Bride’s Story
จากคอนเซ็ปต์ที่เราคุยกับแพลนเนอร์ในตอนแรก บุ้งอยากได้งานแต่งแนวอบอุ่น มีกลิ่นอายเจ้าหญิงๆ ออกแนวแฟรี่เทลค่ะ เราเลือกสถานที่แต่งงานที่โรงแรม The Peninsula Bangkok (เพนนินซูล่า กรุงเทพ) เพราะมีโดมตรงกลางห้อง มีแชนเดอเลียที่สวยงาม ด้วยความที่เราเป็นเจ้าสาวสายดิสนีย์ เลยอยากให้บรรยากาศงานออกมาเหมือนอยู่ในวังในปราสาท สิ่งที่เราเน้นเป็นพิเศษคือ เรื่องธีมสีกับดอกไม้ตรงประตูทางเข้า อยากให้แขกลอดซุ้มเข้ามา แล้วรู้สึกเหมือนหลุดไปยังโลกเทพนิยายอีกแห่งนึง
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ เราประทับใจทั้งสองช่วง ทั้งงานเช้าและงานเย็นเลยค่ะ อย่างงานเช้าเองด้วยความที่มันเช้ามากๆ เราเลยไม่ได้คิดว่าแขกจะมาเยอะ แต่เพื่อนๆ ก็ตั้งใจมา บางคนมากันตั้งแต่ตีสาม ทั้งตื้นเต้นไปกับเรา ดีใจไปกับเรา ทั้งงานมีแต่ญาติสนิทกับเพื่อนที่รู้ใจกันจริงๆ ดังนั้นเราจึงเห็นถึงความตั้งใจของทุกคน
ส่วนงานเย็นเรียกได้ว่าเป็นงานแต่งในฝัน เพราะแพลนเนอร์ช่วยเนรมิตให้ทุกอย่าง เราเชิญแขกแค่ร้อยกว่าคน แล้วก็รู้จักทุกคนจริงๆ เราได้คุยกับทุกคน ได้กอดกับทุกคน ในงานมีแต่ความยินดี ได้บรรยากาศเหมือนงานรวมรุ่นมากกว่างานแต่งเลย (หัวเราะ)
ที่เด็ดที่สุดของวันนั้น ต้องยกให้เซอร์ไพรส์จากคุณเจ้าบ่าว ที่เตี๊ยมไว้กับแพลนเนอร์ด้วย เพราะตอนแรกบุ้งอยากได้พี่ตู่ ภพธร มาร้องเพลงให้ในงาน แต่เขาไปเช็คคิวกันมาแล้วบอกว่าพี่ตู่ไม่ว่าง คิวไม่ได้ เราก็โอเค ตัดใจไป แล้วก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องนี้อีกเลย
จนกระทั่งวันงานที่พิธีกรบอกบนเวที ว่าเจ้าบ่าวจะมีเซอร์ไพรส์ให้ หันไปเห็นอีกทีพี่ตู่เดินเข้าอุโมงค์มา ซาวน์สโมคอะไรมาเต็ม เปิดตัวอลังการ แถมมาร้องเพลงอยู่ตรงหน้า บอกเลยว่างานนี้เจ้าสาวน้ำตาไหล ดีใจกว่าแต่งงานอีกค่า (หัวเราะ)
Planner’s working process
(คุณบอส Boss.story) : เราเริ่มจากการคุยกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อน หาเวลาไปทำกิจกรรมร่วมกัน ไปเลือกของ ทานข้าว ดูความชอบของเขาจนเห็นคาแรกเตอร์ คอนเซ็ปต์หลักของงานครั้งนี้คือเล็กแต่อบอุ่น ได้ฟีลเจ้าหญิง เน้นโทนสีโรสโกลด์ พิงค์โกลด์ และต้องสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแขกที่มาในงาน
อย่างตอนเช้าเราจะเน้นการใช้ดอกไม้ ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน น่ารัก และใช้ผ้าขาวคลุมไว้ส่วนนึงให้ดูเรียบๆ ก่อน (ซึ่งพอเปิดออกมาทั้งหมดอีกทีตอนเย็น แขกจะได้เห็นแบบฟูลออปชั่น เสริมความอลังการให้เพิ่มมากขึ้น)
พิธีการเราปรับไปใช้แบบฤกษ์สะดวก ไม่มีพิธีสงฆ์ บ่าวสาวเองก็มีเวลาแต่งตัวในชุดไทยนานขึ้น ทำให้ภาพออกมาดูเฟรช สวยงาม นอกจากนี้เรายังคิดซีนเผื่อสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ โดยให้เจ้าบ่าวเปิดตัววนหน้าโรงแรมด้วยรถเปิดประทุน สื่อถึงความเป็นคนรักรถ แล้วก็ได้กิมมิคไปในตัว
แรกสุดเราเริ่มกันที่การแห่ขันหมาก สู่ขอ รับตัวเจ้าสาว สวมแหวน แล้วก็จดทะเบียนสมรส ต่อด้วยรับไหว้แขกทั้งหมด 8 ท่าน ถัดจากนั้นจึงรดน้ำสังข์ และร่วมรับประทานอาหารแบบโต๊ะจีนด้วยกัน
ตอนเย็นเราตกแต่งด้วยดอกไม้แบบครบองค์ ผสมผสานกับไฟที่อยากให้ได้อารมณ์แบบงานคอนเสิร์ต มีทั้งไฟย้อม ไฟหมุนที่พื้น ไฟแบบลำแสง รวมไปถึงควันสโมค มีหลากหลาย
นอกจากงานเช้าที่เรามีเวที แบ็คดรอป และอุโมงค์แล้ว งานเย็นก็จะเพิ่มเชิงเทียนเข้าไปในโต๊ะอาหารแบบ Long Table มีแชนเดอเลียสว่างๆ รวมไปถึงแกลอรี่รูป ที่ทำเป็นทรงประตูโค้งแบบอาร์คด้วย
ตรงแบ็คดรอปช่วงเย็นเองก็จะต่างกับช่วงเช้า ในช่วงเช้าจะดูไม่ได้มีมิติมากนัก ในขณะที่ช่วงเย็นจะมีดอกไม้มาโอบล้อมแบ็คดรอปไว้ ทำให้มีพื้นที่ที่แขกสามารถเข้าไปยืนได้อีก เวทีตอนช่วงเย็นเราก็ปลดผ้าลงให้เห็นดอกไม้ที่เราปักไว้มากขึ้น และใส่อะคริลิกเข้าไป ให้ได้ฟีลเหมือนมองจากในตู้กระจกเลย
พิธีการช่วงเย็นเราจะไฮไลท์ที่การเซอร์ไพรส์เจ้าสาว เราเริ่มจากการเปิด VTR เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานก่อน แล้วจึงเปิดตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยเพลงบรรเลงเพลงเดียวกับใน VTR
ต่อจากนั้นก็จะมีการสัมภาษณ์กันบนเวทีเล็กน้อย ถามคำถามเบาๆ เรื่องการไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ยุโรป 15 วัน 3 ประเทศ และเนื่องจากไม่มีประธาน พอจบช่วงนี้แล้วเราก็จะต่อด้วยช่วงตัดเค้กในเพลง Ost. Beauty and the beast มอบเค้กให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย แล้วก็เชิญฝ่ายบ้านเจ้าบ่าวกลับไปนั่ง ส่วนคุณแม่เจ้าสาวอยู่ที่เดิม มีการเปิด VTR เซอร์ไพรส์จากเจ้าสาวเพื่อแสดงความขอบคุณ ทำมาเป็นสไลด์ภาพวัยเด็กเรียงต่อกัน สื่อถึงความรักของคุณแม่ที่ดูแลเจ้าสาวมาอย่างดี จนวันนึงที่เจ้าสาวจะออกไปมีครอบครัวที่ดีด้วยเช่นกัน
พอเข้าช่วงโยนดอกไม้ เราก็เปลี่ยนโทนให้รู้สึกสนุกขึ้น ใช้เพลง Let it go จาก Frozen ที่เจ้าสาวชอบ แล้วระหว่างเจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราก็มีกิจกรรมดึงคนให้อยู่รอด้วยการโยนกล่องเหล้าจากเจ้าบ่าว 6 กล่อง งานนี้บ่าวสาวเองยังได้มีเวลาทานอาหารที่เสิร์ฟเป็นคอร์สด้วย ระหว่างนั้นเพื่อนๆ ก็สามารถกล่าวอวยพร หรือเผากันได้ มีพิธีกรคอยส่งไมค์ให้สนุกๆ ไป
ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เราเตี๊ยมกับเจ้าบ่าวไว้ว่าให้พี่ตู่มาเซอร์ไพรส์ในงาน ความสนุกคืองานนี้จะมีจอ LED เปิดลายกราฟฟิก EDM แล้วดิมไฟลงมา ทำให้ห้องกลายเป็นผับเลย
สำหรับการร่วมงานกับคุณบุ้งและคุณบี ทั้งสองคนถือเป็นคู่บ่าวสาวที่น่ารักมากๆ ใส่ใจกับงาน อยากให้งานออกมาดีจริงๆ ที่สำคัญคือเขาไว้ใจเรา ทำให้เราสามารถแสดงฝีมือออกมาได้เต็มที่ บอสได้ดูแลตั้งแต่ช่วงเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ยุโรป ทำพรีเซนเทชั่น วันงานจริงทั้งเช้าและเย็น ประสานงานและดีไซน์ทุกส่วน แม้แต่รายละเอียดอย่างชุดเพื่อนเจ้าสาว เราก็จัดการให้ พยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาจริงๆ โชคดีที่คุณแม่บ่าวสาวเองก็ไว้ใจ ทำให้ทำงานได้ง่าย นอกจากจะได้งานสวยสมใจ ก็ได้ความสบายในแบบที่แค่เตรียมตัวให้พร้อม เราก็เริ่มงานกันได้เลย!
คุณผักบุ้ง & คุณบี แนะนำบ่าวสาว
(เจ้าสาว) ตัดสินใจเลือกแต่ละอย่างให้ดีๆ : เพราะงานแต่งงานเป็นงานครั้งนึงในชีวิตที่เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปจัดใหม่ได้ ให้เลือกสิ่งที่ถูกใจเรา ไม่ต้องตามคนอื่นมาก แล้วทุกอย่างจะหลอมรวมออกมาเป็นงานที่ดีและน่าจดจำ ชนิดที่แขกเองยังต้องเอ่ยปากชม
(เจ้าสาว) อย่าลืมนอนเยอะๆ ก่อนวันงาน : มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะรู้สึกตื่นเต้นค่ะ แต่การนอนเยอะๆ จะช่วยตุนพลังงาน เพราะวันงานจริงเหนื่อยมากกกก นอนเยอะๆ จะได้ยิ้มสวย มีออร่า
(เจ้าบ่าว) หาเซอร์ไพรส์ให้เจ้าสาวด้วย : เพราะผู้หญิงอยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเขาทุกคนแน่นอนครับ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
Fahever PhotographyMC รันคิว:
MC Beam by Faheverสถานที่แต่งงาน:
The Peninsula Bangkok