Park Hyatt Bangkok สถานที่แต่งงานตรงใจ สรรสร้างความสวยได้เต็มพื้นที่
บี(IG:@bubee_k) จัดงานหมั้นช่วงเดือนธันวาคม ปี 63 ที่ Park Hyatt Bangkok (พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ) ค่ะ ที่เลือกที่นี่เพราะใกล้บ้าน อีกทั้งยังตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดคล้องกับความต้องการส่วนตัว โดยเราจะใช้บริเวณ The Apartment Park Hyatt ที่อยู่ชั้น 9 ทั้งชั้น เพราะชั้นนี้มีส่วนเชื่อมไปยังลานเอ้าท์ดอร์ ซึ่งเป็นอีกพื้นที่สำคัญที่จะต้องนำ Flower Arch ไปจัดตั้งไว้ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับแขก 100 ท่านได้อย่างไม่แออัดเกินไป จึงทำให้พื้นที่นี้ตอบโจทย์และตรงใจบีที่สุดแล้วค่ะ
โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ของความรัก พร้อมดีเทลงานศิลป์ในการตกแต่ง
บีเป็นผู้หญิงหวานและชอบดอกไม้มาก ฉะนั้นดอกไม้จึงมีส่วนสำคัญในการตกแต่งสถานที่ ประกอบกับบีเองก็มีภาพงานแต่งในฝันมาตั้งแต่เด็ก อารมณ์แบบเด็กผู้หญิงดู Fairy Tale อะเนอะ(หัวเราะ) พอถึงวันที่ได้แต่งงานจริงๆ จึงนำภาพฝันที่อยู่ในหัวมาตกผลึกสิ่งที่ต้องการ
งานนี้จึงใช้คอนเซ็ปต์ Bubee Blooming ที่มาจากชื่อเล่นของเราสองคน ผสานนิยามชีวิตรักที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้ โดยเราจะเน้นธีมสี Colorful โดยบีมี Reference และความต้องการที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าอยากให้ซุ้มมีลักษณะแบบไหน เฉดสีใด กำชับชัดเจน ที่เหลือก็ให้ Florist จัดการ เขาก็หาดอกไม้สดนานาพันธุ์กว่า 50 ชนิด มาเนรมิตสีสันได้อย่างงดงามค่ะ
สำหรับการตกแต่งจะมี 2 ส่วนหลัก ได้แก่ Flower Arch ขนาดสูงใหญ่ราว 5 เมตร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงคู่ของเรา เนื่องจากตอนพี่บูม(เจ้าบ่าว)ขอบีแต่งงาน เขาทำ Flower Arch ใหญ่มาก ฉะนั้นงานนี้จำเป็นต้องมี ไม่มีไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพี่บูมคงโกรธค่ะ(หัวเราะ) ซึ่ง Flower Arch นี้เราใช้เป็นจุดถ่ายภาพร่วมกับแขกด้วย เนื่องจากมุมนี้ เห็นวิวทิวทัศน์ตัวเมืองที่สวยงาม แล้ววันที่จัดงานอากาศก็ดี ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกไม้สดจึงไม่แปลกเลยที่แขกทุกคนจะชื่นชอบค่ะ
ส่วนที่สองเป็น Backdrop ที่จัดตั้งเป็นพื้นหลังระหว่างทำพิธี ซึ่ง Florist ที่เราใช้ใส่ใจในรายละเอียดมาก ถึงกับวาดลวดลายดอกไม้เองก่อนใช้พู่กันสลัดสีลงบนพื้นไม้เสร็จแล้วถึงค่อยนำดอกไม้จริงหลากสีไปวางไล่โทนตามเฉดสีภาพที่เห็นจึงเสมือนผลงานศิลปะ อีกทั้งยังได้การตกแต่งที่ Unique ไม่ซ้ำใครอีกด้วยนะคะ
ชุดเจ้าสาวเรียบหรูสไตล์ Modern Bride แต่คงความเป็นไทยไว้ด้วย
เนื่องจากบีมีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองจึงรู้สไตล์ตัวเองชัดเจนและไม่มีปัญหาเรื่องชุดเลย สำหรับงานนี้บีเตรียมชุดเจ้าสาว 2 ชุด โดยสั่งตัดจากคนละแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ความเหมาะสมในแต่ละช่วงพิธี อย่างช่วงแห่ขันหมาก สวมแหวนยกน้ำชา จะใช้ชุดที่เห็น Reference แล้วว่าตรงกับสไตล์ตนเอง โดยเน้นแนวหวานๆ ใช้ผ้าไหมไทยออริจินัล ตกแต่งช่วงแขนเป็นพู่ฟูฟ่องปักด้วยมุก คริสตัลชวารอฟสกี ส่วนพิธีรดน้ำสังค์จะเลือกชุดแบบเรียบร้อยหน่อย ซึ่งบีดีไซน์ชุดเองเลยค่ะ แล้วให้ทางร้านตัดชุดให้โดยเลือกใช้ผ้าไหมไทยเงา ซึ่งชุดถูกออกแบบมาเป็นแขนสามส่วน คอปาด ข้างหน้าดูเรียบร้อย มิดชิด แต่ด้านหลังแอบเซ็กซี่เบาๆ ด้วยการผ่าหลัง เว้าลึก เป็นรูปตัววี และติดเวลเจ้าสาวแบบยาวถึงพื้นค่ะ
นอกจากนี้ชุดเพื่อนเจ้าสาวเองบีก็ให้ความสำคัญถึงขั้นออกแบบและตัดชุดใหม่ให้ทุกคนเลยนะคะ โดยมีชุด 2 แบบให้เลือกตามสรีระและความชอบ ทั้งเดรสทรงเกาะอกโบว์และเดรสปาดไหล่เฉียงมีโบว์ ส่วนพี่สาวที่เป็น Maid of honor ก็จะพิเศษขึ้นมาหน่อย ด้วยการตัดแบบชุดเดรสคล้องคอ ลายผืนผ้าจะเป็นดอกไม้แนวหวานๆ ที่บีวาดเองกับมือ ก่อนจะนำไปดิจิทัลพริ้นท์ลงผ้าชีฟอง ทั้งหมดนี้บีตั้งใจดีไซน์ชุดเพื่อนเจ้าสาวให้ดูทันสมัย แม้จบงานนี้ไปยังสามารถใส่ไปงานอื่นได้ด้วยค่ะ
สุข สนุก ทุกพิธีการ เน้นความเรียบง่าย ไม่เครียด
บีจัดงานพิธีหมั้นไทยจีน ตามกำหนดการเริ่มประมาณ 7.00 น. ก็มีแห่ขันหมาก ถ้าเจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทองได้ก็จะมารับบีที่รออยู่ห้องรับรองเจ้าสาว จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกันยังห้องทำพิธีสู่ขอ เพื่อทำพิธีสวมแหวน มอบสินสอด ประมาณ 9.00 น. ก็มีพิธียกน้ำชา
จบแล้วถึงต่อด้วยพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งพิธีนี้ใช้เวลานานหน่อย เพราะบีอยากพูดคุยถามไถ่กับแขกทุกท่านอย่างเป็นส่วนตัว แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่บีก็ดีใจที่ได้เจอแขกในระยะประชิด เมื่อเสร็จพิธีประมาณ 11.00 น. บ่าวสาวและแขกก็จะเดินไปส่วนเอ้าท์ดอร์ ตรง Flower Arch เพื่อให้เจ้าบ่าว เจ้าสาวเดินลอดซุ้ม เปรียบเสมือนเป็นการเปิดตัวบ่าวสาวและจบงานวันนี้อย่างเป็นทางการ
งานของเราแต่ละพิธีค่อนข้างกระชับ เพราะบีเน้นสบายๆ ค่ะ แต่แม้พิธีการจะสั้น เรื่องอาหารเราก็จัดเต็มนะคะ(หัวเราะ) บีอยากให้แขกทุกท่าน Enjoy eating ด้วย งานนี้จึงมีอาหารรับรอง 3 ช่วงเวลา ตั้งแต่ อาหารเช้า , Afternoon Tea ตบท้ายด้วยอาหารมื้อเที่ยงที่ห้องอาหาร ซึ่งจะอยู่ถัดไปจากห้องทำพิธี มีการจัดวางโต๊ะกลมไว้ แต่รูปแบบอาหารเป็นแบบบุฟเฟต์ International ปรุงแบบ Live cooking มีเชฟมาปรุงให้ตรงหน้าค่ะ
แค่เห็นคนที่รักมีความสุข ก็สร้างความสุขและความประทับใจให้บ่าวสาวได้
บีชอบและประทับใจใน Flower Arch ที่เป็นสัญลักษณ์ของคู่เรามาก มันออกมาสวยเกินคาด ขนาดนิตยสารที่เคยมาสัมภาษณ์บียังชื่นชอบเลยค่ะ ที่สำคัญเวลาถ่ายรูปแล้วโพสต์ลง Instagram สีมันสวยจริงๆ นะคะ(หัวเราะ) แต่ถึงแม้บีจะชอบ Flower Arch ก็จริง ทว่าต้องยอมรับว่า ไม่ว่าจะดอกไม้หรือ Decoration ใดๆ ในงานเป็นแค่องค์ประกอบอย่างหนึ่ง เป็นของนอกกาย ดังนั้นสิ่งที่ประทับใจและสำคัญมากกว่านั้น คือการได้เห็นคนที่เรารักมาพร้อมหน้าพร้อมตาไม่ว่าจะเป็นญาติๆ พ่อ แม่ พี่น้อง หลาน ได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะในงาน ทุกอย่างมันเลยดูอบอวลไปด้วยความรัก พอเราเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขมากแล้วค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
เลือกสไตล์การตกแต่งงานที่ใช่จากนั้นทุ่มเทใส่ใจไปเต็มร้อย : อยากให้ดู Reference เยอะๆ ดูบ่อยๆ แล้วถามตัวเองว่าชอบแนวไหน ถ้าเลือกได้แล้ว ให้ทำใจชอบอันนั้นไปเลย อย่าโลเล จากนั้นใส่ใจเต็มร้อยทุ่มเทให้เต็มที่เพราะบีเชื่อว่าทุกสไตล์สวยหมด จะมีก็แค่อันไหนที่จะสวยพิเศษสำหรับเราก็เท่านั้นค่ะ
ไม่ใช่แค่ชุดสวย แต่ต้องเป็นชุดที่มั่นใจด้วย : ชุดเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่าเลือกแบบชุดที่ตัวเองไม่มั่นใจ นอกจากจะเลือกแบบที่สวยแล้วยังต้องอำนวยความสะดวกให้เราด้วย จะก้มกราบหรือทำอะไรก็ไม่ต้องมานั่งกังวล ระวังจนเสียบุคลิก ฉะนั้นถ้าได้ชุดที่เสริมความมั่นใจให้เราแล้ว จะอิริยาบถไหน เราก็จะมีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ
มีความสุขกับโมเม้นต์ในปัจจุบัน : อยากให้ทุกคนมีความสุขกับโมเม้นต์ที่เราจะมีได้แค่ครั้งเดียว อย่าแคร์เรื่องอื่นมากไป เช่น ดอกไม้จัดไม่สวยดั่งใจก็เครียด เราต้องพยายามหาแง่ดีให้กับมัน อย่ามัวจับผิด เพราะยิ่งเราเครียด งานจะยิ่งออกมาไม่ดี แต่ถ้าเรามีความสุขงานจะออกมาดี อีกอย่างอย่าตั้งความหวังไว้สูงไป ปล่อยตามสบาย บรรยากาศในงานจะรีแลกซ์อย่างเห็นได้ชัด และคนจะสัมผัสถึงความสุขของเรา อย่าลืมว่าคนที่มางานของเรา เขาก็อยากเห็นเรามีความสุขนะคะ