Bangkok Marriott Hotel The Surawongse สถานที่แต่งงานโมเดิร์น พร้อมสวนสวย
ไวท์กับเต๋า(เจ้าบ่าว) จัดพิธีหมั้นและเลี้ยงฉลองคนละวันกัน เพราะรู้สึกว่าจะช่วยให้วันงานเหนื่อยน้อยลงและมีเวลาพูดคุยกับแขกมากขึ้น รวมถึงสามารถนำสิ่งที่ได้รู้จากงานวันแรกไปปรับปรุงงานอีกวันให้ดีขึ้นได้ด้วย
ซึ่งเราตัดสินใจจัดงานที่เดียวกันเพื่อที่แขกจะได้ไม่สับสนค่ะ โดยเลือก Bangkok Marriott Hotel The Surawongse(โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์) เพราะตอนไปดูสถานที่พบว่าทุกอย่างตรงใจมาก ไม่ว่าจะเป็นทำเลใกล้โบสถ์เหมาะกับงานของเราที่นับถือศาสนาคริสต์ บริเวณจัดงานมีทั้งในห้องและส่วนสวนที่เชื่อมต่อกัน สามารถประยุกต์ดีไซน์งานให้มู้ดแอนด์โทนแตกต่างกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้เราชอบตรงมีทั้งสวนแนวราบและสวนแนวตั้งทำให้บรรยากาศโดยรวมดูมีเสน่ห์ ไม่ต้องตกแต่งงานมากก็ยังสวยดูดีได้ค่ะ
พิธีหมั้นเก๋ โดดเด่นด้วยการเชิดสิงโต
สำหรับงานหมั้นเราอยากให้ทุกคนโฟกัสกับพิธีมากกว่าการตกแต่ง จึงเน้นความเรียบง่าย ใช้สีขาวกับเบจเป็นหลัก และประดับดอกไม้แค่บริเวณเวทีกับตั่งรดน้ำสังข์ในส่วนเท่านั้นค่ะ ซึ่งพิธีหมั้นของเราเป็นแบบไทยจีนที่มีความพิเศษตรงเราจ้างเด็กนักเรียนที่รับจ้างเชิดสิงโตที่เราเคยสอนมาเชิดสิงโตแทนขบวนขันหมาก แล้วเด็กๆ ก็ช่วยคิดกิมมิคน่ารักให้ด้วย คือการไหว้ผู้ใหญ่พร้อมมอบของขวัญมงคลค่ะ นอกจากนี้เรายังได้ของตกทอดจากบรรพบุรุษของฝั่งเจ้าบ่าวด้วย โดยไวท์ได้แหวน ส่วนเต๋าได้พินติดสูทค่ะ
งานหมั้นของเรามีการพักเบรกให้แขกทานอาหารด้วยนะคะ จะอยู่ระหว่างช่วงย้ายไปรดน้ำสังข์ในสวน โดยเราให้โรงแรมทำเป็น Snack Box และเพิ่มซุ้มเป็ดปักกิ่งกับติ่มซำให้ด้วย ซึ่งแขกประทับใจหน้าตาอาหารและรสชาติมากๆ เลยค่ะ
เล่าเรื่องราวบ่าวสาว ผ่านธีมงาน Snow White and Apple
เราอยากให้งานดูชิลล์สบายสไตล์เวสเทิร์น จึงเลือกจัดงานในสวนและตั้งคอนเซ็ปต์ไว้เป็น Snow White and Apple ที่มาจากชื่อเรา 2 คน คือสโนไวท์จากชื่อเจ้าสาวและแอปเปิ้ลที่แปลมาจากคำว่าเต๋าภาษาเวียดนาม ซึ่งเป็นชื่อเจ้าบ่าวค่ะ
โดยเราได้นำแอปเปิ้ลมาเป็นกิมมิคหลักในงาน ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลทาวเวอร์ เค้กแอปเปิ้ล การตกแต่งตามโต๊ะหรือบริเวณงาน อย่างตรงเวทีก็จะเป็นส่วนที่จัดเต็มที่สุด คือใช้ต้นไม้จริงเข้ามาประดับ แล้วนำแอปเปิ้ลเข้ามาแขวนและวางตามที่ต่างๆ โดยฉากหลังจะใช้เป็นผ้าสีขาวทิ้งตัวประดับโลโก้ 1 ผืนเพราะไม่อยากให้ดูแฟรี่เทลเกินไปค่ะ นอกจากนี้ของชำร่วยก็ยังเป็นแม็กเน็ตและที่เปิดขวดรูปแอปเปิ้ลหยินหยางที่เราลงมือวาดเองเลยนะคะ(หัวเราะ)
สำหรับอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเป็นเมนูค็อกเทล เน้นกินง่าย โดยจะวางสเตชั่นอาหารไว้ตามมุมต่างๆ ของสวน ส่วนในห้องจัดเลี้ยงนอกจากมีโต๊ะรับรองแขกผู้ใหญ่แล้ว ก็มีอาหารบางเมนูที่ต้องพึ่งแอร์เพื่อรักษารสชาติอาหารไว้ด้วยค่ะ และที่พิเศษเลยคือโรงแรมคิดสูตรเครื่องดื่มให้เราโดยเฉพาะด้วย ชื่อ ‘Sparkling Apple Cider’ มีส่วนผสมหลักคือแอปเปิ้ลไซเดอร์ค่ะ
พิธีการอบอุ่น ทุกดีเทลเต็มไปด้วยกิมมิค
สำหรับพิธีการ ตอนแรกเป็นพิธีในโบสถ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงและต่อด้วยโยนดอกไม้ โดยเรามีไอศกรีมโฮมเมดที่เราวาดฝาถ้วยเองให้แขกทานคลายร้อนด้วยนะคะ จากนั้นก็จะกลับมาโรงแรม โดยช่วงที่บ่าวสาวไปเปลี่ยนชุด แขกก็สามารถทานอาหารหรือถ่ายรูป Photo Booth ที่เรานำมาให้เล่นรอได้ ตรง Photo Booth นี้ แขกจะได้รูป 2 ชุด เก็บ 1 ชุด อีกชุดให้เขียนข้อความอวยพรบ่าวสาวเป็นที่ระลึกค่ะ
ส่วนของพิธีการงานเลี้ยงจะเริ่มด้วยการให้หลานมาเล่นเปียโน แล้วต่อด้วยคุณยายเจ้าบ่าวร้องเพลง Edelweiss จาก The Sound of Music กับคุณแม่เจ้าบ่าว จากนั้นก็จะเป็นช่วงเปิดตัว โดยเจ้าบ่าวจะโชว์เล่นไวโอลินที่ระเบียงชั้น 3 ของอาคารที่ติดกับสวนจนจบเพลง แล้วถึงลงมารับตัวไวท์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางแขกพาขึ้นเวทีเพื่อกล่าว Speech เสร็จแล้วจะเป็นช่วงกล่าวความในใจจากคุณพ่อเจ้าบ่าว เพื่อนบ่าวสาว และปิดท้ายด้วยพี่ของเจ้าบ่าวที่โฟนอินมาจากอังกฤษ ช็อตนี้มีการฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์ในห้องจัดเลี้ยงด้วยค่ะ
พิธีต่อมาจะเป็นช่วงราดคาราเมลบนแอบเปิ้ลทาวเวอร์ โดยน้องชายของไวท์จะมาร้องเพลง La Vie En Rose ให้ด้วยเพื่อเป็นสื่อแทนการพูดอวยพร จบพิธีตรงนี้ก็จะมีกิจกรรมให้แขกได้ร่วมสนุกและมอบของรางวัลเล็กน้อยๆ ที่เหลือก็รีแลกซ์ด้วยการให้เพื่อนสนิท
และคนในครอบครัวผลัดกันร้องเพลงกับวงดนตรีของเพื่อนค่ะ
งานนี้เราได้นำกลอนสิ่งที่ควรมีในงานแต่งหรือในตัวเจ้าสาวของฝรั่งมาใช้เป็นหลักด้วยนะคะ คือ ‘Something old-ชุดเจ้าสาวตอนงานเลี้ยงมาจากคุณแม่เจ้าบ่าวเมื่อ 35 ปีที่แล้ว,Something new-แหวนแต่งงานทำขึ้นใหม่โดยใช้เพชรจากสร้อยคออาม่า,Something borrowed-แหวนหมั้นจากคุณแม่เจ้าบ่าวที่ได้จากอาหม่าอีกที,Something blue-เล่มทะเบียนสมรสและชุดเจ้าบ่าว,Six pence in her shoe-เหรียญหกเพนนีของอังกฤษเราใส่ในรองเท้าข้างซ้ายตอนเข้าโบสถ์ค่ะ
งานที่ผ่านไปเราดีใจที่ได้เห็นทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของงาน สายตาทุกคู่ที่มองมาเป็นสายตาแห่งความรักความหวังดีจริงๆ และซาบซึ้งคุณยายเจ้าบ่าวที่พูดว่า "ยายอายุขนาดนี้แล้ว พร้อมสำหรับความตายได้ทุกเมื่อ แต่การได้เห็นงานแต่งของเราทำให้ยายนอนหลับฝันดีมาหลายคืนแล้วนะ"
นอกจากนี้ก็ชอบบรรยากาศของโรงแรมที่เข้ากับงานสไตล์ Asian-Western ของเราได้ดี สวยจนไม่ต้องตกแต่งมากมาย และรู้สึกประทับใจการบริการของพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพมากๆ ทุกคนพร้อมช่วยเหลือ ทางโรงแรมก็จัดพนักงานมาให้เพียงพอต่อการบริการ ทำให้งานไม่มีสะดุด ส่วนของอาหารแขกก็ชอบกันมาก ทุกคนชมว่าอร่อย โดยเฉพาะเมนูเป็ดปักกิ่งแนะนำเลยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ให้คนใกล้ชิดมีส่วนร่วมในงาน : อยากให้ลองสังเกตคนใกล้ตัวว่ามีความสามารถอะไรบ้าง ที่จะนำออกมาโชว์ มีส่วนร่วมในงานแต่งได้ เพราะการใช้วิธีนี้จะยิ่งทำให้วันนั้นพิเศษและมีความหมายยิ่งขึ้นค่ะ
อย่ามัวกังวลกับการจัดท่าถ่ายรูปมากเกินไป : งานแต่งมีความหมายมากกว่าเป็นงานถ่ายรูปร่วมกันเฉยๆ แนะนำให้เลือกช่างภาพดีๆ ที่ไว้ใจผลงานได้ แล้ววันงานก็ทำกิจกรรมไปตามธรรมชาติ ให้ช่างภาพตามถ่ายเอง รวมถึงไม่ต้องมีธรรมเนียมการถ่ายรูปหน้า Backdrop กับแขกทีละคนก็ได้นะคะ
สั่งตัดชุดกับร้านประจำแบบไม่พึ่งแบรนด์ก็ทำได้ : ถ้ามีช่างที่ไว้ใจ เคยใช้บริการอยู่แล้ว อยากให้ลองนำแบบที่ถูกใจไปให้เขาตัดเย็บ เพราะจะคุยกันง่าย มีโอกาสไปฟิตติ้งได้ง่ายค่ะ