แตกต่างได้ในสไตล์ของตัวเอง
แรกสุดก่อนจะถึงวันงาน โบกับเพื่อนๆ มีจัดงาน High Tea Party กันค่ะ ด้วยความที่โบเป็นคนไม่ดื่มไม่เที่ยว ไม่ปาร์ตี้กลางคืน เพื่อนเลยออกไอเดียให้เหมาะกับบุคลิกเรา โดยเปลี่ยนงาน Hen Night ไปเป็นงาน High Tea Party ได้บรรยากาศสนุก สบายๆ มีถุงชาน่ารักๆ กับคัพเค้กรูปบ่าวสาว และชนแชมเปญกันนิดหน่อย
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการเข้ารับสมรสพระราชทาน
สำหรับงานเช้าเราไม่ได้จัด เนื่องจากของคู่โบ คุณเจ้าบ่าวเป็นทหาร และคุณตาก็เป็นทหารเก่าเหมือนกัน ท่านเลยทูลขอสมรสพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ หลังจากนั้นรอท่านโปรดเกล้า ก็ได้มาเป็นวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งโชคดีที่โบตัดชุดไว้แต่เนิ่นๆ เลย เพราะคนส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกัน เนื่องจากรู้วันแล้วต้องรีบตัดชุดเข้ารับ แต่ของเราพอมีเวลาให้ได้เตรียมตัว เลยไม่ฉุกละหุกดี
โดยปกติแล้วในหนึ่งเดือน สมเด็จพระเทพฯ ท่านจะโปรดเกล้าให้ทั้งหมด 8 คู่ โดยคนที่มาถ่ายภาพให้ก็จะเป็นช่างภาพในวัง ถ้ามีช่างภาพส่วนตัวมาก็จะถ่ายกันที่ด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพราะเข้ารับกันที่วังสวนจิตรลดา เราจะมีซ้อมใหญ่ก่อนวันจริง 2 วัน ไปซ้อมวิธีคลาน กราบ ให้ถูกต้องเหมาะสม อย่างของเจ้าบ่าวโบมีกระบี่ ก็ต้องไปดูด้วยว่าจะถือจะจัดวางยังไงให้ลงตัวที่สุดค่ะ
พิธีจริงในวันนั้นเป็นช่วงเวลาที่โบรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เพราะสมเด็จพระเทพท่านทรงเจิมหน้าผากให้ มีใบมะกอกมาเสียบหูตามพิธีโบราณ ซึ่งใบมะกอกที่ว่านี้ก็ใช้ใบจากในวังจริงๆ พอทำพิธีเสร็จต้องเก็บไว้เป็นอย่างดี แป้งเจิมผู้ใหญ่ก็แนะนำว่าให้ขูดเก็บไว้เลย ถึงแม้มันจะมีน้อยมากเพราะแต้มแค่ 3 จุด แต่ก็ถือว่าเป็นการได้รับพรจากพระองค์ท่านโดยตรง
ยิ่งช่วงรดน้ำสังข์ที่ท่านเทน้ำสังข์ลงตรงกลางขวัญศีรษะ ให้น้ำอบหอมค่อยๆ ไหลผ่านตรงกลางหน้าผาก ไปจนถึงปลายจมูกแล้วถึงหยดลงพื้น ไม่มีแตกแถว ท่านทำทุกขณะด้วยความบรรจง ทำให้โบรู้สึกอิ่มเอิบใจจริงๆ
สวยสุดใจ ในธีมขาวเขียว @Dusit Thani Bangkok Hotel
สำหรับช่วงงานฉลอง เราเลือกจัดกันที่ Dusit Thani Bangkok Hotel (ดุสิตธานี กรุงเทพ) เน้นสีขาวเขียว ดูเรียบหรู คลาสิกค่ะ เดรสโค้ดของแขกโบให้โจทย์ไปง่ายๆ ว่าเป็นสีแชมเปญ จะได้เข้ากับเครื่องดื่มที่แจกในงาน ซึ่งความสนุกคือทุกคนจะคอยถามตลอด ว่าสีแชมเปญนี่คือสีอะไร โบก็จะตอบไปว่าแล้วแต่จินตนาการ (หัวเราะ) อย่างบางคนถ้านึกถึงโรเซ่ก็จะนึกถึงสีชมพู บางคนนึกถึงแชมเปญทั่วไปก็จะเป็นสีทอง เป็นความหลากหลายที่ยังดูเข้ากัน
เรื่องการตกแต่ง พอผ่านมุมรีเซปชั่นมาแล้ว ขึ้นบันไดไปที่ห้องนภาลัย ก็จะเจอกับโฟโต้บูธอยู่ทางขวามือค่ะ ระหว่างรอถ่ายรูปกับบ่าวสาว แขกสามารถถ่ายรูปเล่นแล้วติด #bofiatinlove หรือถ่ายรูปกับอุโมงค์ดอกไม้แบบ British Style ได้ ได้อารมณ์เหมือนเวลาไปดูโปโลเลย เพราะจุดนี้เราต้องการให้ลิ้งค์กับแกลอรี่และวิดีโอที่ไปถ่ายในฟาร์มม้าโปโลเหมือนกัน เรียกว่าตอบโจทย์ได้ครบทุกธีมตามที่เราต้องการ
ดีเทลดี ดนตรีก็มา
นอกจากนี้เรายังเสริมบรรยากาศด้วยการให้คนมาสีไวโอลินตรงแกลอรี่ และมีวง KLO มาเล่นเพลงแจ๊ซด้านใน ช่วยขับกล่อมบรรยากาศไปในตัว ทำให้แขกทุกกลุ่มแม้แต่ต่างชาติก็แฮปปี้ไปด้วยกัน เพราะสามารถหาจุดที่ตรงกับความชอบของตัวเองได้จริงๆ
อาหารในงานเราเลือกแบบค็อกเทลและเพิ่มซุ้ม ไฮไลท์อย่างหนึ่งคือแซลมอนทั้งตัว ที่เชฟแล่ให้ดูกันสดๆ ส่วนอาหารก็หลากหลายสไตล์ทั้งไทย เอเชียน ยุโรป ซึ่งโบเคยได้ยินมาว่าถ้าอาหารเหลือในงานแต่งจะดี เพราะโบราณถือว่าจะเหลือกินเหลือใช้ เราเลยสั่งเยอะไว้ก่อน ปรากฏสุดท้ายก็เหลือกำลังดี เพราะแขกมาเกินกว่าที่คาดไว้จาก 800 คน เป็น 1000 คน
นอกจาก High Tea Party ที่จัดไปแล้ว เรายังสั่งถุงชาอีกแบบมาให้แขกได้ชงดื่มกันในงานนี้ด้วย มีทั้ง Fruit Tea, English Tea ให้เข้ากับซุ้มช็อกโกแลตฟองดูว์ รวมถึงมีไวน์กับแชมเปญให้ได้ดื่มกัน
First Dance แบบในละคร
สำหรับพิธีการ เนื่องจากงานนี้สมเด็จพระเทพฯ ถือเป็นองค์ประธานสูงสุด และได้มีการพระราชทานน้ำสังข์ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีประธานขึ้นมากล่าวอวยพร แต่จะเป็นแขกผู้ใหญ่ขึ้นมาพูดแทน อย่างของฝ่ายโบเป็นเพื่อนสนิทคุณแม่ มีการร้องเพลงสรรเสริญร่วมกัน ของฝ่ายเจ้าบ่าวมีการกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และตอบคำถามจากพิธีกร ก่อนลอดซุ้มกระบี่ไปตัดเค้ก
หลังจากนั้นเรารินแชมเปญเพื่อเพิ่มความสดชื่นสดใสในชีวิตคู่ แล้วมอบเค้กให้ผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ และตบท้ายด้วย First Dance จังหวะสนุกๆ ก่อนปิดงาน ซึ่งงานนี้เราให้เพื่อนเจ้าสาวจับคู่กับทหารซุ้มกระบี่มาเต้นเป็นคู่ๆ เลย
ความประทับใจทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะเราเลือกเชิญแขกที่สนิทกันจริงๆ มาร่วมงาน ทำให้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ญาติผู้ใหญ่หลายท่านก็พร้อมใจกันมาแสดงความยินดีในงานฉลอง เหมือนเป็นการรวมญาติที่ทุกคนได้มาพบปะสังสรรค์กัน แถมงานนี้เบื้องหลังยังมีเพื่อนของโบซึ่งเป็นเจ้าของ Cake walk ทำเซอร์ไพรส์ให้เป็นเค้กท็อปเปอร์รูปบ่าวสาวเหมือนจริง เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเลย
แนะนำบ่าวสาว
ต้องแพลนงานดีๆ : โดยเฉพาะเรื่องการเผื่อเวลาในการเตรียมตัว ว่าช่วงไหนเราจะทำอะไรบ้าง เพราะยิ่งใกล้วันจริงจะยิ่งฉุกละหุกเลยค่ะ
วางตัวหลักในการดูแลไว้ สบายใจกว่า : อย่างหนัางานจริงควรจะมีเพื่อนเจ้าสาวหรือออแกไนซ์ สักคนมาคอยอยู่ดูแลเจ้าสาว เพราะพอถึงเวลาแล้วเราอาจจะหาใครไม่ได้ ไม่มีเวลาทานอาหาร อย่างน้อยมีคนช่วยหาน้ำหวาน หากระดาษซับมันให้ก็ยังโอเคอยู่ค่ะ อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือรองเท้า ที่ยังไงก็ต้องหาคู่ใส่สบายมาสแปร์เอาไว้หน่อย เพราะไม่อย่างนั้นเวลายืนนาน เกิดไม่ไหวจริงๆ จะได้เปลี่ยนได้ทันค่ะ