนวิชาเกี่ยวกับการพูดและบุคลิกภาพในมหาวิทยาลัยรัฐขนาดนี้ รับรองว่าเป๊ะทุกดีเทลแน่นอน
Photo : Sitphotograph
Photo : Fahever Photography
3 เรื่องฟินที่คุณจะได้จากพิธีกรงานแต่งมืออาชีพ
1. ทางเลือกที่ใช่สำหรับคู่ที่มีงบประมาณจำกัด : คู่ไหนที่ไม่สามารถจ้างได้ทั้งพิธีกรงานแต่งและทีมรันคิวในคราวเดียวกัน นี่ถือเป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่ช่วยเซฟเงินไปได้อีกมากเลยค่ะ เพราะพิธีกรงานแต่งมีหน้าที่ในการคุม Sequence ต่างๆ ให้ในงานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเบาใจไปได้
2.ลดความกังวลใจ บ่าวสาวยิ้มได้ สบายหายห่วง :
ไม่นอกบท : ตัดปัญหาเรื่องการให้คนขึ้นมาเป็นพิธีกร แล้วแซวหรือถามในสิ่งที่ไม่อยากให้ถาม
ไม่มาสาย : เพราะงานคืองาน จึงต้องทำงานให้สมกับที่บ่าวสาวได้เลือกมาแล้ว (และที่สำคัญคือ พิธีกรงานแต่งที่ดีไม่ใช่แค่ควรมาตรงเวลานะคะ แต่ต้องมา ‘ก่อน’ เวลา อย่างน้อยสักหนึ่งชั่วโมง ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เพื่อเตรียมงาน ซักซ้อมคิวงานต่างๆ ทำให้บ่าวสาวมั่นใจได้จริงๆ ว่าพิธีกรงานแต่งที่เขาจ้างมา พร้อมแล้วสำหรับการเริ่มงานจริงๆ)
3. บิ้วด์บรรยากาศงานได้ตลอด : เพราะรู้ว่ามีประเด็นอะไรในงานแต่งงานที่สามารถพูดถึงได้บ้าง สามารถเก็บตกรายละเอียดได้หมด ตั้งแต่ความหมายของพิธีการ ไปจนถึงลำดับงานที่จะเกิดขึ้นต่อไป หรือแม้กระทั่งซุ้มอาหารอร่อยๆ ในงานแต่งงาน
Photo : Fahever Photography
Photo : Be Style Wedding Planner
Photo : Fahever Photography
3 เรื่องอินไซด์ ที่พิธีกรงานแต่งมืออาชีพรู้จริงกว่าใคร
1. เป๊ะสุดๆ เรื่องพิธีการ : บ่าวสาวหลายคู่มักจะเข้าใจผิด คิดว่างานเลี้ยงเย็นเป็นงานซีเรียส ต้องใช้พิธีกรงานแต่ง แต่จริงๆ งานหมั้นเช้านี่แหละที่ซีเรียสกว่า เพราะบางบ้านผู้ใหญ่เองก็ไม่แน่ใจเรื่องพิธีการ ส่วนบ่าวสาวก็ไม่รู้ พิธีกรงานแต่งมืออาชีพก็จะเข้ามาช่วยจัดลำดับงานและอธิบายความตรงนี้ให้ แบบนี้ก็คลายกังวลไปได้ หรือถ้าแต่ละบ้านมีความเชื่อไม่เหมือนกัน แล้วให้เพื่อนๆ หรือคนทั่วไปมาเป็นพิธีกร เขาก็อาจจะไม่รู้จริง ทำให้ไม่สามารถแนะนำหรือรับมือได้ ยิ่งสับสนไปกันใหญ่ ว่าจะต้องทำตามใครดีค่ะ
2. รู้จักกาลเทศะ : เพราะงานแต่ละงาน ต้องการบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป บางงานเฮฮามาก แขกผู้ใหญ่ยังกันเอง ถ่ายรูปกันตลอด แบบนี้ก็เรียกเสียงหัวเราะได้เยอะหน่อย แต่ถ้างานใหญ่จริงๆ มีผู้หลักผู้ใหญ่ มีองค์มนตรีมาเป็นประธาน อันนี้ก็ควรรู้ว่าจะแซวมากก็ไม่เหมาะ สรุปง่ายๆ คือต้องรู้ว่าเวลาไหนเล่นได้ เวลาไหนเล่นแต่พอดีค่ะ
3. แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมือโปร : สามารถจัดการเดดแอร์ได้ พูดอธิบาย เล่าบรรยากาศให้ต่อเนื่อง บริหารจัดการเวลาได้ดี ยิ่งโดยเฉพาะช่วงเช้าที่ฤกษ์อาจจะกระชั้นชิดมากๆ หรือห่างจากกันมากๆ ถ้าเป็นพิธีกรงานแต่งมืออาชีพก็จะรู้ความหมายของแต่ละขั้นตอนพิธี สามารถอธิบายและขอสับเปลี่ยน Sequence ได้โดยไม่กระทบต่องานแต่งงาน
Photo : Fahever Photography
ทิปส์เลือกพิธีกรงานแต่งที่ดี ไม่มีพลาด
บีมแนะนำให้ดูผลงานย้อนหลังก่อนเลยค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างของบีมอาจจะเน้นให้ครบถ้วนพิธีการ แต่ก็ต้องไม่เชยมาก งานต้องสนุก บ่าวสาวได้รูปสวย สำหรับบางท่านก็อาจจะเป็นแนวย้อนยุคจัดเต็มหน่อย แนวนี้ผู้ใหญ่ก็จะชอบ หรือบางท่านก็อาจจะเป็นแนวทันสมัย ขี้เล่นๆ
และสิ่งที่บ่าวสาวควรบอกพิธีกรงานแต่งที่จะมาดำเนินรายการในงานแต่ง ก็คือฤกษ์ที่สำคัญ ธีมงานแต่ง ธีมสี รวมไปถึงรายชื่อแขกที่เป็นชื่อจริง เพื่อไม่ให้สับสนเวลาเชิญขึ้นเวที รู้แบบนี้แล้วเลือกพิธีกรงานแต่งมืออาชีพมาดำเนินรายการดีที่สุดค่ะ
อ่านรีวิวเจ้าสาวที่เคยใช้บริการ MC Beam by Fahever คลิกที่นี่
ติดต่อ MC Beam by Fahever โทร. 08045009xx (กดเพื่อดู)