อบอุ่นไม่เหมือนใคร ในสถานที่แต่งงานแบบไทย @บ้านครูปู อัมพวา
เราจัดพิธีหมั้นเช้าแบบไทยที่ บ้านครูปู อัมพวาค่ะ ที่นั่นเขาจะมีเรือนไทยสวยงามมาก ธีมสีที่เราเลือกใช้ จะเน้นเป็นโทนสีทองและชมพูกลีบบัว ดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งในงานก็จะคุมโทนสีตามนี้ด้วย คือเป็นสีชมพูอมม่วงทั้งหมด ทั้งดอกบัว ดอกกล้วยไม้ และดอกอื่นๆ ที่นำมาใช้แซมค่ะ จากการเลือกใช้สีประมาณนี้ จะช่วยทำให้ภาพรวมออกมาดูกลมกลืนกับธรรมชาติ และองค์ประกอบอื่นๆ ถ้าเลือกใช้เป็นสีขาวหรือสีเขียว ก็จะยิ่งดูสบายตา น่ามองเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ
การตกแต่งด้านนอก เราอยากให้ได้อารมณ์แบบวินเทจ และไหนๆ บรรยากาศของเราก็เป็นเอ้าท์ดอร์อยู่แล้ว เลยเนรมิตลานใต้ต้นไม้ให้มีลักษณะเหมือนกึ่งโรงนานิดๆ โดยนำฟางมาใช้แทนเก้าอี้ คลุมด้วยผ้าขาว มีดอกคัตเตอร์สีขาวช่วยเสริมความอ่อนโยนน่ารัก ด้านบนจะมีดอกไม้ห้อยระย้าลงมา
เราเลือกใช้ดอกกล้วยไม้ เพื่อให้เข้ากับพิธีเช้า ที่มีทั้งรับไหว้และรดน้ำสังข์ ส่วนปลายสุดแต่งเลเยอร์ให้ดูน่าสนใจด้วยพุ่มดอกไม้กลมๆ ตรงแบ็คดรอปเราใช้เป็นผ้าลูกไม้แล้วนำมาขึง เพราะเราคำนวณแล้วว่าพระอาทิตย์จะขึ้นมาจากทางด้านหลัง เหมือนใช้ผ้าในการกรองแสงบางๆ เพื่อให้ได้ฉากที่สวยงามอีกที งานนี้เราทำกันเองทั้งหมด มีเพื่อนๆ กับญาติๆ คอยช่วยเหลือ โชคดีที่แตงโมมีญาติที่ชำนาญด้านการจัดตกแต่งดอกไม้อยู่แล้วด้วย แค่ให้ reference ไป ก็ทำทุกอย่างออกมาได้สวยเกินคาดมากๆ เลยค่ะ
สืบสานวัฒนธรรมไทย ด้วยไฮไลท์อย่างขันหมากทางเรือ
สำหรับขันหมาก เนื่องจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นคนอัมพวาอยู่แล้ว บ้านอยู่ห่างกันแค่คนละฝั่งริมน้ำ เราเลยอยากจะคงพิธีไทยแบบดั้งเดิมซึ่งคือขันหมากทางเรือเอาไว้ ในพิธีเจ้าบ่าวจะขึ้นเรือมาจากต้นคลองอัมพวา และมีพิธีไหว้หัวเรือก่อน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและสักการะ เพื่อให้ท่านนำพาไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัย โดยเราเปลี่ยนจากเรือพายในสมัยก่อนมาเป็นเรือยนต์ เพื่อให้เหมาะสมขึ้น และยังช่วยให้บรรจุคนได้เยอะขึ้นด้วยค่ะ
ช่วงเวลาที่แตงโมประทับใจมากๆ คือหลังจากที่ขันหมากมาถึงแล้ว เรามีช่วงเวลาหนึ่งคั่นก่อนถึงตอนเริ่มพิธีจริง ด้วยการนั่งเรือต่อไปยังบ้านของเราเอง เพื่อไหว้เจ้าที่ที่ริมน้ำค่ะ ดังนั้นเราเลยได้ภาพบรรยากาศที่สวยงามมาก เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ อย่างหนึ่งเลยค่ะ
ที่ภูมิใจนำเสนอมากๆ อีกอย่างนึง คือทุกชุดในงาน แตงโมจะเป็นคนตัดและลงรายละเอียดเองทั้งหมดค่ะ ด้วยความที่แตงโมมีร้านชุดของตัวเองอยู่แล้วด้วย (WE Studio) เลยตั้งใจกับชุดแต่งงานของตัวเองมากๆ ทำไว้ทั้งแบบชุดไทยจักรพรรดิ์นุ่งโบราณ ตรงสไบเป็นงานปักมือทั้งผืน ผสมกันระหว่างสีทองและนาค ส่วนผ้าถุงเป็นผ้าไหมยกทองสีกลีบบัว พอแม็ตช์กันแล้วถ่ายออกมาจะขึ้นกล้องพอดีค่ะ อีกชุดเราทำเป็นผ้าลูกไม้คอปีน ไม่ได้ใส่ดีเทลอื่นๆ มาก เพราะอยากโชว์ลายและมิติของลูกไม้ แค่เลือกลวดลายให้เหมาะกับตัวเอง แค่นี้ก็จะช่วยให้ดูหรูหราขึ้นได้ไม่ยากเลย
ต่อยอดจากงานเช้า แต่ปรับลุคให้ดูโมเดิร์น
ช่วงงานเลี้ยงเที่ยง เรายังคงใช้กองฟางและกล้วยไม้เหมือนเดิมอยู่ค่ะ แต่บางส่วนจะถูกเปลี่ยนไปให้ดูโมเดิร์นขึ้น เช่น จากเดิมที่เราขึงผ้า เราก็เปลี่ยนไปใช้เป็นแบ็คดรอปต่อด้วยไม้อัด ลุคบ่าวสาวในช่วงนั้นก็จะสอดคล้องกันไป คือดูเปรี้ยวและทันสมัย เจ้าบ่าวมาในชุดสูทสีแดง ส่วนเจ้าสาวมาในลุคผมสั้น สวมชุดลูกไม้ที่ด้านหลังเป็นซีทรูเว้าลึก สำหรับช่วงทานอาหารเราก็ให้ทานกันตรงบริเวณงานนั้นเลย ได้อารมณ์เหมือนทานกันอยู่ในสวน ญาติผู้ใหญ่คนไหนที่มีอายุหน่อยเราก็จะจัดเก้าอี้ไม้เสริมไว้ให้ต่างหากค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
จัดงานแต่งงานที่เป็นตัวเองที่สุด : เพราะมันเป็นครั้งเดียว และเป็นครั้งสำคัญของเราและครอบครัวจริงๆ ค่ะ อย่าไปยึดติดกับกระแส หรือคำคอมเม้นท์ของคนอื่นให้มาก ที่สำคัญเลยคือ ให้เลือกช่างภาพที่เราชอบ โดยอิงจากสไตล์ที่เขาถ่ายเป็นหลักก่อน ดีกว่าไปเลือกจากงบประมาณแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ภาพที่ถูกใจค่ะ